หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

เงากามเทพ ตอนที่ 1 เนื้อเรื่องเต็ม

ตอนที่ 1

ชายหาดหัวหินบ่ายวันนั้นคลาคล่ำไปด้วยผู้คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวเดินกันขวักไขว่ และในทะเล เจ๊ตโบ๊ตหลายลำกำลังแข่งกันฉวัดเฉวียนอย่างสนุกสนาน ในจำนวนนั้นลำหนึ่งชายหนุ่มชาวไทยคนหนึ่งก็กำลังขับอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่เหมือนกัน แต่เวลาไม่นานเท่าไหร่เรือก็พลิกคว่ำ ยังผลให้ฝรั่งสองคนผัวเมียที่เป็นลูกค้านั่งซ้อนท้ายมาลงไปลอยคออยู่ในน้ำ

ชายหนุ่มคนขับชะลอเจ๊ตโบ๊ตอย่างตกใจและหันกลับลำมารับด้วยความหวาดหวั่นเล็กน้อย พอช่วยกันขึ้นมาบนหาดได้ ก็โดนลูกค้าชาวต่างชาติสองผัวเมียต่อว่าแต่ก็ไม่ได้ มากมายอะไรนัก ชายหนุ่มจึงขอแก้ตัวและเป็นการขอโทษด้วยการจะพาไปนวดตัว แต่ยังพูดไม่ทันจบ เสียงหนึ่งก็ตวาดออกมาข้างหลังว่า

"ยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น" คนที่ตวาดนั่นชื่อชิด และเป็นเจ้าของเจ๊ตโบ๊ตลำนั้นนั่นเอง เขาพูดแล้วก็บังคับให้ชายหนุ่มคนเช่าขับพร้อมกับฝรั่งสองคนผัวเมียเดินไปดูเจ๊ตโบ๊ตของเขา

"นี่เห็นมั้ย แผลเบ้อเริ่ม ค่าซ่อมสามหมื่นจะอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้"

"สามหมื่น...มากไปหรือเปล่า เมื่อกี้ตอนจ่ายค่าเช่าฉันไม่เห็นนายพูดอะไร" ชายหนุ่มที่มีชื่อว่าโรมพูดท้วง แต่ชิดพูดแทรกขึ้นมาว่า

"เมื่อกี้ตรวจเรือแล้วเพิ่งเห็น"

"เพิ่งเห็นหรือเพิ่งมีกันแน่" โรมยกมือเท้าเอวมองหน้าอย่างจับผิด แต่ชิดเองก็ไม่ยอม

"เฮ้ย พูดยังงี้ก็สวยซิวะ...พวกเรา ไอ้นี่จะเบี้ยวเงินข้าโว้ย" เขาหันไปตะโกนบอกพรรคพวกที่ให้เช่าเรือด้วยกัน ซึ่งพวกนั้นก็พากันรุมล้อมเข้ามา แหม่มกลัวมีเรื่องรีบบอกให้โรมจ่าย แต่โรมบอกว่า

"ไม่ได้ หากินง่ายๆแบบนี้เคยตัว ถ้าอยากได้เงินก็ไปตามตำรวจมา"

พวกชิดส่งเสียงล้งเล้งเพราะกลัวเรื่องถึงตำรวจอยู่ เหมือนกัน เนื่องจากว่าที่ท้องเรือนั้นเป็นแผลที่พวกเขาให้เด็กมาแต่งแต้มเมื่อกี้นี้เอง ฝรั่งกลัวเรื่องจะบานปลายเลยบอกว่าจะจ่ายเองก็แล้วกัน พูดแล้วก็ควักกระเป๋า แต่มีเสียงเสียงหนึ่งตะโกนบอกว่า "อย่าจ่ายนะนาย" ทุกคนหันไปดู เห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้พลางบอกว่า "ผมเห็นกับตาว่า ไอ้ดำลูกชายพี่ชิดเพิ่มทำรอยแผลที่เรือนั่นเมื่อกี้นี่เอง นั่นไง มันวิ่งหนีไปโน่นแล้ว" ชี้ให้ดูเด็กชายที่กำลังวิ่งหนี

"ไอ้เทียน เอ็งแส่อะไรด้วยวะ" ชิดตะคอกทันที ที่ใต้ต้นมะพร้าว ดำ ผู้ชายอีกคนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ด้วยทำตาเหลือกวิ่งหนีไปทันที แต่เทียนกลับปักหลักมั่น บอกชิดว่า

"ที่นี่มันที่ทำมาหากินของฉันนี่ พี่หากินไม่สุจริตแบบนี้ อีกหน่อยจะมีใครมาเที่ยวมาซื้อของฉัน ฉันไม่ยอมให้พี่มาทุบหม้อข้าวฉันหรอก..." เทียนพูดไม่ทันขาดคำ ชิดก็ปรี่เข้าผลัก แต่โรมก็สะอึกเข้าขวางเหมือนกัน

"อย่านะเว้ย ไม่งั้นเรื่องถึงตำรวจแน่ๆ"

