หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554

มนต์รักลูกทุ่ง ตอนที่ 12

ตอนที่ 12

ค่ำคืนที่คณะของแว่นไปเล่นดนตรีในงานบวช นึกไม่ถึงว่าจะเจอจอมกับเจิดที่มาเป็นแขกคนสำคัญของงานนี้ด้วย รวมทั้งก้อนและทับทิมที่มาพร้อมเจ้าเพชรลูกชายคนเล็ก เจิดซึ่งนั่งโต๊ะติดด้านหน้าเวทีฉวยโอกาสเยาะหยันดูถูกฝีมือการเล่นดนตรีของพวกแว่น แถมยังเสี้ยมสอนให้เพชรผสมโรงด้วยถ้อยคำหยาบคายลามปามไปถึงแม่ของคล้าว

จุดนี้เองทำให้คล้าวทนไม่ได้จะเล่นงานทั้งเพชรทั้งเจิด แต่ก้อนที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุรีบเดินมาก่นด่าคล้าวว่าเป็นอันธพาลรังแกเด็ก คล้าวจึงพยายามเค้นจะให้เพชรพูดความจริงว่าเมื่อกี้เจิดสอนให้พูดอะไรบ้าง แต่เพชรกลับยืนยันว่าตนยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ ทำให้เจิดยิ่งได้ใจด่าคล้าวไม่เลี้ยง คล้าว เหลืออดเลยชกหน้าเจิดไปเต็มหมัด

งานแตกทันที เพราะพวกเจิดกรูกันเข้ามา แว่นและเพื่อนๆตะลุมบอนกับพวกเจิดจนไม่รู้ใครเป็นใคร ทับทิมตกใจได้แต่ กรีดร้อง ก้อนรีบลากเพชรออกมาแล้วคว้าแขนทับทิมวิ่งหนีลูกหลงออกไปจากงาน เสียงจอมตะโกนสั่งทุกคนให้หยุด ขณะที่หมู่น้อยก็พยายามระงับการวิวาทแต่ไม่สำเร็จ

จนกระทั่งพวกคล้าวเป็นฝ่ายล่าถอยไปเพราะเกรงใจเจ้าของงาน ขณะพากันเดินกะโผลกกะเผลกกลับบ้าน คล้าว ขอโทษเพื่อนทุกคนที่ตนทำให้เสียงานสูญเงิน ถ้าตนทนทำหูฝาดตาเฝื่อนเรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้ แต่ทุกคนไม่มีใครโทษคล้าว กลับบอกว่าคล้าวทำดีที่สุดแล้ว อดทนอยู่ได้ตั้งนาน ถ้าเป็นพวกตนแค่เห็นหน้ากวนบาทาของไอ้เจิดก็คงตะบันหน้ามันแต่แรกแล้ว ที่สำคัญถึงวงดนตรีของเราจะกระจอกงอกง่อยยังไงก็ให้ใครมาดูถูกไม่ได้ ยิ่งมาหยามถึงพ่อแม่ ก็อย่าอยู่ร่วมโลกกันเลย...

ooooooo

เช้าแล้ว บุปผารีบกินข้าวต้มจนหมดชามแล้วส่งสัญญาณให้ทองกวาวอิ่มเพื่อหนีธรรมรักษ์ที่จะมารับไปส่งโรงเรียนสอนตัดเสื้อ  แต่รีบยังไงก็ไม่พ้นอยู่ดี เพราะธรรมรักษ์มาก่อนเวลานัด และไม่ยอมให้สองสาวนั่งรถเมล์ไปกันเอง อ้างกับทองคำว่าขึ้นรถเมล์อันตราย เผลอๆโชคร้ายเจอพวกโรคจิตทำมิดีมิร้ายเอาด้วย

ทองคำห่วงหลานจึงบังคับให้สองสาวไปกับธรรมรักษ์ แม้บุปผาจะอวดเก่งไม่กลัวใครหน้าไหน แต่ทองคำก็ไม่วางใจอยู่ดี ทองกวาวเห็นว่าหมดทางเลี่ยงจึงพยักพเยิดให้บุปผาตามน้ำไปก่อน แล้วพอจะขึ้นรถบุปผาก็รีบเข้าไปนั่งเบาะหน้าคู่กับธรรมรักษ์ ทองกวาวจึงต้องนั่งเบาะหลังโดยปริยาย ธรรมรักษ์รู้ว่าถูกกันท่าแต่ก็ยังยิ้มได้อยู่

