หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

เงากามเทพ ตอนที่ 9

ตอนที่ 9

ขณะที่ทุกคนกำลังตะลึงกันอยู่นั้น   เสียงนภาประกาศก้องขึ้นว่า "นี่ไงหลักฐาน ฉันถูกกมลทัตข่มเหงมาก่อนแล้วถึงส่งต่อให้ลูกชาย"

กมลทัตผุดลุกขึ้นยืนร้องด่าดังลั่น "เฮ้ย อีนี่โกหก อย่าไปฟังมันครับ มันเอาภาพมาตัดต่อแบล็กเมล์ผมกับลูกชาย" พูดจบก็ปรี่ขึ้นไปหา นภาถอยกรูด

"ช่วยด้วย ช่วยด้วย เขาจะฆ่าฉัน..."

ตำรวจนอกเครื่องแบบที่มารักษาการณ์อยู่ในงานวิ่งขึ้นไปกันกมลทัตเอาไว้ "ขอโทษครับ ผมเป็นตำรวจ" ควักบัตรขึ้นมาชูให้ดู กมลทัตชะงัก ลักษมนตะโกนพูดกับกมลทัตว่า

"ในที่สุด ความเลวของแกมันก็เปิดเผยออกมา...ไปกันเถอะเทียน" เข้าไปฉุดมือเทียนจะพากลับบ้าน แต่กุลชาติวิ่งไปฉุดเทียนเอาไว้ ร้องด่าลักษมนว่า

"แกจะพาเมียฉันไปไหน ฉันไม่ให้ไป...เทียน อย่าไปฟังนังนภานะ มันโกหก" พูดไม่ทันจบลักษมนต่อยโครมเข้าปากครึ่งจมูกครึ่ง

"นี่แน่ะ ไอ้หน้าด้าน" กุลชาติถูกต่อยล้มลง พิศเพลินวิ่งเข้าไปประคองลูกชาย หมอเผ่ากับปารวดีชักจะนึกรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ส่วนมนทิราเซ็งสุดๆ โรมร้องบอกตำรวจว่า

"คุณตำรวจช่วยคุ้มกันนภากลับที่พักด้วยนะครับ ส่วนเรื่องฆาตกรรมผมยินดีไปเป็นพยาน"   ตำรวจสองคนพานภาออกไป   ซึ่งความจริงก็คือตำรวจที่โรมจ้างมาให้คุ้มกันนภานั่นเอง

กมลทัตตัวสั่นเพราะความโกรธ เขาชี้หน้าโรม "แกๆฝีมือของแกใช่มั้ยไอ้โรม ไอ้ชาติชั่ว ฉันจะฆ่าแก"

โรมใช้สายตาชำเลืองมอง "พูดจาเพราะๆหน่อยกมลทัต วันนี้งานมงคลนะครับ"

กมลทัตโดดใส่โรม แต่ถูกภาสกรจับไว้ กระซิบบอกว่า "อย่าครับท่าน ใจเย็นๆ ระวังจะเข้าทางมัน" แต่เมื่อทำร้ายโรมไม่ได้ กมลทัตก็ยังร้องด่าได้ "แกวางแผนโกงฉัน เอาทั้งเงินทั้งโฉนดไป แล้วยังเอานังนภามาทำลายงานของฉัน...แกต้องชดใช้"

โรมตอบว่า  "ใครกันแน่ที่ต้องชดใช้  วันนี้ฝ่ายฉันต่างหากที่อับอายขายหน้า ขอไปคิดก่อนนะว่าจะเรียกค่าทำขวัญเท่าไหร่ดี...เอ้า กลับกันได้แล้วพวกเรา" โรมพาพรรคพวกจะเดินออกจากงาน เสียงกุลชาติร้องเรียกเทียนโหยหวน "น้องแคนเดิ้ล กลับมาหาพี่ก่อน" เทียนไม่แม้แต่จะหันไปดู มนทิรา

หันหน้าหันหลังแล้ววิ่งตามออกไปบ้าง

ที่บ้านของโรมเมื่อไปถึง   ในสนามหญ้าหน้าบ้านมีโต๊ะจีนโต๊ะใหญ่สุดๆตั้งอยู่พร้อมกับอาหารสารพัดชนิดวางเต็มโต๊ะ พอโรมเดินเข้าไปกุ๊กก็เข้ามาจุดไฟให้กับข้าวที่ต้องอุ่น เสร็จแล้วเดินไปหาโรมซึ่งรีบควักกระเป๋าหยิบเงินให้ปึกใหญ่ กุ๊กโค้งโรมเมื่อรับเงินแล้วบอกว่า

"ตรงตามเวลาเลยครับคุณโรม อาหารทุกอย่างเพิ่งขึ้นโต๊ะ พรุ่งนี้ผมจะมาเก็บข้าวของทั้งหมดครับ" กุ๊กลากลับไป โรมเรียกพรรคพวกอย่างอารมณ์ดี

"เชิญทุกคน คงจะหิวกันซ่กเลยสิ ที่โรงแรมไม่เห็นมีใครกินข้าวอร่อยเลยสักคน"   ทุกคนเข้านั่งที่แต่ไม่มีใครพูดและกิน เอาแต่มองหน้าโรม โรมหัวเราะ "อ้าว...อ้ำอึ้งกันอยู่ได้ นี่ฉันเลี้ยงฉลองชัยชนะไอ้กมลทัตมัน ทำไมไม่ดีใจกันล่ะ รู้มั้ยมื้อนี้ต้องจ่ายไปเท่าไหร่ เอ้า...เสิร์ฟเทียนก่อนนางเอกของงานเหนื่อยที่สุดใช่ไหม" เขาตักซุปใส่ถ้วยให้เทียน เห็นยังงงอยู่

เลยหยิบช้อนใส่ถ้วยให้อีก ลักษมนถามพี่ชายออกมาว่า

"แปลว่าละครเรื่องนี้ที่เกิดขึ้นทั้งหมด พี่โรมเป็นคนจัดทำวางแผนใช่ไหมครับ พี่ทำได้ยังไง"

"เปล๊า..ทำอะไรไม่เห็นรู้เรื่อง เวรกรรมมันตามสนองไอ้กมลทัตเองต่างหาก" โรมตอบหน้าตาย

"แต่นภาอยู่กับพี่โรมที่ชุมพร พี่ตั้งใจจะให้เขามาทำลายงานวันนี้" ปารวดีคาดคั้นอีกคน