ชิดเลยไม่กล้าได้แต่พูดอาฆาตเทียนว่าให้ระวังตัวไว้ แล้วก็พาพรรคพวกถอยไป

ooooooo

โรมเดินกลับไปที่รถของตัวเอง เปิดกระเป๋าสตางค์หยิบเงินออกมาพันหนึ่งยื่นให้เทียนพลางบอกว่า "เอ้านี่ รางวัลที่ช่วยฉันเมื่อตะกี้นี้" เทียนถอยหลังไม่ยอมรับ แต่พูดออกมาว่า

"ผมแค่พูดความจริง ไม่ได้หวังอะไรตอบแทน...ผมจะไม่รับเงินเปล่าหรอก...แต่ถ้าคุณซื้อของผมก็ได้ นี่ไงครับเทียนหอม เทราปีกลิ่นลาเวนเดอร์ก็มี กลิ่นใบเตย กลิ่นตะไคร้หอม กลิ่นพิมเสน แก้วละสามสิบครับ ถ้าซื้อสี่แก้วผมคิดร้อยเดียว เดี๋ยวผมทดลองจุดให้ดูก็ได้..."

"เอาละ เอาละ ไม่ต้องลองหรอก ฉันไม่ชอบจุดฟืนไฟในบ้านเดี๋ยวไฟไหม้ เอาเงินนี่ไปก็แล้วกัน"

โรมไม่รับของแต่พยายามจะให้เงินเปล่าๆ แต่เทียนก็ไม่ยอมรับเงินเหมือนกันยืนยันแต่ว่าถ้าจะช่วยก็ให้ซื้อของ เถียงกันไปเถียงกันมาเทียนก็เลยเซ็งเดินกระฟัดกระเฟ•ยดหนี โรมเกาหัวบ่นพึม ฝรั่งสองคนนั่นเข้ามาถาม โรมบอกว่าเด็กไม่ยอมเอาเงินเปล่าๆ แถมยังบอกว่า

"ถ้าจะเพี้ยนมั้ง ดีไม่ดีเป็นแก๊งเดียวกันหมดก็ไม่รู้ คนสมัยนี้ดูยากขึ้นทุกวัน..."

ooooooo

เทียนเดินไปบ่นไปว่าตัวเองโง่หรือฉลาดก็ไม่รู้ ที่ไม่ยอมรับเงิน เดินไปเจอะชิดที่ดักรออยู่ ชิดเข้ามาหาเรื่องถามว่าได้เงินรางวัลมาเท่าไหร่ให้แบ่งกันมั่ง เทียนบอกไม่มี ชิดเลยเข้ามาผลักอกเอา ด่าว่า

"หน็อย...เพิ่งเข้ามาอยู่ที่นี่แท้ๆ  แต่ซ่าไม่เข้าเรื่อง ถ้าไม่โดนซะมั่งคงไม่รู้สึก..." ชิดพาพวกเข้าประชิดตัว เทียนเห็นท่าไม่ดีเลยวิ่งถอยหลังหนีไปทางหลังตลาดเข้าไปแอบ อยู่ในผ้าใบที่พวกแม้ค้าคลุมของเอาไว้ พวกที่ตามมามองไม่เห็นเลยวิ่งไปทางอื่น พักหนึ่งเทียนออกมาจากผ้าใบเจอพี่ชายตัวเองที่กำลังยืนมองหาอะไรอยู่ แต่พอเห็นเทียนก็เลยเดินมาลากข้อมือแล้วบอกว่าจะพาไปทำงาน เทียนงงถามว่างานอะไร ชาญพี่ชายเทียนบอกว่าเดี๋ยวก็รู้เองแหละ

ที่แท้ชาญพาเทียนมาที่ร้านหมอนวดที่ขายบริการด้วย มีแมงดาสามสี่ตัวคอยยืนซื้อผู้หญิงอยู่ ชาญคงจะนัดกับพวกมันไว้แล้ว พอมาถึงก็รับเงินไปเลย เทียนอ้อนวอนว่าเคยนวดให้พ่อกับแม่เท่านั้น ชาญไม่ยอมฟังเสียงบอกว่านวดๆ ไปแล้วก็รู้งานเอง พูดแล้วก็หนีออกไปเลย เทียนโดนพวกแมงดายัดเข้าไปในห้องที่มีเสี่ยพุงพลุ้ยนอนรออยู่ พักเดียวเสี่ยก็เริ่มลวนลามเทียน บอกให้ทำแบบนั้นแบบนี้ เทียนไม่ยอมทำ ผลสุดท้ายเมื่อเสี่ยพยายามปล้ำเลยถูกเทียนขึ้นเข่าจนเกือบเป็นหมัน เทียนวิ่งหนีออกไปโดยมีเสียงเสี่ยร้องโอยๆอยู่ในห้อง เทียนวิ่งไปเจอชาญที่ตอนนี้เอาเงินที่ขายน้องได้ไปกินเหล้ามาจนเมาแอ๋ กลับถูกชาญด่าว่าและจะเอาตัวไปที่นั่นอีก เทียนไม่ยอมเลยถูกชาญซ้อมจนสะบักสะบอม เผอิญโรมกลับมาจากพาฝรั่งสองผัวเมียไปหาหมอนวดแบบนวดจริงๆเดินมาถึงตรงนั้นพอดีโรมจึงช่วยเทียนไว้ได้ แต่ก็สลบไป

