หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

เงากามเทพ ตอนที่ 8

ตอนที่ 8

พอกมลทัตพยักหน้า ภาสกรก็พูดต่อทันที "เราจะรับจำนองสวนกับโรงงานของคุณเอาไว้ รายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆจะคุยกันจนกว่าคุณจะพอใจ"

กมลทัตพูดแซงขึ้นว่า "ขออีกอย่างเดียวเท่านั้นคือ กุลชาติกับเทียนจะต้องแต่งงานกัน" โรมฟังแล้วเครียด แต่กมลทัตยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม โรมไม่มีทางอื่นจึงตกลง พอโรมออกจากบ้านไป กมลทัตก็ไปหาพิศเพลินที่ตอนนี้ออกจากบ้านไปถือศีลอยู่ที่วัดหลายวันแล้ว เนื่องจากโกรธกมลทัตกับกุลชาติที่ทำกับเทียนไว้ พอไปถึงวัดกมลทัตก็บอกพิศเพลินว่า

"ที่ฉันมานี่มาบอกบุญนะ ที่บ้านเรากำลังจะมีงานมงคล หนูเทียนเขาตกปากรับคำจะแต่งงานกับกุลชาติลูกของเราแล้ว" กมลทัตพูดหน้าตาเฉยทั้งๆที่เรื่องนี้เทียนยังไม่ได้รับรู้จากโรมเลย เพราะหลังจากวันที่ตกลงกับกมลทัตอีกตั้งหลายวัน โรมเพิ่งจะบอกเทียนว่าวันนี้ให้แต่งตัวสวยหน่อยเขาจะพาไปธุระ แล้วถามเทียนอีกว่า

"เธอบอกจะอยู่ข้างฉันตลอดไปใช่มั้ย ไม่ว่าฉันจะตัดสินใจทำอะไรเธอจะไม่คัดค้าน"

"ค่ะ...เทียนเชื่อนายหัว" เทียนตอบหนักแน่น โรมตื้นตันยกมือขึ้นลูบหัวเทียนแล้วบอกว่า "เด็กดี"

และไม่เพียงพาเทียนไปวันนี้เท่านั้น โรมยังชวนปารวดี เผ่า และลักษมนให้ไปด้วยกัน โดยทั้งหมดไม่รู้ว่าโรมจะพาไปที่ไหน แต่พอไปถึงบ้านกมลทัต และเขาเดินออกมาต้อนรับ ทุกคนก็งงว่ามันเรื่องอะไรกัน แต่เมื่อเห็นโรมเดินตามกมลทัตเข้าไปในบ้าน ทั้งหมดก็เดินตาม

ที่ในห้องอาหาร บนโต๊ะมีอาหารตั้งเรียงรายเต็มไปหมด กมลทัตพยักหน้าชวนบอกว่า "เต็มที่ๆ ไม่ต้องเกรงใจ ของดีๆทั้งนั้น สั่งมาจากไหนบ้างล่ะกุลชาติ" กุลชาติที่แต่งตัวเอี่ยมอ่องรีบแนะนำอาหาร

"เซตอาหารจีนจากเทียนกัวเทียนเยาวราช เซตฝรั่งจากริมน้ำเจ้าพระยาโรงแรมละอย่างสองอย่าง ส่วนเซตไทยจากครัวต้นก้ามปูสามเสนครับ" ขณะอธิบายก็จ้องหน้าเทียนตาเยิ้ม ส่วนคนอื่นๆอ้ำๆอึ้งๆ กมลทัตเลยบอกโรมว่า

"ก่อนจะกินกัน โรมมีอะไรจะพูดหรือเปล่า"

โรมอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนพูดออกมาว่า  "เป็นที่รู้กันอยู่ว่าตอนนี้ฉันมีปัญหาทางธุรกิจมาก ไม่สามารถจะแก้ไขสถานการณ์ ได้โดยลำพัง คุณกมลทัตคือผู้ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยกู้วิกฤตการณ์ ครั้งนี้ เขาคือผู้มีพระคุณต่อฉัน..." ทุกคนทำตาเหลือก แต่กมลทัตยิ้มลุกขึ้นโบกมือไปมา