โรมตักอาหารเข้าปาก หยุดคิดหน่อยหนึ่งก่อนตอบว่า "เธอก็รู้ว่านภาถูกไอ้พวกนั้นมันทำร้ายจริงๆ เกือบตายเอาด้วยซ้ำ ถ้าไม่ได้ฉันไปช่วย แล้วมันแปลกตรงไหนถ้านภาจะไปเรียกร้องความยุติธรรม"

"แล้วทำไมแกไม่บอกพวกเรา โดยเฉพาะไม่บอกเทียน" หมอเผ่าต่อว่า ปารวดีเสริมอีก "ใช่ พี่ก็เห็นว่าเทียนต้องทุกข์

ทรมานใจขนาดไหน ทำไมพี่ใจร้ายแบบนี้"

เทียนมองคนนั้นทีคนนี้ที นัยน์ตาเริ่มสว่างขึ้น หันไปจ้องหน้าโรมว่าจะตอบยังไง โรมมองเทียนแล้วพูดว่า "แต่ตอนนี้ เทียนก็ไม่ต้องแต่งงานแล้ว แถมเรายังแก้แค้นไอ้กมลทัตได้ มันไม่ดียังไง" มนทิราที่นั่งอึ้งอยู่เป็นนานได้ช่องเลยพูดเสริมโรมว่า

"นั่นน่ะซิ แหม โรมนี่ฉลาดยอดเยี่ยมไปเลย งั้นพวกเรามาฉลองกันดีกว่านะคะ" แต่ลักษมนยังตอดอีกว่า

"ผมไม่คิดเลยว่าพี่โรมจะเป็นคนแบบนี้"

ที่ทางเดินมาจากประตูบ้านมีรถมาจอด จอห์นกับกิ่งเดินควงกันเข้ามา โรมลุกขึ้นต้อนรับกอดกับจอห์น โรมบอกกับเพื่อนว่า "จอห์น กิ่ง ขอบคุณมากๆเลยนะ" กิ่งตอบว่า

"ไม่เป็นไรเพื่อน ยินดีอยู่แล้ว" ส่วนจอห์นพูดขอโทษที่มาช้าเพราะรถติด ทั้งคู่นั่งลงบนเก้าอี้ที่โรมเลื่อนให้ หมอเผ่าถามข้อข้องใจออกมาว่า

"ไอ้ที่แกทะเลาะกันวันนั้น แกเล่นละครหลอกพวกเราเหมือนกันเหรอ"

โรมหัวเราะ "อ้าว...ถ้าไม่ทำยังงี้เกิดไอ้กมลทัตมันมาติดเครื่องดักฟังหรือแอบดูเราล่ะ ไม่ได้ๆ เล่นกับคนอย่างนี้ต้องรอบคอบ"

"แล้วเรื่องน้ำมันล่ะคะ" ปารวดีถามบ้าง โรมตอบว่านั่นเรื่องจริงเลยเสียหายไปหลายล้าน จอห์นพูดแทรกขึ้นว่า "แต่ว่าผมทำประกันให้โรมที่เมืองนอก ไม่มีใครรู้ บริษัทประกันเลยเคลมให้แล้ว" ทุกคนเลยโล่งอก โรมบอกกับทุกคนว่า

"ถ้าไม่ทำอย่างนั้น   วันนี้มันจะสะใจขนาดนี้เหรอกินข้าวกินปลาดีกว่าหิวแล้ว เชิญๆ"

หมอเผ่า ปารวดี และลักษมนตักของใส่จานข้าวแล้วพากันเดินออกไป กิ่งถามว่าทำไมน้องๆของโรมไม่ดีใจเลยที่โรมแก้แค้นศัตรูได้ โรมบอกว่าอย่าไปใส่ใจเลยเดี๋ยวก็เข้าใจกันเองแหละ โรมยกแก้วขึ้นชูให้เทียน

"มายินดีกันหน่อยเทียน เราแก้แค้นสำเร็จแล้ว งานนี้ ต้องขอบคุณเทียนจริงๆ" เขายื่นแก้วไปชนแก้วเทียนดังกิ๊ง เทียนเลยรู้สึกตัว ลุกขึ้นพูดขอโทษบอกว่าขอไปห้องน้ำหน่อย มนทิราลุกขึ้นยิ้มกับโรม

"เดี๋ยวมนไปดูเทียนเองค่ะ คงจะเหนื่อยน่ะ" มนทิราเดินตามเทียนไป โรมรู้ว่าเทียนโกรธ นึกละอายใจเหมือนกันแต่ยังวางฟอร์มกินอาหารต่อกับเพื่อน

มนทิราตามเทียนไปที่ห้องนอน ถามว่าเทียนไม่ดีใจหรือที่ไม่ต้องแต่งงาน เทียนพยักหน้ารับ มนทิราพูดอีกว่า "พี่ละนับถือเทียนจริงๆ แสดงว่าเทียนต้องรักโรมมาก อย่างว่านั่นแหละนะ ผู้หญิงเราถ้ารักใครแล้วละก็ยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อคนที่เรารัก  ต้องยอมรับว่าโรมฉลาดจริงๆวางแผนได้ดีสมบูรณ์แบบ มิน่า โรมถึงเลือกตัวละครที่ซื่อไร้เดียงสาอย่างเทียน แต่ตอนนี้ละครมันจบแล้ว โรมจะให้เทียนเล่นบทอะไรต่อน้า.." พูดแหย่เสร็จก็ยิ้มให้อย่างเยาะๆก่อนเดินออก

จากห้องไป เทียนมองตามพลางครุ่นคิดคำพูดของมนทิรา

ส่วนทางบ้านกมลทัต เขากลับมานั่งกินเหล้าจนเมามายแล้วเล่นบทรามสูรขว้างแก้ว พิศเพลินกับกุลชาติไม่รู้จะทำยังไงเลยได้แต่นั่งมอง กมลทัตหันมาเห็นหน้าลูกชายชี้หน้าด่า "เพราะแกคนเดียวไอ้สถุลชาติ"

กุลชาติสะดุ้งร้องอ้าว "ผมทำอะไรผิดล่ะป๋า ก็นังนภามันโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ ไหนป๋าว่าจัดการได้แล้วไง"

กมลทัตสั่นนิ้วดิกๆใส่กุลชาติ "ก็เพราะความชั่วของแก แกไปยุ่งกับนภาทำไม ไอ้โรมมันเลยได้ทีเปิดแผลฉันได้

ไปเลยแกจะไปไหนก็ไป อย่าให้เห็นหน้า ไอ้ลูกทรพี" กุลชาติไม่พอใจลุกเดินออกไป กมลทัตหันรีหันขวาง ไปเจอหน้าพิศเพลินที่กำลังส่ายอยู่เพราะความเซ็งเลยยกมือชี้หน้าพิศเพลินต่อ