ooooooo

โรมพาเทียนไปที่ร้านหมอซึ่งเป็นน้องเขยของเขา หมอเผ่าเทพรับตัวเทียนให้พยาบาลพาเข้าไปในห้องตรวจแล้วตามเข้าไปทีหลัง บอกกับพยาบาลให้ถอดสร้อยคอของเทียนออก แล้วเขาก็ใส่หูฟังตรวจอัตราการเต้นของหัวใจ พลางกดมือไปสองสามทีที่หน้าอก เทียน สะดุ้งร้องเบาๆ   หมอเผ่าเทพเองก็สะดุ้งเหมือนกันพยาบาลมองหน้าอย่างสงสัยเห็นหมอทำคิ้วขมวดถอดหูฟังออกเอาไปเขี่ยแหวกเสื้อเทียนดู เทียนซึ่งลืมตาขึ้นมาพอดีร้องลั่น ปัดมือหมอเผ่าเทพออกแล้วลุกขึ้นนั่งทำตาขวางใส่หมอ พยาบาลกดตัวจะให้นอนลงอีกพลางพูดปลอบ หมอเองก็บอกว่า

"ไม่เป็นไรนะหนู ให้หมอตรวจแป๊บเดียวเอง จะได้รู้ว่าหนูบาดเจ็บมากแค่ไหน"

"ไม่เป็นไรครับ ผมหายแล้ว ขอบคุณครับ" เทียนโดดลงจากเตียงแล้วรีบวิ่งออกไปข้างนอก เนื่องจากไม่คุ้นเคยกับสถานที่เลยวิ่งไปชนเก้าอี้ตัวหนึ่งล้มลง เสียงล้มของเก้าอี้ทำให้โรมที่นั่งสัปหงกอยู่ตื่นขึ้น เห็นหลังเทียนวิ่งออกไปจากร้านหมอ  เผ่าเทพตามออกมากำลังจะบอกอะไรกับโรม แต่พอเอ่ยคำว่า

"เฮ้ยโรม...เด็กนั่น..." เท่านั้นเองโรมก็นึกได้ว่าทิ้งลูกค้าฝรั่งสองคนนั้นไว้และกำลังโทร.มาตามเขาพอดี โรมไม่ทันฟังว่าเผ่าเทพพูดว่าอะไร ร้องออกมาว่า

"เวรแล้วเผ่า...ฉันทิ้งลูกค้าเอาไว้ว่ะ ขอบใจมาก แล้วจะโทร.หา" ปิดมือถือแล้ววิ่งพรวดออกไปเลย

ooooooo

โรมไปไม่ทันเพราะฝรั่งสองคนนั่นกลับไปเองเขาจึงขับรถเพื่อกลับบ้าน เผอิญไปเจอเทียนเดินร้องไห้อยู่ริมถนน โรมบีบแตรเป็นเชิงถามไถ่ แต่เทียนกลับวิ่งหนี รถที่วิ่งสวนมาเป็นของพวกลูกน้องเสี่ยที่มีชาญนั่งมาด้วย เขาลดกระจกลงตะโกนให้เทียนขึ้นรถ แต่เทียนกลับหลังหันวิ่งไปทางรถของโรมโดยมีชาญและลูกน้องเสี่ยไล่ตาม โรมเห็นสภาพดังนั้นก็เปิดเก๊ะหยิบปืนออกมา พอดีกับที่ชาญมาถึงตัวน้องสาว เอื้อมมือไปกระชากตัวเทียน

โรมยิงปืนขู่ขึ้นฟ้าสองนัด พวกนั้นเลยวิ่งหลบกันกระเจิง โรมกระชากเทียนที่วิ่งมาหาเขาขึ้นรถแล้วขับหนีไปทันที มาได้ไกลพอสมควรแล้วโรมจึงจอดรถถามเทียนว่า

"บอกมาซิ มันเรื่องอะไร ทำไมต้องหนีพวกนั้นหัวซุกหัวซุน แล้วยังหนีหมอ หนีฉันอีกด้วย"

เทียนไม่ตอบเอาแต่ร้องไห้จนโรมชักอึดอัดร้องออกมาว่า "ร้องไห้ทำไมนักหนาวะ เป็นกะเทยรึเปล่าเนี่ยแกน่ะ"

เทียนตกใจ "ไม่ ไม่ใช่นะครับ ผมเป็นผู้ชาย แล้วก็ไม่ใช่ผู้ร้ายด้วย"

"ไม่ใช่ผู้ร้ายแล้วหนีทำไม?"