"ไม่เป็นไรครับ ยินดีครับ ยินดีมากด้วย ผมยินดีที่จะช่วยโรมกอบกู้ทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะไหนๆสองครอบครัวของเราก็จะดองกันอยู่แล้ว กุลชาติของผม กับเทียนของโรมจะเข้าสู่พิธีวิวาห์กันในเร็ววันนี้"

ลักษมนสำลักน้ำที่กำลังดื่ม เทียนทำช้อนหลุดจากมือลงพื้นดังเคร้ง พิศเพลินมองเทียนอย่างสงสาร ส่วนเทียนมองหน้าโรม แต่โรมไม่ยอมสบตาด้วย กมลทัตตบมือนำ และมีแต่กุลชาติเท่านั้นที่ตบมือตาม บรรยากาศในโต๊ะอาหารกร่อยไปถนัดใจ พวกของโรมแทบจะไม่ยอมแตะอาหารเลย ทนอยู่ที่นั้นครู่ใหญ่ๆทุกคนก็บอกลากลับบ้าน พอถึงบ้านโรมลงจากรถก็ถูกลักษมนวิ่งเข้าไปดักหน้า

"เดี๋ยวพี่โรม ผมมีเรื่องจะคุยด้วย พี่ต้องอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นก่อน พี่ทำกับเทียนแบบนี้ได้ยังไง พี่ขายเทียนให้ไอ้ชาติชั่วนั่น..."

"เจ้าตัวเขายังไม่พูดอะไรเลย ทำไมแกต้องมาเดือดร้อนด้วย" โรมพูดไม่ทันจบก็โดนลักษมนต่อยหน้า โรมโต้ตอบ สองคนต่อยกันชุลมุน เผ่า ปารวดี และเทียนเข้าแยก ลักษมนยังด่าโรมอีกเลยถูกเทียนตวาดใส่

"หยุดนะคุณลัก อย่าก้าวร้าวนายหัวอีก ถ้านายหัวตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าจะเป็นนรกหรือสวรรค์เทียนก็จะไป"

ooooooo

ลักษมนไม่ยอมให้เรื่องยุติลงแค่นั้น พอทุกคนเข้าห้องนอนกันหมดเขาก็ไปเคาะประตูห้องของเทียน เรียกเธอออกมาบอกว่าไม่ต้องพูดอะไรตอนนี้ให้ตามเขาไป ลักษมนฉุดเทียนขึ้นรถโดยป้าทิพย์ออกมาเห็นเข้าพอดีแต่ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรและจะไปไหน ระหว่างขับรถไปเทียนถามว่าจะพาเธอไปไหน ลักษมนบอกว่า

"ไปไหนก็ได้ ไปให้ไกลๆจากพวกเห็นแก่ตัวเอาแต่ได้ ฉันไม่ยอมให้เธอตกเป็นเหยื่อหรอกเทียน นี่มันยุคไหนแล้ว... โธ่...ไอ้พวกค้ามนุษย์"

"โธ่คุณลักษมน เทียนบอกแล้วไงว่าเทียนเต็มใจ เทียนสมัครใจเอง"

ลักษมนพลุ่งพล่าน "ไม่ต้องมาโกหก ฉันรู้ว่าเธอรักและบูชาพี่โรม แต่เธอไม่จำเป็นต้องมาเสียสละแบบนี้ พี่โรมก็เลวไม่ต่างไปจากไอ้กมลทัตหรอก"

"จอดรถค่ะคุณลัก จอดเดี๋ยวนี้เลยฉันจะลง"

"เทียน ชีวิตเธอมีค่ากว่านี้นะ จะยอมแลกกับเรื่องไร้สาระของคนพวกนี้ไม่ได้ พี่โรมไม่มีสิทธิ์ที่จะทำกับเธอแบบนี้" ลักษมนพยายามโน้มน้าวเทียน แต่เทียนยืนกราน