"สะใจเธอละสิที่ไอ้โรมมันฉีกหน้าฉันได้ ก็อยู่ข้างมันเอาใจช่วยมันตลอดเวลานี่หว่า ไม่เดือดเนื้อร้อนใจ ไม่ถามไม่ปลอบฉันสักคำ"

"ถ้าทำจริงเรื่องที่เกิดขึ้นก็เหมาะสมแล้ว เป็นไปตามเหตุและปัจจัยทุกอย่าง" พิศเพลินลุกเดินออกไปอีกคน กมลทัตคว้าขวดเหล้าทำท่าจะขว้างใส่หลังพิศเพลิน แต่บังเอิญในขวดยังมีเหล้าอยู่เกือบครึ่งเลยเสียดายยกขวดซดทีเดียวหมดเลย สะเงาะสะแงะเด้งหน้าเด้งหลังแล้วล้มตัวลงนอนพาดที่นอนหลับไป

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น โรมลงมานั่งกินกาแฟและดูหนังสือ-พิมพ์เรื่องที่เกิดขึ้นในงานเมื่อวานนี้จนทำให้งานหมั้นล้ม เขายิ้มอย่างสะใจ ขณะนั้นเทียนเดินออกมาจากบ้านพร้อมกระเป๋า ทีแรกโรมไม่เห็นกระเป๋าจึงร้องทักเทียนพลางตีหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"อ้าวเทียน...ตื่นเช้านี่...เอ๊ะ กระเป๋าอะไร" ถามอย่างข้องใจเมื่อเห็น

"เทียนจะมาลานายหัวค่ะ เทียนคงหมดหน้าที่แล้ว เพราะสิ่งที่นายหัวต้องการให้เทียนทำ เทียนก็ทำจบแล้ว"

"เธอพูดอะไรของเธอ แล้วจะลาไปไหน"

"ก็...นายหัวอยากให้เทียนช่วยแก้แค้นพวกบ้าน

ทักษสุตไม่ใช่เหรอคะ งานเมื่อวานทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนที่นายหัวต้องการแล้ว ก่อนไปเทียนรบกวนขอสร้อยคอของแม่

ด้วยค่ะ" เทียนพูดเสียงอ่อนๆ

ตรงข้ามกับโรมที่ปึงปังขึ้นมาทันที "ขอสร้อย...ชะจะไปจากฉันเหรอ แล้วรู้ได้ไงว่ามันจบแล้ว"

คำพูดของโรมคำนี้ทำให้เทียนย้อนคิดไปถึงที่มนทิราพูดเมื่อคืนนี้เรื่องไม่รู้ว่าโรมจะมีงานอะไรให้เธอทำอีก เทียนกลืนสิ่งที่จุกอยู่ในอกถามออกมาว่า "นายหัวต้องการให้เทียนทำอะไรอีกเหรอคะ"

"แล้วเธอคิดว่าที่ฉันช่วยเธอจากไอ้พี่ชายสารเลวกับไอ้เสี่ยบ้ากามแล้วเอาเธอมาอยู่ด้วยเนี่ย เธอทำแค่นี้มันคุ้มแล้วหรือยังไง ถึงได้มาพูดลำเลิกบุญคุณกับฉันแบบนี้" โรมพูดเสียงดังลั่น เทียนร้องไห้ออกมา

"เทียนไม่ได้คิดอย่างนั้นนะคะ เทียนแค่..."

"หยุดๆ ไม่ต้องบีบน้ำตา...ถ้าเก่งนักก็ตอบมาให้ได้ว่าเธอชดใช้หนี้ฉันคุ้มค่ารึยัง ถ้าคิดว่าคุ้มแล้วก็ไปเลย"

เทียนยกมือไหว้แล้วเดินจะออกจากบ้านไป โรมคิดได้ว่าพูดแรงเกินไปเลยเดินตามไปหวังจะเรียกให้เทียนกลับมา แต่ยังไม่ทันพ้นประตูบ้านก็ได้ยินเสียงเทียนร้องเพราะกุลชาติที่มาดักอยู่ตรงเข้าฉุดเทียนจะลากไปขึ้นรถ กุลชาติลากเทียนไม่ไหวเพราะตัวเองเมา แต่ก็ใช้วาทศิลป์กับเทียนว่า

"ไปกับชาตินะน้องเทียน ชาติรักน้องเทียนมาก เราไม่เกี่ยวกับเรื่องวิวาทของผู้ใหญ่ รักของชาติเป็นรักแท้นะเทียน..."

เทียนดิ้นรนจนหลุดจากมือกุลชาติ ร้องด่าว่า "ไปไกลๆไป๊ อย่ามายุ่งกับฉัน"

"ถ้าอย่างนั้นเราก็มาตายพร้อมกันแบบโรมิโอกับจูเลียตซะตรงนี้เลย" กุลชาติควักปืนออกมากวัดแกว่ง โรมวิ่งออกมาร้องเรียกเทียน ชะงักเมื่อเห็นปืนในมือของกุลชาติ

"ใจเย็นๆกุลชาติ เก็บปืนก่อนแล้วค่อยคุยกัน" โรมเอาน้ำเย็นเข้าลูบ แต่กุลชาติตวาดแหว

"ฉันไม่คุยกับแก ไอ้โรม ไอ้มารหัวใจ แกน่ะแหละปล่อยมือจากเทียนเดี๋ยวนี้"

"ก็ได้ๆ ขอโทษๆ เอาละ ฉันจะปล่อยให้เทียนคุยกับเธอนะ เอาปืนลงก่อนซิ เดี๋ยวลั่นโป้งป้างขึ้นมา"

กุลชาติไม่ปล่อยปืน แต่ยอมลดมือลง โรมค่อยๆเดินเข้าหาพอได้จังหวะก็โดดเข้าล็อกมือกุลชาติ สองคนปล้ำกันเดี๋ยวเดียวก็ได้ยินเสียงลั่นปังขึ้น แล้วก็กอดกันล้มลงไปทั้งสองคน กุลชาติผุดลุกขึ้นมาได้ก่อนร้องลั่นก้มลงดูเห็นเลือดเปื้อนเสื้อตัวเองก็ร้องโอ๊ย โอ๊ย ออกมาอีก ยกมือกุมอกนัยน์ตาเบิกโพลง กลัวจนมือไม้สั่นปากก็ร้องว่า "เปล่านะ ฉันไม่ได้เป็นคนยิงนะ" หันหลังกลับแจวอ้าวโดดขึ้นรถขับพรืดออกไปเลย

