หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

มนต์รักลูกทุ่ง ตอนที่ 4

ตอนที่ 4

คืนนี้คล้าวตั้งใจมาพบทองกวาว บุปผาซึ่งรู้กันพยายามเปิดทางให้คล้าวเต็มที่ โดยชวนทองกวาวลงไปเดินเล่นข้างล่าง แต่ขณะที่คู่รักกำลังง้องอนปรับความเข้าใจกันอยู่   ก็มีอันต้องเจออุปสรรคเข้าจนได้

เมื่อก้อนและทับทิมบ่นร้อนลงมานั่งรับลมที่แคร่ หน้าบ้าน บุปผาต้องคอยทำหน้าที่กางกั้นแทบแย่เพื่อไม่ให้ลุงกับป้าเห็นคล้าวอยู่กับทองกวาว

ในที่สุดบุปผาก็ต้อนลุงกับป้ากลับขึ้นบ้านไปได้ ส่วนทองกวาวก็ต้องขึ้นด้วยเหมือนกัน แต่คล้าวยังไม่ยอมไปไหน ปักหลักอยู่ใต้หน้าต่างห้องเพื่อความมั่นใจว่าทองกวาวไม่โกรธไม่งอนเรื่องสายใจที่ตัวเองไม่เคยคิดเป็นอื่น นอกจากน้องสาวเท่านั้น

เห็นทองกวาวยังงอนไม่หาย คล้าวบอกว่าจะยืนอยู่อย่างนี้จนเช้า บุปผาเสริมว่าพี่คล้าวพูดจริงทำจริง แล้วก็แซวทองกวาวว่าจะทำอะไรก็ทำเข้าซักอย่าง ไม่ต้องมัวเขินอยู่หรอก ทองกวาวจึงตัดสินใจโยนปลอกหมอนที่ปักไว้ลงไปให้คล้าว

"ทองกวาวจะเข้านอนแล้ว ดึกแล้ว...เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปทำบุญที่วัดไม่ทัน พี่คล้าวกลับบ้านไปเถอะ"

คล้าวยิ้มหน้าบาน สูดดมปลอกหมอนนั้นอย่างชื่นใจ ทองกวาวถึงกับอายสะท้าน เหมือนถูกจูบเข้าที่พวงแก้มยังไงยังงั้น

"คืนนี้พี่คงนอนหลับฝันดี ถ้าทองกวาวจะฝัน ขอให้ในฝันของทองกวาวมีพี่คล้าวอยู่ด้วยนะจ๊ะ"

ทองกวาวยิ้มเอียงอาย มองตามคล้าวที่ค่อยๆถอยหายออกไปในความมืด พอกลับถึงบ้านคล้าวก็สวดมนต์ไหว้พระก่อนนอนหนุนหมอนที่ใส่ปลอกหมอนใหม่เอี่ยมของทองกวาวหลับสบายทั้งคืน

เช้าวันใหม่ คล้าวกับแม่คอนนำข้าวปลาอาหารมาทำบุญที่วัดซึ่งเต็มไปด้วยญาติโยม เนื่องจากวันนี้เป็นวันพระ สองแม่ลูกเจอหลวงพ่อตรงหน้าศาลา จึงหยุดทักทายกันประสาคนรู้จักมักคุ้น

"เป็นยังไงล่ะโยมคอน ได้ยินว่าไปนอนอยู่สุขศาลาซะหลายคืน"

"เจ้าค่ะท่าน ลำบากคล้าวมันต้องไปเฝ้าแทบไม่ได้ทำมาหากิน"

"อย่าไปคิดอะไรมาก ลูกมันเต็มใจทำหน้าที่ตอบแทนพระคุณบุพการี บุญกุศลจะหนุนนำให้มันเจริญยิ่งๆขึ้นไป โยมเองก็หักโหมเกินไปนัก จะทำอะไรก็ให้พอดีตัว ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท"

"เจ้าค่ะท่าน" คอนกราบหลวงพ่อ จังหวะนี้เองคณะของก้อนเข้ามาพอดี ทุกคนหิ้วของทำบุญมาพะรุงพะรัง คล้าว หันไปเห็นทองกวาวจึงส่งยิ้มให้    แต่เพชรเห็นก็เลยมายืนกันท่าขวางทองกวาวไว้