ทองกวาวนั่งนิ่งระวังตัวรักษาท่าที ธรรมรักษ์ขับรถไปแอบมองทองกวาวไปผ่านกระจกมองหลัง บุปผารู้ทางและรู้ความในใจธรรมรักษ์ ไม่ว่าเขาจะชวนทองกวาวคุยเรื่องใด บุปผาก็ชิงตอบเองคนเดียว แถมยังแขวะแรงๆเสียจนธรรมรักษ์ฉุนขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เหยียบเบรกกะทันหันทำให้สองสาวหัวทิ่มมาข้างหน้า

"ขอโทษครับ ขอโทษ พอดีรถคันหน้ามันเบรกกะทันหันน่ะครับ คุณทองกวาวเจ็บไหมครับ"

"ไม่เจ็บเลยค่ะ ตกหลังควายเจ็บกว่านี้เยอะ" บุปผาตอบรวดเร็ว ธรรมรักษ์ฟังแล้วหัวเราะก๊าก

"นี่อยู่บ้านนอกเวลาไปไหนมาไหนทียังต้องขี่ควายกันอยู่อีกเหรอครับ ล้าสมัยจัง"

ทองกวาวชักสีหน้าไม่พอใจ ธรรมรักษ์มองทองกวาวผ่านกระจกหลัง บุปผาหมั่นไส้ร้องลั่นว่าระวังข้างหน้า ธรรมรักษ์ ตกใจหักพวงมาลัยกะทันหัน บุปผาเลยได้โอกาสโถมเข้าใส่ทำเป็นเซเสียหลักแล้วแอบถองศอกเข้าท้องเขาเต็มแรง ชายหนุ่มเจ็บถึงจุกแต่ต้องวางฟอร์มว่าไม่เป็นอะไร

"ทีนี้ก็ตั้งใจขับรถดีกว่านะคะ ขับไปคุยไปอย่างนี้บุปผากลัวค่ะ"

ธรรมรักษ์ยิ้มแหยๆ ทองกวาวแอบขำที่ธรรมรักษ์เจอฤทธิ์บุปผาเข้าให้

ooooooo

แว่นยังเป็นห่วงความรู้สึกของคล้าวที่ถูกก้อนและทับทิมปฏิเสธการสู่ขอทองกวาวด้วยท่าทีชิงชังรังเกียจ อีกทั้งยังเรียกสินสอดใหม่ตั้งสิบหมื่น พอวันนี้รู้จากคอนว่าคล้าวไปรับจ้างดายหญ้า แว่นจึงตามไปช่วยคล้าวเพื่อจะได้เงินค่าจ้างเยอะๆ แต่ที่ไหนได้ คล้าวบอกว่าเหมาเขามาแล้วได้แค่สิบบาท และคงต้องทำสองสามวันกว่าจะเสร็จ

"เวร...สองสามวัน แล้วชาติไหนมันจะได้ครบสิบหมื่นล่ะวะเนี่ย  ไอ้คล้าว  ข้าว่าเอ็งอย่าทำประชดประชันใครเลยว่ะ

ตาก้อนยายทับทิมแกไม่มีวันจะเห็นใจเอ็งหรอก"

"ข้าไม่ได้ทำประชดประชันใครแว่น ก็ในเมื่อเขาอยากได้สิบหมื่น ข้าก็ต้องหามาให้เขาจนได้น่ะแหละ"

"เอายังงี้ดีกว่าไหมวะคล้าว  เอ็งไปเรียนตัดผมกะข้า ข้าจะสอนให้ ขี้หมูขี้หมาตัดผมวันนึงก็ได้หลายบาทอยู่ ไม่ต้องมาหลังขดหลังแข็งอาบเหงื่อต่างน้ำแลกเงินสิบบาทอย่างนี้"