โรมค่อยๆพยุงตัวเองลุกขึ้น เทียนทิ้งกระเป๋าวิ่งเข้าไปประคองร้องเรียกชื่อโรมสลับกับการเรียกให้คนมาช่วย หมอเผ่าวิ่งออกมาพร้อมกับปารวดีตามติดๆ ถัดไปก็เป็นลักษมนกับป้าทิพย์ โรมล้มลงอีก หมอเผ่าเข้ามาตรวจเห็นเลือดทะลักออกมามากจึงบอกพรรคพวกว่า "เลือดออกมาก สงสัยโดนเส้นเลือด ลัก...ไปเอารถมาเร็ว รีบพาไปโรงพยาบาลด่วน" โรมปรือตาขึ้นมองเห็นเทียนกำลังประคองเขาอยู่ก็ยิ้ม และสลบไป

ขณะที่ทุกคนกำลังออกันอยู่หน้าห้องผ่าตัด เทียนเฝ้าแต่บ่นว่า "เพราะเทียนคนเดียว เทียนทำให้นายหัวต้องถูกยิง... เทียนผิดเองค่ะพี่ปา เทียนเป็นต้นเหตุ"
ลักษมนจับมือเทียนไปกุมปลอบว่า "อย่าพูดอย่างนั้น ไอ้กุลชาติต่างหากที่เป็นคนผิด...ไม่เอาๆ เทียนอย่าโทษตัวเอง ไม่มีใครว่าเทียนหรอก" แต่เทียนก็ยังร้องไห้ต่อ เอามือกุมรอยเลือดของโรมที่ติดอยู่ที่เสื้ออย่างเสียใจ

ผ่านไปอีกกว่าชั่วโมง หมอเผ่าในชุดผ่าตัดก็ออกจากห้อง เทียนถลาเข้าหาเป็นคนแรก "นายหัวเป็นยังไงบ้างคะ?" หมอเผ่าตอบยิ้มๆว่า "ปลอดภัยดีแล้ว หมอผ่าเอากระสุนออกจากไหล่แล้ว แต่ตอนนี้ยังหลับอยู่ ปล่อยให้อยู่ที่โรงพยาบาลนี่ก็แล้วกัน" ปารวดีถอนใจหายห่วง ชวนทุกคนกลับบ้าน พอดีบุรุษพยาบาลเข็นเตียงโรมออกจากห้องผ่าตัดจะผ่านไป เทียนวิ่งเข้าไปหาโรม แต่มนทิรามาจากไหนไม่รู้เข้ามาขวางกลาง

"เดี๋ยวค่ะน้องเทียน ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่ามั้ยคะ พี่กลัวโรมจะติดเชื้อน่ะ ทางนี้ไม่ต้องเป็นห่วงพี่จะดูแลเอง"

พูดแล้วก็เดินตามเทียนไปติดๆ ลักษมนเลยบอกว่า "มีคนดูแลแล้วพวกเราก็กลับบ้านกันเถอะครับ ไปเทียน..." ลักแตะข้อศอกเทียนให้เดิน ทุกคนเลยเดินตาม

ooooooo

ที่บริษัทของกมลทัตในห้องทำงาน กมลทัตนั่งเอามือกุมหัวเพราะเมื่อคืนดื่มเข้าไปเกินพิกัด เสียงเปิดประตู กมลทัตเงยหน้าหรี่ตามอง แต่พอเห็นว่าเป็นภาสกรก็เบิกตาโต

"หายหัวไปไหนมา"

"ผมไปให้ปากคำตำรวจมาครับ นังนภาแจ้งความไว้แล้ว อ้างว่าโรมเป็นพยานรู้เห็นตอนที่ผมตามฆ่าแล้วก็เป็นคนช่วยชีวิตมันไว้ด้วย"

"อะไรนะ แล้วแกพลาดได้ยังไง หา...แล้วนังนภามันไปรู้จักกับไอ้โรมตั้งแต่เมื่อไหร่  มันรู้ที่ไหนว่าฉันกับไอ้โรมมีเรื่องอะไรกันมา...สรุปแกนั่นแหละที่สะเพร่า คราวนี้ก็พังกันหมด ทั้งเสียรู้ เสียเงิน แถมอาจต้องติดคุกด้วย" กมลทัตตาพองใส่ภาสกรด้วยความโกรธ

"ผมไม่รู้ว่าเป็นข้ออ้างของมันรึเปล่า นังนภาอาจจะรอดไปได้แล้วติดต่อไอ้โรมให้มันช่วย...ท่านอย่าเพิ่งใจร้อน เรื่องนี้เป็นการกล่าวหา ไอ้โรมไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันว่ามันเห็นเหตุการณ์จริงๆ ที่สำคัญมันเป็นศัตรูคู่แค้นกับท่าน เรื่องนี้ทำให้ข้อกล่าวหาของมันไม่มีน้ำหนัก"

กมลทัตผ่อนลมหายใจได้หน่อย แต่ก็พูดออกมาอีกว่า "ถ้าปิดปากนังนภาได้ก็น่าจะจบ"

"ก็น่าจะยากหน่อยครับ  เพราะตอนนี้ตำรวจเก็บนังนภาไว้ในเซฟเฮาส์" ภาสกรพูดยังไม่ทันจบพิศเพลินก็เปิดประตูพรวดเข้ามา ภาสกรเลยต้องถอยออกไปจากห้อง กมลทัตเหล่ตาดูแล้วกระชากเสียงถามว่า

"มีเรื่องอะไรมาอีกล่ะ?"

"กุลชาติหายไปตั้งแต่เมื่อคืน ป่านนี้ยังไม่กลับบ้าน โทร.ไปก็ไม่รับสาย ไม่รู้ไปก่อเรื่องที่ไหน ฉันเป็นห่วง" กมลทัตฟังแล้วเซ็ง หารู้ไม่ว่าคนที่พิศเพลินเป็นห่วงตอนนี้กำลังนั่งทึ้งอกชกหัวอยู่กับเฮียปอ เสื้อตัวที่ใส่อยู่เลอะไปด้วยเลือด กุลชาติขยำเสื้อแล้วร้องไห้ถามเฮียปอว่า

"มันจะตายมั้ยเฮีย ฮือๆ เลือดมันออกมาเต็มเลย"

ปอหรือเฮียปอของพวกลูกน้องมองกุลชาติอย่างสังเวช ถามออกมาว่า "กลัวมันตายแล้วยิงทำไม"

"ผมเปล่ายิง ปืนมันลั่น ใครจะรู้ว่ามันจะเข้ามาแย่งปืนผม แล้วถ้ามันตายผมจะติดคุกหรือเปล่าเฮีย"