"นายหัวคือคนที่มีบุญคุณกับเทียน ตอนนี้นายหัวกำลังลำบากไม่มีใครช่วยได้เทียนก็ต้องช่วยซิ นายหัวเป็นพี่ชายคุณลักแท้ๆคุณลักกลับมาด่าว่าเสียๆหายๆแทนที่จะช่วยเหลือพี่ตัวเอง ทำอย่างนี้มันเนรคุณ อกตัญญูกับนายหัว เทียนไม่มีวันทำอย่างคุณหรอก"

ลักษมนอึ้ง ชักรู้สึกละอายใจขึ้นมาหน่อยๆ แต่ยังดันทุรังต่อไปว่า "แต่...พี่โรมก็ไม่จำเป็นต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ มีวิธีอื่นอีกเยอะแยะไป"

"ถ้ามี คุณคิดเหรอว่านายหัวจะไม่ทำ คุณลักน่าจะรู้ว่านายหัวรักสวนปาล์มนั่นแค่ไหน คุณลักทนเห็นนายหัวต้องสูญเสียมันไปได้เหรอ แค่เทียนต้องแต่งงานมันยังน้อยเกินไปถ้าเทียบกับบุญคุณที่นายหัวมีกับเทียน แม้แต่ชีวิตเทียนก็ให้ได้ เพราะฉะนั้นคุณลักอย่าขัดขวางเรื่องนี้อีกเลย"

ตอนนี้ที่บ้านโรมทุกคนรู้เรื่องที่ลักษมนพาเทียนออกไปจากบ้านแล้วโดยป้าทิพย์เป็นคนเล่าว่าเห็นกับตา ปารวดีกดโทรศัพท์หาเทียนและลักษมนแต่ไม่มีการตอบรับ ป้าทิพย์ เข้าไปดูในห้องของสองคนแล้วกลับมาบอกว่า "โทรศัพท์อยู่ในห้องทั้งคู่เลยค่ะ คงไม่ทันได้หยิบอะไรไป เสื้อผ้าอยู่ครบ"

"นายลักไม่มีวันทำอย่างนี้แน่" ปารวดีพูดขึ้นมาแต่ป้าทิพย์ยังยืนยัน

"ป้าเห็นกับตานี่คะ ดึกๆดื่นๆอย่างนี้จะไปไหนกันจะบอกให้ใครรู้ก็ไม่มี   จูงตามกันไปขึ้นรถอย่างนี้ต้องพาหนีแน่ๆ" ทุกคนอัดอั้นกันไปหมด โรมเดินเข้าห้องเปิดลิ้นชักหยิบปืนมาเหน็บเอวแล้วเดินไปจะขึ้นรถ ป้าทิพย์ เผ่า และปารวดีวิ่งตามออกไปเป็นพรวนกลัวจะมีเรื่อง แต่พอโรมขึ้นรถ รถของลักษมนก็แล่นกลับเข้ามาในบ้านจอดต่อท้ายรถของโรม โรมลงจากรถปรี่เข้าหาลักษมนชักปืนออกมา ปารวดีกับป้าทิพย์ร้องกรี๊ดส่วนเทียนเข้าขวางทันที โรมผลักเทียนออกไปกระชากคอเสื้อลักษมนดันตัวไปติดรถยกปืนขึ้นกระชากเสียงถามว่า

"แกกล้าดียังไงถึงทำกับฉันแบบนี้...คิดละสิว่าพาเทียนไปมันจะแก้ปัญหาได้ เรื่องของฉันทีหลังแกอย่ายุ่ง"

ลักษมนยกมือไหว้ "ขอโทษครับ ผมวู่วามไปเอง แต่ผมสงสารเทียน เราไม่มีทางอื่นแล้วเหรอครับนอกจากให้เทียนแต่งงานกับไอ้กุลชาติ"

"ฉันเป็นคนปกครองบ้านนี้ เป็นพี่แก ทุกอย่างที่ฉันทำไปมันต้องมีเหตุผล แกต้องเชื่อในตัวฉันลัก" โรมเบี่ยงตัวลักออกแล้วเดินเข้าบ้านไป    ป้าทิพย์แปลกใจเพราะไม่รู้มาก่อนพึมพำเหมือนถามออกมาว่า