"คือ คือ พี่เค้าบังคับให้ผมทำงาน" เทียนอึกอักไม่ยอมตอบอะไรอีก จนโรมถามว่าเป็นงานนั่นใช่ไหม งานนี่ใช่ไหมเทียนก็เอาแต่ตอบว่าไม่ใช่ลูกเดียว จนโรมชักจะนึกออกเลยพูดออกมาว่า

"เขาบังคับให้แกขายตัวละซิ ไอ้เลวเอ๊ย แบบนี้ต้องลากคอมันเข้าคุกแล้วละ ไป ไปแจ้งความกัน"

เทียนสะดุ้งร้องออกมาดังลั่น "อย่านะครับ ผมไม่อยากให้เค้าติดคุก ยังไงเค้าก็ยังเป็นพี่ผม"

"แต่มันไม่ได้เห็นแกเป็นน้องมันถึงทำแบบนี้ได้...เอาเถอะแล้วนี่แกจะไปไหนต่อล่ะ...ถ้ายังไม่รู้จะไปไหนก็กลับไปบ้านฉันก่อนก็แล้วกัน แล้วนี่เราชื่ออะไรล่ะ?"

"เทียนครับ"

"เออ ส่วนฉันชื่อโรม ทำสวนปาล์มอยู่ที่ชุมพรโน่น" โรมกระชากรถออกทันที

ooooooo

ที่บ้านสวนปาล์มของโรมขณะนี้ กมัยธรชายหนุ่มพิการเพื่อนของโรมที่จะไปไหนต้องนั่งรถเข็นไปตลอดกำลังนั่งรถเข็นพาตัวออกจากบ้านจนถึงทางลาดจะลงสระโดยเขาไม่รู้ตัว หน้าตาเหม่อลอยคล้ายกับกำลังคิดอะไรอยู่ มือชี้ไปทางนั้นทางนี้ ปากก็ตะโกนสั่งงานเพราะในจินตภาพของเขาเห็นว่าไฟกำลังไหม้สวนปาล์มอยู่ รถวิ่งลงทางลาดไปยังสระเรื่อยๆ ขณะเดียวกับรถของโรมกำลังเลี้ยวเข้ามาถึงตรงนั้นพอดี โรมร้องอย่างตกใจทำให้เทียนซึ่งนั่งคู่มาด้วยและเห็นเหตุการณ์ พลอยตื่นตระหนก

รถยังไม่ทันจอดสนิทดี เทียนก็พรวดออกจากรถโผนไปที่วีลแชร์ที่กำลังไปติดแง่หินก่อนจะร่วงลงสระ โดยไม่คำนึงถึงตัวเอง เทียนเข้าไปกอดร่างกมัยธรลากออกจากวีลแชร์ ได้ทันท่วงที โรมที่ตามมาทีหลังยึดรถเปล่าไว้แน่น กมัยธรมองหน้าคนที่ช่วยตัวเองอย่างตกใจ ร้องเรียกคนชื่อพิศเพลินออกมาได้สองคำก็คอพับลงไป

ooooooo

โรมพากมัยธรไปที่ห้องพัก วางลงบนเตียงค่อยๆ แล้วถอยออกมายืนมองเพื่อนที่หน้าต่าง ทิพย์เอาผ้าชุบน้ำเช็ดหน้ากมัยธรอย่างเบามือ พูดกับโรมไปด้วยว่า

"ป้าขอโทษจริงๆค่ะ ไม่คิดว่าคุณธรเธอจะมีเรี่ยวแรงออกไปอย่างนั้นได้ ช่วงที่คุณไม่อยู่ก็อาการไม่ค่อยดีนัก ข้าวปลาอาหารก็ไม่ยอมกินต้องหลอกล่อเคี่ยวเข็ญกันน่าดู ระยะหลังๆนี่ดูแกแปลกๆไป แกชอบเพ้อถึงเรื่องราวเก่าๆในอดีต ป้าก็ไม่ค่อยรู้เรื่องว่าเป็นยังไงได้แต่เออๆคะๆไปตามเรื่อง" พูดถึงตอนนี้พอดีกมัยธรเริ่มรู้สึกตัวพึมพำเรียกชื่อพิศเพลินอีก โรมรีบเข้าไปนั่งข้างๆ "ว่าไงเพื่อน ได้ข่าวว่าตอนฉันไม่อยู่ แกเกเรกับป้าทิพย์เหรอ?"