"กลัวอะไรกับคุก พ่อชาติเส้นใหญ่ไม่ใช่เหรอ เรื่องตายไม่ตายก็ช่างมันเถอะคิดมากเปล่าๆ ถ้าตายข่าวก็ออกมาเอง"

พอเฮียปอพูดถึงพ่อ กุลชาติก็ร้องออกมาว่า "พ่อนั่นแหละน่ากลัวกว่าคุกอีก โอ๊ย...จะทำยังไงดีโว้ย"

เฮียปอมองแบบสังเวช นึกด่าความอ่อนแอของกุลชาติอยู่ในใจ แต่ปากก็พูดออกมาว่า "ถ้าเครียดก็อยู่นี่ให้หายเครียดก่อนแล้วค่อยว่ากัน" พูดแล้วก็พยักหน้าเรียกลูกน้องคนหนึ่งให้เข้าไปใกล้ๆยื่นมือมารับห่อยาเสพติดมาแล้วโยนให้กุลชาติ บอกว่า "เอ้า แก้เครียด ของมีเยอะ ตามสบาย" ลูกน้องอีกคนเปิดประตูห้องข้างๆให้กุลชาติเข้าไป พอลับตัว เฮียปอก็กระซิบบอกลูกน้องอีกคนว่า "ให้มันเล่นไปเรื่อยๆ ไอ้นี่เงินมันเยอะ ที่สำคัญบรมโง่เลย"

คนที่กุลชาติเป็นทุกข์ว่าจะตายหรือเปล่าตอนนี้ฟื้นแล้ว มนทิราที่นั่งคุยอยู่กับป้าทิพย์ถลาเข้าไปหาทันทีเมื่อได้ยินโรมตื่นขึ้นมาไอ ป้าทิพย์ลุกขึ้นไขเตียงทางหัวให้สูงขึ้น มนทิรา รินน้ำเอาไปให้โรมดูดจากหลอด ยิ้มแย้มบอกเขาว่า "หลับไป ตั้งนานแน่ะค่ะ ตอนนี้รู้สึกตัวยังไงบ้างคะ"

"ดีขึ้น หมอว่ายังไงบ้าง"

"หมอบอกว่าถ้าแผลไม่อักเสบ ไม่กี่วันก็หายค่ะ ที่โรมสลบไปก็เพราะเสียเลือดมากและก็พักผ่อนน้อย"

โรมเหลียวมองไปรอบๆห้องแล้วถามถึงคนอื่นๆทิพย์บอกว่า "คุณลักกลับไปก่อนกับเทียนค่ะ คุณปากับคุณเผ่าไปทีหลัง ป้าถึงได้ออกมาเยี่ยมคุณโรมได้"

โรมพยักหน้าแล้วถามถึงเทียนว่า   "แล้วเทียนเป็นยังไงบ้าง?"

มนทิราชิงตอบแทนป้าทิพย์ "ไม่เห็นเป็นอะไรนี่คะ พอหมอบอกโรมปลอดภัยแล้วก็รีบกลับไปกับคุณลักก่อนเลย เห็นว่าจะไปซักเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดน่ะค่ะ" มนทิราสร้าง

เรื่องคำโตเลย โรมได้ฟังก็เบือนหน้าคิดว่าจริงนึกหมั่นไส้เทียนขึ้นมาทันที

เช้าวันรุ่งขึ้น เทียนมาเยี่ยมแต่เช้า ถือถุงใส่ช่อดอกไม้ ม้วนซ่อนมาในมือ เดินตามลักษมนมาถึงหน้าห้องโรม เอื้อมมือจะผลักประตูเข้าไปแต่มนทิราเปิดออกมาก่อนเลยเจอกันหน้าห้อง ทั้งมนทิราและเทียนต่างคนต่างอึ้ง มนทิราเหลี่ยมจัดกว่ารีบจูงแขนเทียนไปนั่งที่ม้านั่งข้างหน้าห้อง ทำเสียงกระซิบ กระซาบว่า

"โรมเขาหลับเดี๋ยวนี้เอง อย่าเพิ่งเข้าไปเลย เดี๋ยวตื่นแล้วจะยุ่ง"

"ยุ่งยังไงครับ" ลักษมนพาซื่อถามออกมา


"ก็เมื่อคืนน่ะซิ โรมเครียดมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน ขนาดหมอเอายานอนหลับมาให้กินยังไม่หลับเลย"

"งั้นเทียนรอนายหัวตื่นก่อนค่อยเข้าไปก็ได้" เทียนเชื่อสนิท

แต่มนทิราส่ายหน้าไม่เห็นด้วย บอกว่า "พี่ไม่อยากให้คุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เดี๋ยวโรมจะเครียดขึ้นมาอีก เอาไว้ค่อยมาเยี่ยมวันอื่นดีมั้ยเทียน"

ลักษมนมองหน้าเทียนเห็นท่ากระสับกระส่ายยุ่งยากใจเลยบอกเทียนว่า "เอายังงี้ เทียนไปกับพี่ ไปนั่งเล่นที่โรงเรียนก่อน แล้วค่อยกลับมานี่ใหม่ ถึงตอนนั้นพี่โรมคงพักผ่อนเพียงพอจิตใจปลอดโปร่งไม่มีอาการเครียดอารมณ์ค้างอีกแล้วละ"

เทียนส่ายหน้า "คุณลักษมนไปเถอะค่ะ เทียนนั่งรอนายหัวตื่นตรงนี้แหละ"

"เอา ถ้างั้นก็ตามใจ สอนเด็กเสร็จพี่จะกลับมารับนะ แล้วนี่คุณมนกำลังจะไปไหนเหรอครับ ให้ผมไปส่งมั้ย?" มนทิราอ้ำๆอึ้งๆบอกไม่เป็นไรเธอไปแถวๆนี้เอง แต่ลักษมนนึกว่าเกรงใจเขาเลยบอกว่า "ไม่เป็นไรครับ เราคนกันเองไปเถอะ" ถือโอกาสจับแขนมนทิราดึงไปขึ้นรถ เทียนร้องบอกว่า

"ตามสบายนะคะ เทียนจะไม่ให้ใครเข้าไปรบกวนนายหัวเด็ดขาด" มนทิราค้อนเทียนเล็กๆเดินขบเขี้ยวเคี้ยวฟันไปกับลักษมน

ส่วนโรมนอนกดโทรทัศน์ช่องนั้นช่องนี้ดูจนเบื่อไม่รู้จะทำอะไรเลยลงจากเตียงเดินไปที่ประตู พอเปิดออกไปก็ตาค้างเพราะเห็นเทียนนั่งสัปหงกหัวเอียงไปเอียงมา โรมนึกเอ็นดูแต่ก็ยังทำเก๊กแกล้งกระแทกประตูห้องเสียงดังโครม เทียนสะดุ้งตื่น โรมใส่ทันที

"เสื้อเธอที่เปื้อนเลือดฉันซักเสร็จแล้วเหรอ"

"เอ้อ เอาแช่ไว้น่ะค่ะ" เทียนตอบงงว่าทำไมโรมพูดเรื่องนี้เพราะไม่รู้ว่ามนทิราใส่ไฟไว้เมื่อคืนว่า เธอรีบกลับไปกับลักษมนโดยบอกว่าจะรีบกลับไปซักเสื้อ โรมแกล้งถามต่อไปว่า "แล้วมานั่งสัปหงกอยู่แถวนี้ทำไมล่ะ?