"นมัสการครับหลวงพ่อ" ก้อนพนมมือแต้...ทับทิมขยับมายืนคู่สามี จีบปากอย่างสดชื่นว่า

"วันนี้อิฉันแกงเทโพหมูมาถวายด้วยเจ้าค่ะ ความจริงเมื่อวานว่าจะให้ไอ้เพชรมันวิ่งมาถามหลวงพ่อว่าอยากจะฉันอะไรเป็นพิเศษ อิฉันจะได้ทำมาถวายเจ้าค่ะ"
"เป็นพระจะบอกได้ยังไงล่ะโยม ว่าอยากฉันโน่นฉันนี่ มันผิดพระวินัย"

"แต่แหม...เผื่อทำอะไรมาถวายแล้วท่านไม่ฉัน โยมก็อดได้บุญสิครับท่าน" ก้อนก็เป็นไปด้วยกับเมีย

"บุญนะมันเกิดขึ้นตั้งแต่โยมมีจิตอันบริสุทธิ์ในการให้ คือให้อย่างไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนแล้วละโยม จะเป็นกับข้าวหรูหรา หรือแค่ผักสองสามต้น หรือข้าวแค่ช้อนเดียว ก็ได้บุญพอกัน"

"แต่ไม่รู้ละ ยังไงท่านก็ต้องฉันแกงเทโพหมูของอิฉันเยอะๆ แล้วก็ฉันก่อนกับข้าวคนอื่นๆด้วยนะเจ้าคะ"

หลวงพ่อนิ่งไปอย่างระอาสองผัวเมีย แว่นซึ่งมาถึงได้

สักครู่ยื่นหน้าทำน้ำลายสออยากกินแกงเทโพหมู เลยโดนทับทิมตวาดดุจนต้องกระโจนหลบไปหลังหลวงพ่อ พอก้อนเร่งเมียและลูกหลานขึ้นไปจองที่นั่งบนศาลา ทับทิมก็รีบเออออเพราะอยู่แถวนี้เหม็นสาบคนจน

ครั้นขึ้นมาเลือกที่นั่งได้เป็นที่พอใจแล้ว แถมยังกันที่ไว้ให้เศรษฐีจอมกับลูกชายที่มาทีหลัง จอมวางมาดอวดบารมีด้วยการควักเงินหนึ่งพันทำบุญต่อหน้าประชาชี นั่นยิ่งทำให้ก้อนและทับทิมเห่อความรวยของสองพ่อลูกถึงกับชื่นชมไม่ขาดปาก

สายใจกับดวงใจมาถึงแล้ว สายใจตรงดิ่งมาชวนคล้าว ไปกราบพระ แต่คล้าวบอกว่าตนไปมาแล้ว สายใจเลยหน้างอ แต่พอจะไปตักบาตรสายใจก็คะยั้นคะยอคล้าวไปด้วยจนได้ เธอให้เขาอุ้มขันข้าวเดินตามเพื่อจะตักบาตรด้วยกัน จังหวะนี้เองน้อยขยับเข้ามาใกล้คล้าว สองตามองสายใจตาละห้อย บ่นด้วยความน้อยใจกับคล้าวว่าชาตินี้ตนจะมีวาสนาได้ตักบาตรร่วมขันกับน้องสายใจบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้ คล้าวเลยยื่นขันข้าวใส่มือน้อยแล้วรีบฉวยโอกาสแวบออกไปทันที

สายใจมัวเบียดกับพวกชาวบ้านโดยไม่ได้หันหลังมามองคนที่เดินตาม น้อยจึงได้ตักบาตรร่วมขันกับสายใจด้วยอาการตื่นเต้นจนมือไม้สั่น