กมัยธรไม่ตอบแต่กลับถามว่าพิศเพลินอยู่ไหน เมื่อกี้เค้ามาเยี่ยมฉัน เค้ายังกอดฉันอยู่เลย โรมทำหน้าชอบกล แต่พอนึกได้จึงบอกว่า

"แกหมายถึงเทียนใช่มั้ย นั่นน่ะ เป็นเด็กผู้ชายที่ฉันพามาด้วย หน้าตาท่าทางมันเหมือนผู้หญิง แต่ไม่ใช่พิศเพลิน...แกควรจะลืมไอ้เรื่องเก่าๆได้แล้ว พิศเพลินเค้าไม่มีทางมาหาพวกเราหรอก เค้าตัดขาดแกกับฉันไปตั้งนานแล้ว ยอมรับความจริงเถอะเพื่อน เพื่อตัวแกเอง" กมัยธรฟังแล้วได้แต่นั่งซึมไป

ooooooo

ป้าทิพย์เห็นเทียนยืนชะเง้ออยู่หน้าห้องไม่กล้าเข้ามาจึงพยักหน้าเรียก เทียนย่องเข้ามาแล้วถามว่า "คุณคนเมื่อกี้เป็นยังไงบ้างครับ"

"คุณกมัยธรเป็นเพื่อนสนิทของคุณโรม แต่แกไม่ค่อยสบาย ฉันเป็นคนดูแลแกเอง ขอบใจเธอมากนะที่ช่วยคุณธรเอาไว้ คุณโรมบอกว่าเธออยู่ที่หัวหินเหรอ?"

"ใช่ครับ ผมอยากตามมาทำงานกับคุณโรมที่นี่ครับ" ป้าทิพย์พยักหน้าแล้วถามถึงข้าวของที่ติดตัวมา เทียนได้แต่ ยิ้มแห้งๆบอกว่าไม่มี ป้าทิพย์มองหน้าอย่างแปลกใจเลยเห็นรอยฟกช้ำดำเขียวที่หน้าของเทียนเต็มตา กำลังจะเอ่ยปากถามพอดีโรมพูดขึ้นก่อนว่า

"ป้าทิพย์ครับ รบกวนช่วยดูแลเด็กเทียนนี่ด้วย...อ้อ... ให้ไปพักเรือนคนงาน...เออ เอางี้ดีกว่า ให้นอนห้องไอ้ธงก็แล้วกันคงพอมีที่ เมียเพิ่งหนีไปเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง"

เทียนสะดุ้งรีบบอกว่า "ผม...ผมขอนอนที่เรือนนี้ได้มั้ยครับ...เอ้อ...ผมคิดว่าถ้าผมอยู่เรือนนี้จะได้ช่วยป้าทิพย์ดูแลคุณกมัยธรอีกแรงเผื่อเกิดอะไรขึ้นแบบเมื่อกี้"

โรมพยักหน้า "เออ ดีเหมือนกันนะครับป้าทิพย์ มีเด็กผู้ชายคอยดูแลนายธรอีกคน ดีกว่าเด็กผู้หญิงสองคนนั่นเยอะ" โรมพูดจบก็เดินออกไป เทียนยิ้มอย่างดีใจ แต่สบตาป้าทิพย์ที่กำลังมองเขาอย่างสงสัยเลยรีบหุบยิ้มทันที ป้าทิพย์ไม่พูดอะไร ออกไปจากห้องพักใหญ่ๆก็หอบที่นอนหมอนมุ้งและเสื้อผ้าใช้แล้วของโรมเข้ามายื่นให้บอกให้ใช้ไปก่อน เทียนพนมมือไหว้ขอบคุณด้วยความดีใจ เทียนยกเสื้อของโรมตัวหนึ่งขึ้นมาทาบกับตัวลูบคลำไปมาแล้วใจก็ประหวัดไปถึงนางถมยาผู้ที่เธอเข้าใจว่าเป็นแม่กำลังใช้ผ้าผืนค่อนข้างยาวรัดหน้าอกให้เธอแล้วสั่งว่า "รัดเอาไว้อย่างนี้นะลูก จะได้ไม่มีใครรู้ว่าเอ็งเป็นผู้หญิง" แถมนายใช้ผู้พ่อก็กำชับเธออีกว่า "จะได้ไม่ถูกรังแกไงล่ะ เป็นผู้หญิงน่ะมันอันตรายรอบด้าน" แม่ถมยากำชับอีกว่า "แม้แต่พี่ชาญก็ให้รู้ไม่ได้ จำเอาไว้"

และตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาเทียนก็อยู่ในคราบของเด็กผู้ชายตลอดมา

ooooooo

ชาญ ซึ่งเทียนเข้าใจว่าเป็นพี่ชายแท้ๆคอยรังแครังคัด พอลับหลังแม่ก็จะใช้งานเธอสารพัด แถมทุบตีเตะต่อยอยู่ตลอดเวลา มีแต่พ่อกับแม่เท่านั้นที่คอยปกป้อง ชาญรังแกคนเดียวยังไม่พอ อ้อ พี่สะใภ้ที่ชาญพาเข้าบ้านมาก็ยังช่วยด้วย

จนกระทั่งวันหนึ่งชาญถูกจับเข้าคุก พ่อกับแม่ต้องขายบ้านไปประกันตัวออกมา พอออกจากคุกได้ชาญก็ทำท่ายโสใส่พ่อกับแม่ตัวเอง เมื่อถมยาบอกว่าให้กลับบ้านด้วยกัน ชาญตะคอกใส่แม่ทันที

"กลับไปก็ใช้งานฉันยังกับวัวกับควาย ไม่เหมือนไอ้เทียน วันๆไม่ต้องทำอะไร ไอ้เทียนมันลูกรัก ฉันมันลูกชังนี่"