"ก็เทียนไม่อยากเข้าไปกวนนายหัวนี่คะ...ถ้านายหัวไม่อยากเห็นหน้า เทียนกลับบ้านก็ได้ค่ะ" เทียนกำถุงดอกไม้ในมือแน่นลุกขึ้นเดิน โรมร้องโอ๊ยออกมาเสียงไม่เบานัก พอเทียนตกใจหันมาดูก็ยกมือขึ้นกุมไหล่ทำท่าเหมือนเจ็บปวดมากจนจะตายมิตายแหล่ เทียนรีบกลับมาประคองถามว่าเจ็บมากหรือ โรมยิ่งร้องโอดโอยบอกให้จับเบาๆ จนป้าที่เข็นอาหารมาบริการคนไข้พลอยตกอกตกใจไปด้วย วางถาดอาหารแล้วรีบมาช่วยเทียนประคองเข้าไปในห้อง โรมให้เทียนพาไปที่เตียงส่วนป้ารีบออกไปยกถาดอาหารของโรมตามเข้ามาวางไว้ให้แล้วออกไป เทียนเลยเอาดอกไม้ไปใส่แจกันแล้วยกมาวางโต๊ะตรงหัวนอน โรมทำท่าสูดจมูกแล้วบอกว่าดอกมะลิหอมดีจัง เอามาจากไหน เทียนตอบอย่างดีใจที่เห็นโรมชอบ

"เก็บจากบ้านนายหัวนั่นแหละค่ะ เทียนไม่รู้จะเอาอะไรมาเยี่ยมเลยเอาดอกไม้มา เทียนขอโทษจริงๆที่ทำให้นายหัวเจ็บตัวแทนเทียนอีกแล้ว"

"ฉันเกือบตาย ขอโทษแค่นี้ก็หายกันเหรอ?" โรมทำหน้าน้อยใจ

"นายหัวจะให้เทียนทำอะไรก็ได้ จะด่าจะตีเทียนยอมทุกอย่าง" เทียนเสียงอ่อย

"เธอคงเห็นฉันเป็นพวกใจร้ายซาดิสต์ซินะ" ว่าเข้าไปโน่นแบบหมาป่าหาเรื่องกินลูกแกะ ซึ่งยิ่งทำให้เทียนยิ่งตกใจ

"ไม่ใช่นะคะ ไม่ใช่ นายหัวของเทียนเป็นคนดีใจดีที่สุด"

"แต่เธอก็ยังจะไปจากฉัน ถ้าเธอเชื่อว่าฉันหวังดีต่อเธอจริงทำไมถึงจะไป" โรมคาดคั้น

"เทียน...เทียนน้อยใจนายหัว ที่นายหัวไม่บอกความจริงเทียน" น้ำตาร่วงเผาะๆ โรมจึงเชยคางเทียนขึ้นเช็ดน้ำตาให้ พลางบอกว่า

"ฉันก็ต้องขอโทษที่ปิดบังเธอ เลิกขี้แยได้แล้ว..."

เทียนยิ้มออกมาได้ "ถ้ายังงั้นนายหัวสัญญาได้ไหมคะว่าต่อไปนายหัวจะไม่ปิดบังอะไรเทียนอีก"

โรมชะงัก เพราะเขายังมีเรื่องปิดบังเทียนอีกหลายเรื่อง ไม่รับปาก แต่เสบอกว่า "ฉันหิวข้าวแล้ว" เทียนไปเลื่อนโต๊ะอาหารแทรกเข้ามาบนเตียง แต่โรมไม่ยอมตักกิน "แขนฉันเจ็บจะให้กินเองได้ไง" เทียนเลยต้องป้อนให้

มนทิรารีบกลับมาด่วนจี๋ มือหนึ่งหิ้วของกินที่จะเอามาให้โรม พอลิฟต์เปิดพอดีมีโทร.เข้ามือถือจึงกดรับ เสียงทางโน้นพูดอะไรมาแว่วๆ มนทิรากระดี๊กระด๊าใส่โทรศัพท์ "จ้า จ้า ไว้ใจเถอะ รับรองไม่มีพลาด ถ้าเป็นเกรดก็ต้องสี่กว่า ได้เวลาทำคะแนนของฉันแล้วตอนนี้ยายเจน"

ปิดมือถือแล้วมองไปที่หน้าห้อง ไม่เห็นเทียนนั่งอยู่ มนทิราแทบจะเปลี่ยนจากเดินเป็นวิ่ง มาถึงกระชากประตูเปิดออก เห็นเทียนกำลังเอาทิชชูเช็ดปากให้โรม มนทิราเกือบกรี๊ดออกมาดีแต่กัดปากไว้ทัน รีบฉีกเป็นยิ้มเมื่อโรมกับเทียนมองมา ทักเสียงหวานว่า "เทียนนั่นเอง นึกว่าพยาบาลที่ไหน...โรมคะ มนซื้อของโปรดเจ้าอร่อยของโรมมาฝากค่ะ"

โรมงง ถามว่าของโปรดอะไร มนทิราตอบหน้าตาเฉยว่า "อ้าว...ก็ของร้านที่โรมชอบพามนไปกินตอนจีบกันใหม่ๆไงคะ" เอียงคอทำเป็นงอนใส่ที่โรมทำเป็นจำไม่ได้ เทียนวางช้อนที่กำลังป้อนข้าวโรมลงในชาม ส่วนโรมบอกมนทิราอย่างเบื่อๆว่า "เก็บไว้ก่อนก็ได้ ขอบคุณมาก กินของโรงพยาบาลก็โอเคพอได้อยู่" หันไปเรียกเทียนจะให้ป้อนข้าวเขาอีก มนทิรารีบคว้าชามจากมือเทียนตักโน่นตักนี่ป้อนโรมแทน แล้วบอกเทียนว่า

"พี่ป้อนเอง เทียนไปนั่งเถอะ"