เสร็จจากทำบุญ ชาวบ้านต่างทยอยลงจากศาลาแล้วเทเศษอาหารทิ้งลงถาดให้หมาวัด เชนซึ่งกำลังหิวโซได้แต่มองตาละห้อยด้วยความเสียดาย จนเมื่อดวงใจหิ้วป”่นโตลงมาเป็นคนสุดท้าย เชนตัดสินใจเอ่ยปากขอเศษอาหารเพื่อประทังความหิว พอดวงใจยื่นป”่นโตให้ เชนยกมือไหว้ปลกๆแล้วจัดการกับอาหารที่เหลือก้นป”่นโตอย่างตายอดตายอยากจนดวงใจกลัวเขาจะติดคอตายต้องไปหาน้ำมาให้ดื่ม

คล้าวกับแม่และแว่นยังอยู่บนศาลาเตรียมจะเก็บสำรับที่พระฉันเสร็จแล้วรวบรวมไปล้าง จู่ๆจอมก็เดินอาดๆเข้ามายืนค้ำหัวคอน ตามด้วยสมุนที่เข้ามาประกบประดับบารมี

"ขยันทำบุญหวังจะถูกหวยรวยเบอร์กะเขาเหรอวะ

นังคอน หรือจะสะสมบุญเอาไว้กินชาติหน้า" จอมเปิดฉากด้วยท่าทีเยาะหยัน ทำให้คล้าวชะงักไม่ค่อยพอใจนัก

"อาจอม...คนเราทำบุญอย่างไม่ได้หวังอะไรตอบแทนก็มี"

"มีด้วยเหรอวะ ข้าเห็นรายไหนรายนั้น ทำบุญแล้วก็ขอสารพัดจะขอ ข้าจะบอกอะไรให้ ถ้าเอ็งกับแม่จะขอ ก็ขอให้ยังไงก่อนตายก็ใช้หนี้ข้าให้หมดก่อนนะโว้ย เดี๋ยวติดหนี้ข้าต้องไปตามเก็บในนรก จะหาว่าข้าไม่เตือน"

พ่นแล้วจอมก็หัวเราะชอบใจไปกับสมุน...แว่นโกรธแทน กระซิบคล้าวว่าจะลุยเลยไหม ข้าจะช่วยเอ็งเต็มที่ แต่คล้าว ไม่อยากมีเรื่องจึงบอกแว่นให้เย็นไว้

"ข้าจะบอกให้เอาบุญนะนังคอน เอ็งจะมามัวก้มหน้า ก้มตาขายผักขายปลาได้วันละห้าบาทสิบบาทน่ะ ตายคากองผักก็ใช้หนี้ข้าไม่หมด ว่างๆก็ไปเสี่ยงบ่อนข้าสิ ดวงดีไม่ทันข้ามวันก็กลายเป็นเศรษฐีให้ใครๆเขาเรียกคุณคอนเชียวละ"

"ขอบใจอาจอมที่อุตส่าห์หวังดีแนะนำ แต่ฉันกับแม่คงไม่มีวันไปข้องแวะกับการพนันหรอกจ้ะ มันเป็นบาป ต่อให้สิ้นปัญญาทำมาหากิน ฉันกับแม่ก็มีศักดิ์ศรีพอจ้ะ"

"เออ เอ็งก็รักษาศักดิ์ศรีเอ็งไปให้ถึงพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ข้าจะคอยดูหน้าซีดๆของเอ็งว่าจะมีปัญญาใช้หนี้ข้าไหม" ว่าแล้วจอมก็เดินกร่างออกไปพร้อมสมุน คอนรู้สึกใจสั่นหวิวเหมือนจะเป็นลม ขณะที่แว่นบ่นกระปอดกระแปดไม่เข้าใจว่าคนขี้โกงทำไมมันรวยเอาๆ ส่วนคล้าวได้แต่นิ่งไปอย่างกังวลใจ

ที่ข้างศาลา ชาวบ้านกำลังช่วยกันล้างภาชนะถวายพระ ทับทิมเข้ามาขอน้ำและสบู่ล้างมือ ขณะล้างก็ถอดแหวนทองวางไว้ก่อน พอจะกลับมัวแต่ทักทายกับชาวบ้านก็เลยลืมแหวนเอาไว้ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็กลับขึ้นไปบนศาลาแล้ว