เทียนตาโตรีบบอกว่า "ไม่จริงนะพี่ชาญ นี่พ่อกับแม่ ขายที่ขายบ้านมาประกันพี่ ตอนนี้พวกเราไม่เหลืออะไรแล้ว ถ้าพ่อกับแม่ไม่รักพี่จะทำยังงี้เหรอ"

ชาญไม่ฟังเสียงใครทั้งนั้น พอดีอ้อเมียของเขาขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามา ชาญสะบัดแขนพ่อกับแม่โดดขึ้นไปซ้อนหลังเมียทันที สองคนเอาตัวรอดไปแล้ว พ่อกับแม่ต้องพาเทียนขึ้นรถโดยสารกลับบ้าน และวันนั้นเองที่เทียนเสียพ่อกับแม่ไปจนหมดทั้งสองคนเพราะรถไปชนกับรถอีกคันอย่างแรง คนโดยสารรถตู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก รวมทั้งพ่อกับแม่ของเทียนด้วย

นึกมาถึงตรงนี้เทียนยกมือขึ้นคลำสายสร้อยที่ร้อยแหวนวงหนึ่งซึ่งแม่สวมใส่คอให้และบอกว่าให้เก็บให้ดีๆสร้อยกับแหวนนี่เป็นของสำคัญมาก ติดมากับตัวเทียนตั้งแต่เล็กแต่แม่ถอดเก็บเอาไว้เพราะกลัวทำหาย แต่นี่เทียนโตแล้วคงรักษามันได้ แต่ว่าขณะนี้สร้อยเส้นนั้นหายไปแล้ว เทียนไม่รู้ว่าตอนที่โรมพาเธอไปหาหมอนั้นหมอบอกให้พยาบาลถอดเอาไว้เพื่อการตรวจรักษา แต่พอเทียนฟื้นขึ้นมาก็หนีเตลิดออกจากร้านหมอไปเลย เทียนตกใจจนเกือบหมดสติคิดว่าจะต้องหาทางกลับไปหาสร้อยให้ได้

ooooooo

หลังจากที่เทียนออกจากบ้านไปแล้ว ชาญกับอ้อก็ขนข้าวของเทียนออกมาหาของมีค่า แต่ก็ไม่เจอว่ามีอะไรพบแต่กล่องใส่ผ้าอนามัย จึงทำให้สองคนผัวเมียรู้ว่าเทียนไม่ใช่เด็กผู้ชาย และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการค้นของของเทียนครั้งนี้ สองคนผัวเมียได้รู้ความลับสำคัญของเทียนแล้วทั้งหมด

เทียนหาทางหนีกลับไปหาชาญที่บ้านเพื่อจะไปถามเรื่องสร้อยกับแหวน ชาญดีใจมากเพราะจะได้จับตัวเอาไว้ไปส่งให้เสี่ยอีก พอเทียนถามถึงของชาญก็บอกว่าเขาเก็บเอาไว้เอง เรียกให้เทียนเข้าไปเอาในห้อง แต่พอเข้าไปแล้วชาญกลับแบมือบอกว่า ถ้าอยากได้ก็เอาเงินมาไถ่ เทียนร้องไห้บอกว่า

"ฉันไม่มีเงิน ที่กลับมาได้ก็ต้องโหนรถเขามา สงสารฉันเถอะนะ ขอสร้อยกับแหวนคืนให้ฉันเถอะ"

"ไม่เป็นไรไม่มีเงินก็ แต่ต้องไปกับฉัน ฉันจะพาแกไปหาเงิน เสี่ยเค้ายังต้องการแกอยู่นะ"

เทียนถอยกรูด ร้องออกมาว่า "ทำไมพี่ใจร้ายกับฉันขนาดนี้ เราเป็นพี่น้องกันแท้ๆ"

"ถุย...อีตอแหล ข้ารู้ความจริงหมดแล้ว เอ็งไม่ใช่น้องข้า พ่อกับแม่เก็บเอ็งมาจากไหนก็ไม่รู้ นี่ๆ...จดหมายที่แม่เขียนถึงครูพรฝากเอ็งเข้าโรงเรียน...และที่สำคัญ เอ็งเป็นผู้หญิง" ชาญเอาสูติบัตรออกจากกล่องมาชูให้ดูตรงหน้า เทียนมองเห็นอย่างชัดๆเลยว่าในนั้นมีชื่อเด็กหญิง ดอกเทียน บางเนิน เทียนอึ้งทันทีเมื่อความลับของตัวเองชาญได้รู้แล้ว