"เอ๊ะ ป้าหูฝาดหรือเปล่า เมื่อกี้คุณโรมว่าเทียนจะแต่งงานกับใครนะคะ" ไม่มีใครตอบต่างคนต่างเดินกลับห้องตัวเอง ป้าทิพย์แอบโทร.ไปเล่าให้มนทิราฟังทันที มนทิราที่กำลังอยู่ในผับกับกิ่ง เธอถามย้ำมาว่า

"จริงเหรอคะป้าทิพย์ที่เทียนจะแต่งงานกับกุลชาติ แน่ใจนะคะ ค่ะ ขอบคุณค่ะที่ป้าอุตส่าห์โทร.มาบอก" หันไปถามกิ่งว่าได้ยินแล้วใช่ไหม กิ่งยังสงสัยถามว่า

"แล้วนายหัวของเธอยอมได้ไง?"

"ป้าทิพย์บอกมาว่า กมลทัตยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเรื่องหนี้โรมถึงได้ตกลง ทางนั้นเขาอยากได้เด็กเทียนอยู่แล้วนี่" มนทิราทำปากยื่นไม่สบอารมณ์

"เออ เด็กคนนี้ก็เหมือนกัน ไม่รู้มีอะไรดีถึงได้แย่งกันนัก มันเป็นพวกบ้านนอกมาชุบตัวจริงๆเหรอ"

"ฉันไม่สนหรอกว่ามันเป็นใครมาจากไหน ขอให้พ้นๆไปจากโรมก็พอแล้ว" มนทิราบอกเพื่อน

"...จริงเร้อ...คิดให้ดีนะ ถ้าเกิดโรมล้มละลายเป็นหนที่สองล่ะ" กิ่งถามเพื่อความแน่ใจ

"ฉันก็จะยอมกัดก้อนเกลือกินกับเขา เพราะตอนนี้ฉันแน่ใจแล้วว่าฉันคงรักใครไม่ได้อีกแล้วนอกจากเขา" มนทิรายืนยันความตั้งใจ กิ่งส่ายหน้าย้อนถามออกมาคำหนึ่งว่า

"แล้วเขาล่ะ ยังรักเธอหรือเปล่า" มนทิราอึ้งหน้าเสียลงทันควัน

ขณะที่มนทิรากับกิ่งกำลังพูดถึงเขา โรมเดินออกจากห้องไปที่ห้องของเทียน พอดีเทียนนอนไม่หลับเปิดประตูออกมา ทั้งสองคนต่างชะงัก พูดออกมาพร้อมกันว่านอนไม่หลับ แล้วต่างก็เงียบไป  ในที่สุดโรมเป็นฝ่ายถามเทียนว่า  "เธอไม่ถามหรอกหรือว่าทำไมฉันถึง..."

เทียนยิ้มหงอยๆตอบว่า "นายหัวไม่จำเป็นต้องอธิบายหรอกค่ะ อะไรที่นายหัวคิดว่าสมควร เทียนเห็นด้วยทุกอย่าง"

โรมยกมือขึ้นลูบผมเทียน "ขอบใจ นอนซะ" โรมเดินกลับไป เทียนเข้าห้องปิดประตูค่อยๆทรุดลงนั่งน้ำตาร่วงเผาะๆ

ooooooo

ที่หน้าบ้านโรมเช้าวันนี้ กุลชาติกับพิศเพลินมารับเทียนไปลองชุดแต่งงานโดยมีปารวดีไปเป็นเพื่อนด้วย เทียนบ่นกับปารวดีว่าทำไมต้องไปลองเสื้อด้วย มีอะไรก็ใส่ไอ้นั่นก็ได้แล้ว แต่ปารวดีบอกว่าโรมรับปากกับทางโน้นไว้แล้วว่าเทียนจะไป และพิศเพลินก็จะมาเป็นคนรับด้วย เทียนพยักหน้าซึมๆบอกว่า

"ถ้านายหัวสั่งก็ได้ค่ะ อย่างน้อยก็มีพี่ปาไปเป็นเพื่อน"