เชนเก็บแหวนนั้นได้และเที่ยวตามหาเจ้าของ คณะของทับทิมที่มีจอมกับเจิดแห่ลงมาด้วยไปเจอเชนเข้า ทุกคนเห็นสภาพของเชนก็เข้าใจว่าเป็นหัวขโมยที่ซัดเซพเนจรมาจากถิ่นอื่น ยิ่งพอเห็นแหวนในมือเชน ทับทิมไม่ฟังอะไรทั้งสิ้นตบหน้าเชนเต็มแรง ตามด้วยหมัดของก้อน แล้วก็บาทาสมุนของจอมที่รุมกระทืบเชนอย่างเมามัน

ทองกวาวสงสารเขา ก้อนเองก็กลัวมันจะมาตายในวัดให้เป็นบาป ก็เลยบอกสองพ่อลูกว่าพอเถอะ เชนจึงแค่บอบช้ำไม่ถึงกับกระอักเลือด

"นี่ถ้าอาก้อนเขาไม่ขอไว้ เอ็งตายคาบาทาพวกข้าแน่ ไสหัวไปเลยไอ้คนพเนจร ไม่งั้นเอ็งเลี้ยงไม่โตแน่"

"ผมไม่ได้ขโมย...ผมไม่ได้ขโมย" เชนพูดความจริงแต่กลับถูกเจิดเตะซ้ำอีกดอกก่อนจะเดินออกมา เพชรเห็นแล้วชื่นชมพี่เจิดว่าโคตรเท่เลย

"ไปกันเถอะแม่ทับทิม น้องก้อน อย่าไปสนใจมันเลย" จอมก้าวนำ แต่ยังไม่ทันที่คนอื่นๆจะก้าวตามก็มีชาวบ้านคนหนึ่งเข้ามาถามทับทิมว่า

"ได้แหวนคืนแล้วใช่ไหมแม่ทับทิม เมื่อกี้ผู้ชายคนนึงเขามาถามหาเจ้าของแหวน ฉันเห็นแหวนแล้วฉันว่าฉันจำได้ว่าเป็นของแม่ทับทิมนะ"

ก้อนและทับทิมหน้าซีดกันทันที หันกลับไปมองชายแปลกหน้าที่ยังนอนตัวงออยู่กับพื้น

"นั่นปะไร เจ็บตัวฟรีๆแล้วไหมล่ะ เข้าไปดูเขาหน่อยเถอะจ้ะป้า เขาเป็นคนดีนะไม่ใช่ขโมยอย่างที่ป้าคิดซะหน่อย" ขาดคำของบุปผา จอมสวนทันควันว่า

"ช่างหัวมันปะไรวะ มันเสือกโง่ปากหนักเองนี่หว่า"

แล้วทุกคนก็พากันออกไป ทิ้งเชนเอาไว้ตรงนั้น เชนพยายามจะลุกขึ้น ดวงใจขยับเข้ามาถามเขาว่าเป็นยังไงบ้าง เจ็บมากไหม เชนบอกไม่เป็นไร พูดพลางก็กัดฟันแข็งใจลุกขึ้นจนได้ แล้วเดินโซเซออกไป ดวงใจมองตามด้วยความเวทนา

ooooooo

คณะของก้อนแวะไปที่กุฏิหลวงพ่อ ทับทิมยังกังวลใจเรื่องเมื่อสักครู่จึงถามหลวงพ่อว่าตนจะบาปรึเปล่า

"จะว่าบาปมันก็บาปแหละโยม ถือว่าลุแก่โทสะปล่อยให้อารมณ์โกรธนำทางจนทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อน"

"แต่เราไม่รู้นี่ครับหลวงพ่อว่าใครมาร้ายมาดี ทางที่ดีเราก็ต้องระวังเอาไว้ก่อนไม่ถูกเหรอครับ"

"ระแวดระวังน่ะดี แต่ก็ต้องหัดมีสติด้วย แต่ทางที่ดีโยมก็น่าจะป้องกันเอาไว้ก่อน เพชรทองใส่ซะเต็มตัวมันก็ยั่วกิเลสคนชั่วได้นะโยมทับทิม"