เทียนถอยไปยืนเก้ๆกังๆ ลักษมนเปิดประตูเข้ามาพอดี พอเห็นสภาพในห้องนั้นก็เดาได้ เขาเลยร้องบอกโรมว่า "พี่โรม หมอบอกพรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้ว จะให้มารับกี่โมงก็บอกแล้วกัน..." หันไปฉุดมือเทียนบอกว่าไปหาอะไรกินกันดีกว่า ฉันหิวแล้ว พาเทียนไปนั่งที่ร้านอาหารสั่งของมากินกันสองคน พลางพูดกับเทียนเป็นการหยั่งเชิงดู

"ท่าทางพี่โรมคงจะกลับไปคบกับมนทิราอีกนะ ที่จริงก็ไม่แปลกอะไร เขาสองคนคบกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย พอเลิกกัน  พี่โรมก็ไม่มีใครอีก  แสดงว่าเขาก็คงยังมีเยื่อใยกัน"

"ค่ะ เทียนก็ว่าเขาสองคนเหมาะสมกันมาก...จริงๆนะคะ"

"หมายความว่า  เทียนไม่รู้สึกอะไรถ้าพี่โรมจะไปเอาใจใส่ดูแลมนทิรามากกว่าเทียน"  ลักษมนคาดคั้น

"รู้สึกสิคะ...เทียนก็จะรู้สึกดีใจ เพราะถ้านายหัวมีความสุข เทียนก็จะมีความสุขไปด้วย" เทียนยิ้มอย่างจริงใจเมื่อพูดคำนี้ออกมา ลักษมนมองเธออย่างสงสาร

ooooooo

ที่เซฟเฮาส์ที่ตำรวจเอานภามาอยู่ นภาอยู่อย่างไม่เป็นสุขเท่าไหร่เพราะคอยแต่ระแวงว่ากมลทัตกับภาสกรจะตามมาเก็บ  พอเช้าขึ้นมาก็เอาแต่แอบดูหน้าต่างมุมโน้นมุมนี้  ยิ่งวันนี้พอได้อ่านข่าวเรื่องที่เธอบุกไปที่งานแต่งของกุลชาติจนงานล่ม นภาก็ยิ่งไม่เป็นสุข เดี๋ยวๆก็ตะโกนบอกตำรวจที่เฝ้าว่ามีคนมาป้วนเปี้ยนอยู่มุมนั้นมุมนี้ของตึกจนตำรวจเบื่อหน่ายบอกเธอว่า

"จ่านพกำลังตรวจลานจอดรถเป็นครั้งที่ห้าแล้วนะครับคุณ"

นภาเดินเข้าห้องทำท่าคิดหนัก บ่นพึมพำกับตัวเองออกมาว่า "เรื่องอะไรจะนั่งรอให้มันมาฆ่าล่ะ" หยิบมือถือมากดหาพิศเพลิน นัดแนะขอร้องให้พิศเพลินมาช่วย พอหลังจากนั้นก็หลอกตำรวจว่าเธอมีความจำเป็นที่จะต้องออกไปซื้อของที่ห้าง แล้วก็ซิกแซ็กหลบตำรวจไปพบพิศเพลินยังที่นัดหมาย พิศเพลินถามว่าเธอพูดจริงหรือเปล่าที่ถูกกมลทัตสั่งฆ่า นภาตอบว่า

"คุณน่าจะรู้จักสามีคุณดีนะคะ ไม่ใช่แต่กมลทัต คุณไม่รู้หรือว่าตอนนี้มีข่าวว่ากุลชาติไปยิงโรมถึงที่บ้านแต่โรมไม่ตาย ฉันไม่อยากเสี่ยง ไม่อยากยุ่งกับพวกคุณอีกต่อไปแล้ว"

พิศเพลินตาเหลือกเมื่อรู้ข่าวเรื่องลูก รีบถามว่า "แล้วตอนนี้กุลชาติอยู่ที่ไหน?"

"ฉันไม่รู้ แต่ฉันเชื่อว่าคุณไม่มีส่วนรู้เห็นกับสามีคุณ เพื่อชื่อเสียงของครอบครัวคุณ ฉันขอห้าล้านบาท ฉันจะไปอยู่เมืองนอก รับรองได้จะไม่มีใครได้เห็นฉันอีก"

"ได้ ได้ ฉันจะจัดการให้ เธอต้องการเงินเมื่อไหร่"

"คอยรับโทรศัพท์จากฉัน แล้วฉันจะติดต่อไปเอง" สองหญิงแยกกันเพราะมีคนมาเข้าห้องน้ำ

พิศเพลินนั่งแท็กซี่กลับถึงบ้าน  กำลังจะเข้าบ้านพบกมลทัตกับภาสกรเดินสวนออกมา พิศเพลินสะดุ้งตกใจเพราะกลัวกมลทัตจับได้ว่าไปติดต่อกับนภามา ยิ่งกมลทัตถามว่าไปไหนมายิ่งอึกอักตอบ  ทำให้กมลทัตสงสัยบอกภาสกรให้จับตาดูพิศเพลินให้ดีเกรงว่าจะเอาเงินไปแอบให้กุลชาติอีกแล้ว ภาสกรรับคำ วันรุ่งขึ้นภาสกรแอบตามพิศเพลินไป เห็นพิศเพลินเข้าไปเบิกเงินในธนาคารแล้วออกมามองซ้ายมองขวาก่อนจะเรียกรถแท็กซี่ให้ไปส่งที่ไหนสักแห่งหนึ่ง จึงขับรถตัวเองตามไปอีกโชคดีเพราะพิศเพลินไปหานภาเอาเงินไปให้เพราะนภาบอกตำรวจว่าป่วยขอมาโรงพยาบาล พอจะเข้าห้องตรวจนภาก็บอกพยาบาลว่าขอเข้าห้องน้ำก่อน   และจากห้องน้ำก็ไปยังที่นัดหมายพอพิศเพลินเอาเงินให้แล้วนภาก็ออกมาเรียกแท็กซี่ จึงเป็นโอกาสดีของภาสกรกับสมุนที่สะกดรอยตามพิศเพลินมาจับเอาตัวนภาไปได้