"ข้าจะไปแย่งงานเอ็งได้ยังไงวะ ช่างข้าเหอะ ดีกว่าข้าไม่มีอะไรทำ แล้วก็จะได้ไม่ต้องมัวคิดถึงทองกวาวมากมายนัก"

"เฮ้อ จะเป็นตายร้ายดียังไงก็น่าจะส่งข่าว ส่งจดหมายมาหากันบ้าง มาหายเงียบไปซะเฉยๆอย่างนี้...บุปผาใจร้าย บุปผาใจดำ" แว่นตะโกนโหวกเหวกอย่างอัดอั้น

"ไอ้แว่น ไม่เอาน่า...ข้าว่าทั้งทองกวาวทั้งบุปผาก็คงจะกำลังยุ่งจนไม่มีเวลามากกว่า เขาไม่มีวันลืมเราสองคนหรอกแว่น"

แว่นเศร้าจัด ถามคล้าวมีพร้าอีกซักเล่มไหมจะได้ช่วยกันดายหญ้า แต่คล้าวเกรงใจบอกให้แว่นกลับไปเฝ้าร้านดีกว่า

"วันนี้วันพุธไม่มีใครเขามาตัดผมกันหรอก ไม่มีพร้าไม่เป็นไร งั้นข้าใช้มือถอนเอาก็ได้ ข้าต้องหาอะไรทำเหมือนกัน ไม่งั้นคงคิดถึงบุปผาอกแตกตายแหงๆเลย"

แว่นเดินคอตกไปถอนหญ้าอีกมุม คล้าวสงสารแต่ก็ไม่รู้จะช่วยเพื่อนยังไง เพราะตัวเองก็ตกอยู่ในสภาพที่ไม่ต่างกัน

ooooooo

ในไนต์คลับของธรรมรักษ์ซึ่งธีระเป็นผู้ดูแล บ่ายนี้ธีระหัวเสียเพราะนักดนตรีซ้อมวงไม่ได้ดั่งใจ อีกทั้งนักร้องสาวเบอร์หนึ่งอย่างฤทัยก็เอาแต่หงุดหงิดหน้างออยู่ในห้องจนใครก็เข้าหน้าไม่ติด ครั้นธีระเห็นธรรมรักษ์โผล่เข้ามาจึงบอกให้เขาไปดูฤทัยในห้องแต่งตัว

ฤทัยอารมณ์ไม่ดีเพราะธรรมรักษ์หายหน้าไปหลายวัน บ้านช่องไม่กลับ เธอระแวงว่าเขาจะไปติดผู้หญิงอื่น พอเจอหน้าเขาคราวนี้เธอจึงขู่เขาว่า ถ้าเขาทำอย่างนั้นเธอจะหนีไปร้องเพลงให้คนอื่นให้เข็ด แต่ธรรมรักษ์รู้จุดอ่อนของฤทัย เพียงแค่เขาเข้าคลุกวงในและมีเครื่องประดับราคาแพงๆมาให้ ฤทัยก็อ่อนระทวยเป็นขี้ผึ้งลนไฟไปซะทุกที

หายเข้าไปในห้องไม่นาน ธรรมรักษ์ก็ยิ้มร่าออกมานั่งดื่มกับธีระ ส่วนฤทัยก็ขึ้นเวทีร้องเพลงอย่างสนุกสนานมีชีวิตชีวาจนธีระรู้สึกทึ่งฝีมือเจ้านาย ชื่นชมไม่ขาดปาก นั่นยิ่งทำให้ธรรมรักษ์ลำพองใจ บอกกับธีระว่า ของตายน่ะยังไงมันก็ไปไหนไม่รอดหรอก...

ooooooo

สายวันรุ่งขึ้น มิ่งให้การต้อนรับจอมกับสมุนเป็นอย่างดี และดวงใจเอาน้ำมารับแขก มิ่งซึ่งรู้จุดประสงค์ การมาของจอมดีอยู่แล้ว จึงบอกให้ดวงใจอยู่คุยกับจอม แต่พอสายใจโผล่ขึ้นเรือนมาเห็นจอมกับสมุน    เธอก็ชักสีหน้าไม่พอใจ ถามห้วนๆว่ามาทำไมกัน?