"แต่แหม...หลวงพ่อเจ้าขา อิฉันออกจากบ้านอย่างคอแขนล่อนจ้อนไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ อิฉันไม่มีความมั่นใจ"

"ยึดมั่นในความดี คิดดี ทำสิ่งดีๆเท่านั้นก็พอแล้วมั้งโยม"

ทับทิมทำหน้าเซ็งไม่กระจ่างในคำสอน เจิดเองก็เบื่อ จึงขอคุยเรื่องอื่นที่เบาสมองดีกว่า จอมเลยพูดเรื่องจะสร้างโบสถ์ใหม่ ก้อนรับลูกทันทีว่าพี่จอมใจตรงกับตนเลย เรามาสร้างโบสถ์ใหม่ ให้ใหญ่จนลือกันไปทั้งบางเลยดีกว่า

"โบสถ์เก่าแก่ก็ยังดีอยู่ จะสร้างใหม่ทำไมล่ะโยม"

"โธ่หลวงพ่อ พอวัดเจริญคนจะได้มาทำบุญกันเยอะๆไงครับ หลวงพ่อไม่ชอบรึไง"

"ความเจริญมันดูกันตรงไหนเหรอโยม ต่อให้วัดใหญ่โตสวยงามด้วยโบสถ์ใหม่ แต่ญาติโยมไม่เข้าใจพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ มันก็เปล่าประโยชน์นะ"

ขณะพวกผู้ใหญ่สนทนากับหลวงพ่อ ทองกวาวกับบุปผาก็ค่อยๆแวบออกไปแถวโบสถ์ซึ่งนัดกับคล้าวและแว่นเอาไว้...

แว่นจีบบุปผาอย่างชื่นมื่นมีความสุข ส่วนทองกวาวตามคล้าว เข้าไปในโบสถ์ก่อนที่ทั้งคู่จะสาบานรักต่อหน้าองค์พระ คล้าว สาบานว่าชั่วชีวิตของตนจะขอรักทองกวาวคนเดียว จะไม่ยอมรับหญิงใดอีก ขณะที่ทองกวาวก็สาบานว่าเธอจะรักและไม่ปันใจให้ใครอื่น จะเชื่อใจและมอบชีวิตทั้งชีวิตของเธอให้พี่คล้าว คนเดียว

ที่ข้างโบสถ์ แว่นบ่นสงสารคล้าวที่ทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อหาเงินมาใช้หนี้นายจอมหน้าเลือด บุปผาก็กลุ้มใจแทนจริงๆที่ลุงกับป้าดันเห็นเงินดีกว่าคนดีอย่างคล้าว...พูดขาดคำ บุปผาก็ตาเหลือกเมื่อมองไปเห็นกลุ่มของลุงป้าและสองพ่อลูกหน้าเลือดเดินดาหน้ากันมาทางนี้

บุปผารีบให้แว่นหลบซ่อนก่อน เธอจะเอาตัวรอดไปได้

ว่าเธอออกมาเดินเล่น ส่วนทองกวาวก็อยู่แถวนี้ เจิดคาดคั้นให้ระบุมาชัดๆว่าตรงไหน บุปผา อึกอักก่อนบอกว่าทองกวาวเข้าไปไหว้พระในโบสถ์  ก้อนแปลกใจ  ว่าลูกสาวนึกยังไงถึงเข้าไปไหว้พระ บุปผาเลยแต่งเรื่องว่า

"ได้ยินทองกวาวบ่นๆว่ากลุ้มใจ ถ้าปลงไม่ตก คิดอะไรไม่ออกก็อาจจะบวชชีไปตลอดชีวิตจ้ะ"

"บวชชี...คุณพระคุณเจ้าช่วย มันมีเรื่องกลุ้มใจอะไรนักหนา" ทับทิมท่าทีตกใจ

"หนูก็ไม่ค่อยรู้หรอกจ้ะ ได้ยินแต่ว่าถูกบังคับจิตใจจนเหลือจะทนแล้ว"

"ใครเขาไปบังคับจิตใจมันเรื่องอะไรวะ"