รถของกุลชาติมาถึงพอดี กุลชาติกระดี๊กระด๊าลงมาหาเทียนแทบจะประคอง แต่เทียนหลบฉากไปเกาะหลังปารวดีแทนกุลชาติเลยหน้าเก้อไป พอขึ้นไปบนรถปารวดีกับเทียนก็ยกมือไหว้พิศเพลิน กุลชาติที่เป็นคนจัดการให้เทียนไปนั่งคู่กับเขาด้านหน้าขับรถไปยิ้มไปจนเทียนหมั่นไส้ พอถึงร้านยังไม่ทันเปิดประตูก็มีคนเปิดออกมาต้อนรับ เป็นมนทิรานั่นเอง พิศเพลินทักแล้วบอกว่าบังเอิญจริงๆที่มนทิรามาอยู่ที่ร้านนี่ แต่มนทิราตอบว่า

"ไม่บังเอิญหรอกค่ะ มนมารอเทกแคร์กุลชาติกับน้องเทียนร้านนี้เพราะมนเป็นคนแนะนำคุณกมลทัตเองค่ะ" เข้ามาถือวิสาสะจูงเทียนให้เดินเข้าไป ปารวดีแอบสบตากับเทียน สองคนทำหน้าเซ็ง เข้าไปในร้านช่างภาพคอยอยู่ก่อนแล้ว พอเปลี่ยนเป็นชุดเจ้าสาว มนทิราก็จัดการนั่นนี่หาโอกาสให้กุลชาติแต๊ะอั๋งเทียนอยู่เรื่อย  พอได้อยู่กับเทียนสองต่อสอง  ปารวดีก็บ่นออกมาว่า

"ยัยมนทิรานี่มาจุ้นจ้านอะไรด้วยก็ไม่รู้ สงสัยจะหวังดีประสงค์ร้ายแน่ๆเลย เขาชอบเทียนที่ไหนกัน ดูนัยน์ตาก็รู้แล้ว นี่คงอยากให้เทียนแต่งงานไปเร็วๆจะได้หมดคู่แข่ง..."

"แล้วเทียนไปแข่งอะไรกับคุณมนทิราล่ะคะ" เทียนงง ปารวดีส่ายหน้า

"เด็กเอ๋ย  บางทีเราไม่ได้ทำอะไรก็จริง  แต่คนมันอิจฉาซะอย่าง ระวังตัวหน่อยก็แล้วกัน"

พอเริ่มจะถ่ายรูปเซตใหม่ มนทิราก็เจ้ากี้เจ้าการอีกตามเคย จูงเทียนไปนั่งให้กุลชาตินั่งบนเท้าแขนเก้าอี้เอาแขนโอบเทียน มนกระซิบอะไรกับกุลชาติเทียนไม่รู้ แต่กุลชาติเอาหน้ามาแนบแก้มเทียนและทำปากจู๋จะจูบใบหู เทียนเหลือบเห็นพอดีเลยลุกกระแทกหัวตัวเองเข้าปากกุลชาติจนร้องจ๊าก กระเด็นตกเก้าอี้คลำปากตัวเองป้อยๆ   พิศเพลินตกใจรีบเข้ามาดู

กุลชาติบอกไม่เป็นไรอุบัติเหตุนิดหน่อย   ปารวดีที่คอยมองอยู่ตลอดเวลารู้สึกสะใจ แต่มนทิราตีหน้ายักษ์ใส่กุลชาติแบบว่าไม่เอาไหนเลย

การถ่ายภาพชุดแต่งงานเสร็จสิ้นลงแล้ว เทียนไปเปลี่ยนเครื่องแต่งตัว   พอกลับออกมาไม่เห็นปารวดีก็ถามหาพิศเพลินบอกว่าไปห้องน้ำ อยู่กันสองคนพิศเพลินเลยถือโอกาสพูดคุยกับเทียน เธอบอกว่า

"ฉันเข้าใจความรู้สึกของหนูดี ที่ต้องแต่งงานกับคนที่เราไม่ได้รัก"

เทียนหันมาจ้องหน้าพิศเพลินแล้วถามสวนออกมาว่า "หนูไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ในเมื่อคุณน้าไม่ได้รักคุณกมลทัตแล้วอยู่กับคนที่เราไม่ได้รักได้ไง โดยเฉพาะคนอย่างกมลทัต"