มิ่งอยากจะด่าสายใจให้แสบสัน แต่ติดตรงที่จอมนั่งหัวโด่อยู่ จึงเรียกสายใจมานั่ง อย่ายืนค้ำหัวผู้ใหญ่อย่างนั้น

"ผู้ใหญ่บางคนมันก็ไม่ได้น่านับถือนักหรอก"

"โธ่...อีนี่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ฉันขอโทษพ่อจอมด้วยนะจ๊ะ ยังไม่มาอีก"

"ไม่เป็นไรไอ้มิ่ง ข้าไม่ถือ"

สายใจจำใจเดินมานั่งข้างดวงใจ แล้วตั้งคำถามใส่พวกจอมอีกครั้งว่า มาทำไมกันเต็มบ้านเต็มช่อง

"ถามได้ว่ามาทำไม อาชีพข้าน่ะปล่อยเงินกู้เก็บดอกกินนี่หว่านังสายใจ"

"ไปเหอะไป ไปข้างหน้าก่อน บ้านนี้ไม่ชอบเป็นหนี้ใคร"

"อีสายใจ มึงไม่พูดซักอึดใจก็ไม่มีใครเขาว่ามึงเป็นใบ้ หรอก" มิ่งตวาดแล้วก็มองจอมอย่างเกรงใจ แต่จอมไม่ว่ากระไร นอกจากพูดเรื่องหนี้สินและดอกเบี้ยที่จะมาเก็บจากมิ่ง สองสาวตกใจว่าพ่อของเธอไปเป็นหนี้จอมตั้งแต่เมื่อไหร่ จอมเลยโบ้ยให้ถามพ่อเอาเอง

ลูกสาวทั้งสองคนหันขวับมองพ่อ แต่มิ่งก้มหน้ามองกระดาน ไม่ยอมสบตากับใคร

"พ่อ...อย่าบอกนะว่าพ่อกู้เงินตาจอมไปเข้าบ่อนน่ะ...พ่อ!" สายใจตะเบ็งสุดเสียงจนมิ่งสะดุ้งโหยง

"อีบ้า แก้วหูจะทะลุ ก็พวกมึงสองคนอยากปล่อยให้กูอดๆอยากๆ กูก็ต้องหาทางดิ้นรนของกูน่ะสิวะ"

"พ่อทำอะไรลงไปพ่อรู้ตัวรึเปล่า พ่อลงนรกคนเดียวไม่พอ พ่อยังลากนรกเข้าบ้านด้วย"

"เดี๋ยวกูจะเอามะพร้าวห้าวยัดปากมึงอีสายใจ"

"พ่อ...พี่สายใจ หยุดทะเลาะกันก่อนได้ไหม พ่อฉันเป็นหนี้นายจอมเท่าไหร่"

ดวงใจอยากรู้ จอมจึงให้สมุนเปิดบัญชีจาระไน ปรากฏว่าเงินต้นสามพันห้า ยังไม่ได้คิดดอก สายใจแทบกรี๊ด ต่อว่าพ่อยกใหญ่

"พ่อทำยังงี้ได้ยังไง   พ่อเคยคิดบ้างไหมว่าฉันต้องขายบัวลอยไข่หวานไปทั้งชาติ    จนตายละมังถึงจะได้เงินสามพันห้าเนี่ย"

"มึงก็อย่าขายแต่บัวลอยไข่หวานสิโว้ย"

ดวงใจเครียดจัด ปรามพ่อกับพี่สาวอย่าเพิ่งทะเลาะกัน ตอนนี้เธออยากรู้ว่าจอมจะเอายังไงให้ว่ามา

"ข้าก็เห็นเอ็งสองคนมาแต่เล็กแต่น้อย ยังไงก็เอ็นดูพวกเอ็งเหมือนลูกเหมือนหลาน เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ข้าจะยังไม่คิดดอกพวกเอ็ง แค่ทยอยใช้ต้นคืนมาทีละนิดทีละหน่อยดีไหมล่ะ"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น