"เรื่องไอ้คล้าวมั้งพ่อ" เพชรสู่รู้

"ฉันว่าเผลอๆ ทองกวาวอยู่ในนั้นกับไอ้คล้าวแหงๆเลยจ้ะอาก้อน"

คำพูดเจิดเล่นเอาก้อนถึงกับแยกเขี้ยวยิงฟัน ถ้าเข้าไปเจอคล้าวจริงจะเฉือนให้เป็นชิ้นๆ แต่โชคก็เข้าข้างคล้าวที่ทุกคนเข้ามาแล้วไม่เห็น เพราะทองกวาวให้คล้าวซ่อนตัวหลังองค์พระได้ทันเวลา

เมื่อกลับมาถึงบ้าน ทองกวาวยิ้มแย้มมีความสุข

ตลอดวันที่ได้สาบานรักกับคล้าว หมึกสังเกตท่าทีและสีหน้าทองกวาวก็รู้สึกได้ว่าผิดปกติ ทำงานไปยิ้มไป ยิ้มคนเดียวเหมือนคนบ้า ก้อนกับทับทิมได้ฟังจึงด่าหมึกเอ็ดอึง แล้วสองผัวเมียก็ลงความเห็นกันว่าทองกวาวกำลังมีความรักกับเจิดลูกพ่อจอม

ooooooo

คล้าวกำลังกลุ้มใจไม่รู้จะหาเงินที่ไหนจ่ายดอกเบี้ย ให้จอมวันพรุ่งนี้  แต่จู่ๆก็เหมือนพระมาโปรดเมื่อแว่น วิ่งมาบอกข่าวดีว่าคืนนี้ตนรับงานบวชเอาไว้  คล้าวดีใจ เหลือล้นรีบกลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวหล่อ  แต่พอชาวคณะพากันไปถึงงานบวชเล่นเพลงได้ไม่เท่าไหร่  วัยรุ่นเกิดมีเรื่องชกต่อยกันจนงานพัง  เงินค่าจ้างก็ไม่ได้  แถมทุกคนยังต้องวิ่งหัวซุกหัวซุนหนีตายกันอลหม่าน

เช้าขึ้นถึงเวลาจอมมาเก็บดอกเบี้ยจากคอน แต่สองแม่ลูกไม่มีเงินให้ คล้าวขอผัดหนี้งวดนี้ออกไปอีก จอมไม่ยอมและบอกว่าจะยึดบ้านกับนา คอนตกใจมากวิงวอนขอร้องจอมทั้งน้ำตา และยอมกราบเท้าจอมเพื่อรักษามรดกที่ตั้งใจจะยกให้ ลูกชายคนเดียว แต่จอมก็ยังยักท่าว่าคล้าวต้องกราบด้วย

เจิดแยกจากพ่อไปบ้านก้อนและคุยฟุ้งว่าพ่อกำลังไปเก็บดอกจากคล้าว  ทองกวาวได้ยินก็หูผึ่งและนึกเป็นห่วงคล้าว  จึงรวบรวมเงิน  และทองหยองที่แม่เพิ่งให้มาเมื่อคืนวิ่งออกจากบ้าน ไป  โดยที่บุปผาคอยกรุยทางสะดวกให้  สายใจก็เพิ่งรู้จากน้อย เหมือนกันว่าจอมไปเก็บเงินคล้าว   เธอแตกตื่นเป็นห่วงคล้าว ขึ้นมาทันที

ที่สุดคล้าวก็ต้องยอมกราบเท้าจอมเพื่อรักษาบ้านและที่นาซึ่งเป็นมรดกตกทอดของปู่ย่าตาทวด แต่ถึงยังไงจอมก็ไม่ยอมกลับบ้านมือเปล่า สั่งสมุนไปลากควายสองตัวในคอกออกมา คล้าวขอร้องแทบตายจอมก็ไม่ฟัง แถมจอมยังโหดเหี้ยมจะเอาควายไปส่งโรงเชือดแลกเงิน ทำให้คอนถึงกับเป็นลมล้มพับอยู่ในอ้อมกอดของลูกชาย

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น