พิศเพลินไม่เห็นที่นภาถูกภาสกรจับเอาไป พอเสร็จเรื่องนภาแล้วพิศเพลินก็ซื้อกระเช้าผลไม้ไปเยี่ยมโรมที่ตอนนี้ออกจากโรงพยาบาลกลับไปบ้านแล้ว   ป้าทิพย์เห็นพิศเพลินเป็นคนแรกเข้ามาขัดขวางไม่ให้เข้าเยี่ยม คนต่อมาก็คือเทียน สองคนโต้กันคนละคำสองคำ พิศเพลินฝากกระเช้าผลไม้ให้โรม แต่เทียนไม่ยอมรับ ขณะนั้นโรมก็เดินออกมาจากบ้าน เรียกพิศเพลินให้คุยกับเขาก่อน   ถามพิศเพลินว่าจะมาขอร้องเขาไม่ให้ไปแจ้งความเรื่องกุลชาติยิงเขาหรือ   พิศเพลินบอกขอโทษว่าเธอไม่รู้จะพูดอะไรกับโรมอีกแล้ว   และไม่รู้ว่าทำไมพวกเราจึงต้องมาสร้างเวรสร้างกรรมกันไม่สิ้นสุด   แต่โรมส่ายหน้าบอกว่า

"ไม่ใช่เราพิศเพลิน แต่เป็นฝ่ายกมลทัตมากกว่า"

"ตอนนี้โรมก็ได้เงินจากกมลทัตไปแล้ว มันน่าจะชดใช้ทุกอย่างได้แล้ว" พิศเพลินบอก

โรมมีท่าทีโกรธ กระชากเสียงว่า "เธอคิดว่าฉันทำทุกอย่างเพื่อเอาเงินคืนหรือ" เขาดึงสมุดเช็คออกมาเซ็นและสลักหลังไปบอกกับพิศเพลินว่า "ฝากไปคืนกมลทัตด้วย ฉันสลักหลังว่าเป็นการใช้หนี้เงินกู้ สัญญาไม่มีผลอะไรอีกแล้ว ฉันไม่ต้องการเงินที่ได้มาจากการคดโกง ฉันสร้างตัวมาได้ทุกวันนี้อย่างสุจริต ฉันแค่อยากให้กมลทัตรู้ว่า การสูญเสียมันเป็นยังไง...แต่ขอบอกว่านี่มันแค่การโหมโรงก่อนแสดงเท่านั้น กมลทัตยังต้องชดใช้ในเรื่องที่ได้ทำอะไรเอาไว้อีก" โรมกล่าวบอกลาพิศเพลินตรงหน้าห้อง พิศเพลินยังงงกับคำพูดของโรมอยู่เมื่อกลับบ้าน

โรมเข้าไปในบ้านไม่นานก็ได้รับโทรศัพท์จากตำรวจบอกมาว่า นภาหายตัวไปตอนไปโรงพยาบาล หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ แต่ตอนนี้ได้แจ้งให้ท้องที่และผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว โรมเครียดขึ้นมาทันที ร้องออกมาว่า

"หายไปได้ยังไง นภาเป็นพยานปากสำคัญด้วย"

ภาสกรจับตัวนภาไปทรมาน บังคับให้นภาให้การกล่าวโทษโรมเป็นความเท็จหลายเรื่อง เสร็จแล้วก็จัดฉากเป็นว่านภาผูกคอตายเองโดยการถ่ายคลิปเอาไว้ หลังจากนั้นภาสกรก็เอาเงินไปคืนให้กมลทัต บอกว่า

"เงินห้าล้านของท่านครับ ส่วนกระเป๋าผมทำลายหลักฐานไปแล้ว"

กมลทัตรวบถุงเงินมาวางข้างตัว พยักหน้าพอใจ "นี่แหละผลตอบแทนของคนไม่รู้จักพอ คิดจะหักหลังฉัน รอดไปได้ทีหนึ่งก็ดีแล้ว แต่ดวงมันถึงฆาตเอง ย้อนกลับมาเล่นงานฉันอีก...คราวนี้เรียบร้อยแน่นะโว้ย...ฉันไม่อยากคุยกับตำรวจ" ประโยคหลังถามภาสกร ซึ่งรีบตอบว่า

"ไม่ต้องห่วงครับท่าน" ภาสกรล้วงโทรศัพท์ออกมากดคลิปที่ถ่ายนภาไว้ให้กมลทัตดู ในนั้นนอกจากภาพสุดท้ายที่นภาแขวนคอตัวเองแล้วยังมีคำสรรเสริญว่ากมลทัตเป็นคนดีแต่ตัวเธอเองมักใหญ่ใฝ่สูงเอง เมื่อโรมจ้างจึงไปใส่ร้ายกมลทัตที่งานแต่งงานของกุลชาติ  แต่บัดนี้สำนึกผิดแล้วทนไม่ไหวขอให้กมลทัตยกโทษให้ด้วย"

กมลทัตฉีกยิ้มเหมือนดังว่าโลกทั้งใบอยู่ในกำมือของเขา

เวลาเดียวกันนี้ที่บ้านของโรม มีตำรวจระดับสารวัตรไปหาเขาถึงบ้าน เอาคลิปนภาแขวนคอไปให้โรม พอโรมดูจบหน้าตาเครียดขึ้นมาทันที สารวัตรบอกว่า "ผมได้รับแจ้งจากตำรวจที่ดูแลความปลอดภัยให้คุณนภาว่าคุณนภาหายไป หลังจากนั้นไม่นานก็มีโทรศัพท์มาแจ้งว่าเจอศพคุณนภาในที่เกิดเหตุ แล้วก็มีคลิปนี้อยู่ในโทรศัพท์คุณนภาด้วย ไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นยังไง คุณโรมพอจะให้ข้อมูลอะไรกับเราได้บ้างไหมครับ"

เทียนที่นั่งดูอยู่ด้วยบอกตำรวจว่า "ไม่เห็นต้องสงสัยอะไรนี่คะ นายหัวไม่ได้ทำความผิดอะไรอยู่แล้ว โน่น...พวกคุณตำรวจต้องไปถามนายกมลทัตโน่น" โรมดุเทียนให้หยุดพูด เขาบอกกับสารวัตรว่า

"ถ้ามีอะไรที่ผมนึกได้ ผมจะไปให้การทีหลัง หรือจะออกหมายเรียกตัวผม หรือมีหลักฐานอะไรจะกล่าวหาผมก็แจ้งทนายผมได้นะครับสารวัตร" โรมหยิบนามบัตรด้วยมือซ้ายส่งให้สารวัตร สารวัตรรับนามบัตรทนายไปพลางมองมือของโรมที่ยังคล้องอยู่ด้วยผ้าและแขวนคอไว้ กล่าวตอบว่า

"ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือครับ...เอ้อ...ไม่ทราบแขนคุณโรมไปโดนอะไรมาครับ?"

โรมชะงักไปนิดหนึ่ง "อ๋อ...อุบัติเหตุนิดหน่อยครับ" เขาไม่ยอมบอกตำรวจว่าถูกกุลชาติยิง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น