ที่ตลาด โรมซึ่งพอรู้ว่าเทียนหนีมาก็ขับรถมาตามหา เที่ยวถามเขาไปทั่วจนไปเจอกับชิดคู่อริเก่า จึงทำใจดีเข้าไปหาและบอกว่าจะให้เงินถ้าบอกว่าบ้านพี่ชายเทียนอยู่ที่ไหน ชิดพอเห็นเงินก็ตาโตลืมเรื่องที่เคยชกต่อยกับโรมไปเลยรีบพาไปทันที ไปถึงที่นั่นได้ยินเสียงคนในบ้านกำลังทะเลาะทุ่มเถียงกัน เพราะชาญกำลังบังคับเทียนให้ไปหาเสี่ย จนกระทั่งใช้กำลังฉุดกระชากลากถู โรมโถมตัวเข้าพังประตูทันที ชาญผงะเมื่อเห็นปืนในมือของโรม ยอมปล่อยมือจากเทียนซึ่งโผเข้าหาโรมเป็นที่พึ่ง โรมจะเอาตัวชาญไปส่งตำรวจให้ได้แต่เทียนขอร้องเอาไว้บอกว่าเธอไม่เอาเรื่องขอให้หมดสิ้นกรรมกันแต่ชาตินี้ โรมจึงดึงเทียนเดินออกจากบ้าน แต่ยังใจดีโยนเงินปึกหนึ่งไว้ให้ชาญที่ขอค่าเลี้ยงดูเทียน บอกกับชาญว่า

"ถือว่าฉันซื้อเทียนจากพวกแกก็แล้วกัน ต่อไปนี้ห้ามมายุ่งเกี่ยวกับเทียนอีก"

ooooooo

ที่บ้านหลังใหญ่ของคนมีเงินอีกหลังหนึ่ง ขณะนี้กำลังมีงานปาร์ตี้โดยกุลชาติลูกชายคนเดียวของเจ้าของบ้าน เนื่องในวันที่ตัวเขาถูกรีไทร์ให้ออกจากโรงเรียน โดยมีพวกเพื่อนลูกหลานไฮโซประเภทลูกบังเกิดเกล้าทั้งนั้นกำลังสนุกสนานกันมันหยด แถมพอใจสาวใช้คนไหนก็เรียกมาปู้ยี่ปู้ยำตามใจชอบ ตัวกุลชาติเองนำหน้าในการวิ่งไล่ต้อนสาวใช้เหล่านั้น แต่พอจะจับตัวได้กุลชาติก็แปลกใจเพราะอยู่ๆเขาก็ลอยหวือตกลงไปในสระด้วยตีนใครก็ไม่รู้

พอตะกายขึ้นมาจากสระเห็นถนัดก็อ้าปากหวอเพราะคนที่เตะเขาคือนายกมลทัตพ่อของเขาเอง ส่วนบรรดาเพื่อนขี้หลีเหล่านั้นหายหัวไปหมดแล้ว กมลทัตลากลูกตัวเองมาที่โต๊ะอาหารที่กำลังกินดื่มอยู่กับเพื่อนๆเมื่อกี้ กมลทัตทรุดตัวลงนั่งที่หัวโต๊ะ ปล่อยให้กุลชาติยืนตัวเปียกซกอยู่ตรงหน้า เขาชี้หน้าลูกชาย
"ถูกมหาวิทยาลัยรีไทร์ให้ออก แล้วแกมาฉลองอะไรกันหนักหนา  นั่งลง  นั่งลงเดี๋ยวนี้"

"โธ่ป๋า ก็เลี้ยงอำลาเพื่อนไง ไหนๆก็จะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้ป๋าเนี่ย แล้วเมื่อกี้พูดกับชาติดีๆก็ได้ ไม่เห็นต้องเตะกันเลย อายเพื่อนจะตายอยู่แล้ว"

กมลทัตลุกพรวดขึ้นตบหัวลูกชายจนคะมำหน้ากระแทกโต๊ะ พอลุกขึ้นได้ลูกชายตัวดีก็แจวอ้าวเข้าบ้านกะจะไปอ้อนแม่โดยมีกมลทัตวิ่งตามหลังไปด้วย เข้าบ้านแล้วหาแม่ไม่เจอเลยนึกได้ว่าแม่คงจะสวดมนต์อยู่ในห้องพระจึงไปที่นั่นทันที พิศเพลินลืมตาจากการสวดมนต์ก็เห็นสามีกับลูกยืนประจันหน้ากันอยู่ ลูกชายตัวดีรีบชิงเป็นโจทก์เถียงพ่อที่ว่าส่งเสียให้เรียนดีๆไม่ชอบกลับทำตัวเหลวไหล อาจารย์ที่ปรึกษามาฟ้องอยู่เรื่อยๆว่าอาทิตย์หนึ่งไปเรียนแค่สองวันเท่านั้นเอง

"ก็ชาติไม่ชอบเรียนนิตินี่ป๋า ท่องเยอะปวดหัว" กุลชาติบ่ายเบี่ยง

"ก็ดี งั้นปีหน้าแกอยากเรียนอะไรไปสอบเอาเอง ช่วงนี้ไม่ต้องเรียนแล้ว งดจ่ายเงินเดือน กินอยู่กับบ้าน ห้ามเอารถออก ยกเลิกบัตรเครดิต" กมลทัตชี้หน้าตะคอก

"โห...ป๋าใจร้ายว่ะ ทีแม่ยังไม่ว่าอะไรชาติสักคำ ป๋าทำยังงี้ฆ่าชาติเลยดีกว่า"

"ได้ๆไอ้ลูกสารเลว มึงท้ากูเหรอ..." กมลทัตคว้าแจกันบนหิ้งพระเตรียมขว้างใส่ แต่พิศเพลินรีบลุกขึ้นมาห้ามทัพเอาไว้เสียก่อนบอกให้กมลทัตใจเย็น กมลทัตบ่นว่าพิศเพลินตามใจให้ท้ายลูกทุกที จะให้เขาทนกับพฤติกรรมของกุลชาติไปอีกนานขนาดไหน เลยกลายเป็นการเถียงกันระหว่างพ่อกับแม่ กุลชาติเลยรีบชิ่งหนีออกไปทันที กมลทัตบอกว่า พิศเพลินควรดูแลเอาใจใส่อบรมกุลชาติให้มากกว่านี้ ไม่ใช่วันๆเอาแต่นั่งสวดมนต์ภาวนา ไม่รู้ว่าจะไปหาสวรรค์วิมานชั้นไหน พิศเพลินมองกมลทัตอย่างเย็นชาเหมือนคนแปลกหน้ากัน ตอบกลับเสียงเย็นๆว่า

"คุณก็น่าจะรู้ดีนี่คะ ว่าฉันสวดมนต์ภาวนาแผ่เมตตาให้ใคร"

คำตอบของพิศเพลินทำให้กมลทัตหลบสายตาแล้วพรวดพราดเดินออกจากห้องไปทันที เข้าไปที่ห้องทำงานไปยืนตรงหน้ารูปพ่อของตัวเองพูดต่อว่าพ่อว่า คุณพ่อนั่นแหละ อยากได้หลานชายนักไม่ใช่หรือครับ เป็นยังไงล่ะ สมใจแล้วใช่ไหม  ผมทำตามที่คุณพ่อต้องการแล้ว  มีเสียงเคาะประตู กมลทัตเลยเดินไปนั่งที่เก้าอี้ ภาสกร ทนายความประจำตระกูลโผล่เข้ามายังไม่ทันนั่งก็รายงานว่า

"นายใช้กับนางถมยาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้วทั้งคู่ครับ"

"เมื่อไหร่" กมลทัตมีสีหน้าตกใจ

"หลายเดือนแล้วครับ สายของผมเพิ่งมารายงาน"

"แล้วลูกสาวล่ะเป็นยังไงบ้าง ปลอดภัยรึเปล่า?"

"ยังไม่ทราบครับ กำลังให้คนหาข่าวอยู่"

คำตอบของทนายทำให้กมลทัตถอนหายใจอย่างหนักอกทันที

ooooooo

โรมพาเทียนกลับมาที่สวนปาล์ม ตลอดทางเขาเทศน์เทียนยกใหญ่ที่หนีไปไม่บอกไม่กล่าวทั้งๆที่รู้ว่าชาญกับเสี่ยตามล่าอยู่ตลอดเวลา เทียนบอกว่า

"ผมต้องกลับไปหาของมีค่าที่แม่ให้ผมไว้ก่อนตาย ผมต้องขอโทษนายหัวด้วยครับ"

โรมเหลือบมองเทียนอย่างสงสัยแล้วเลยถามถึงพ่อแม่ที่แท้จริงของเทียน เทียนตอบว่า "ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าพ่อแม่พี่ชาญเลี้ยงดูผมเหมือนเป็นลูกแท้ๆ แต่ท่านก็อายุสั้น รถคว่ำตายทั้งคู่ แม่ได้ให้สร้อยกับแหวนผมก่อนที่แม่จะตายไม่นาน ผมกะว่าจะเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกเวลาคิดถึงท่าน แต่มันก็หายไปซะแล้ว" พูดมาถึงตรงนี้เทียนร้องไห้ออกมาอีกพลางกอดกล่องขนมปังเก่าๆที่เอามาจากบ้านชาญ โรมจึงแกล้งดุว่า

"พอได้แล้ว ยังไงมันก็หายไปแล้ว ทำไมขี้แยนักวะ มิน่าถึงได้ถูกเขาข่มเหงรังแกตลอด" เทียนเลยพยายามกลั้นสะอื้นเพราะกลัวโรมโกรธ พอกลับมาถึงห้องตัวเอง เทียนหยิบของในกล่องขนมปังออกมา ในนั้นนอกจากสูติบัตรของเทียนแล้วยังมีจดหมายที่ถมยาเขียนถึงครูพรอีกหลายฉบับ เทียนกอดของเหล่านั้นแล้วร้องไห้อีก

"พ่อจ๋า แม่จ๋า เทียนคิดถึงแม่กับพ่อมาก เทียนทำสร้อยกับแหวนหายไปแล้ว ของที่แม่ให้แค่นี้ก็รักษาไว้ไม่ได้ เทียนเสียใจจริงๆ เทียนขอโทษนะจ๊ะ"

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น