พิศเพลินอึ้งก่อนตอบว่า "อยู่ได้เพราะคนที่ฉันรักเขาขอร้อง"

เทียนตาโต "หมายถึงคุณกมัยธรเหรอคะ"

"หนูรู้จักกมัยธรด้วยเหรอจ๊ะ" พิศเพลินตื่นเต้น

"หนูเคยพบ...เอ้อ หนูเคยฟังนายหัวพูดถึงน่ะค่ะ" การพูดคุยยังไม่ทันจบ มนทิราก็เข้ามาร้องถามเทียนว่า

"เสร็จรึยัง พี่จะตามช่างมาเช็ดเครื่องสำอางให้"

ขณะที่ช่างเข้ามาเช็ดเครื่องสำอางให้เทียน มนทิราก็แอบไปต่อว่ากุลชาติ "ไง...แค่ถ่ายรูปยังน่วมขนาดนี้ แล้วแต่งงานไปจะเอาเขาอยู่เหรอ...ผู้หญิงน่ะ อ่อนให้มากๆเขาไม่ชอบหรอก ต้องเข้มใส่บ้าง ไม่งั้นต่อไปเราจะเป็นผู้นำเขาได้ยังไง กล้าๆหน่อย ฉันเชียร์เธอเต็มที่นะ"

พูดให้กุลชาติฮึดแล้วมนทิราก็เดินกลับไปหาพิศเพลิน ทั้งหมดพากันออกไปจากร้านถ่ายรูป ปารวดีขอตัวกลับแต่

พิศเพลินไม่ยอม บอกให้ไปกินของที่บ้านกันก่อนจะได้นั่งคุยกันเรื่องการจัดงาน มนทิราเสริมทันทีว่า

"ก็ดีนะคะ ไหนๆก็จะได้เป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว น่าจะใช้เวลาศึกษากันให้มาก นะน้องเทียน เดี๋ยวพี่มนไปด้วย" พูดเชิญตัวเองเสร็จสรรพ แถมจัดให้เทียนนั่งรถไปกับกุลชาติ ตัวเองให้ปารวดีไปรถด้วยพร้อมพิศเพลิน ปารวดีหาโอกาสต่อว่ามนทิราเรื่องนี้ ทำให้มนทิราไม่พอใจปารวดีมาก

ขณะไปนั่งกินของว่างกันอยู่ มนทิราแกล้งทำเค้กหล่นใส่เสื้อเทียน พิศเพลินนึกว่าเป็นอุบัติเหตุเลยบอกให้เทียนไปเข้าห้องน้ำเช็ดออก มนทิราตามไปจัดการบอกว่าจะช่วย แต่แล้วก็แกล้งเอาฝักบัวฉีดใส่เทียนจนเปียก แล้วบอกให้กุลชาติไปหาเสื้อมาเปลี่ยนให้ กุลชาติที่คอยทีอยู่แล้วพาเทียนไปที่ห้องพักแขก มนทิราแอบกระซิบบอกกุลชาติว่าเธอแยกเทียนมาให้แล้วจะทำ อะไรกันก็เชิญ กุลชาติดีใจยกนิ้วให้มนทิราบอกว่าเจ๊นี่สุดยอดเลย แต่ว่าพยายามหาทางยังไงกุลชาติก็ไม่ได้เข้าใกล้เทียนสักที แถมยังถูกเทียนล่อไปที่ห้องน้ำ เอาสบู่เหลวราดพื้นหลอกให้กุลชาติวิ่งไล่จับเธอจนกุลชาติหกล้มหลังเดี้ยงลุกขึ้นเดินตัวแอ่นออกไปหามนทิรา มนทิราเห็นเข้าก็โกรธกุลชาติอีก

เทียนวิ่งหนีกุลชาติไปจนผ่านห้องทำงานของกมลทัต เห็นรูปพ่อของกมลทัตที่ติดฝาห้องอยู่กำลังโอบเด็กชายสองคนอยู่ในอ้อมแขน เทียนจำได้ นอกจากกมลทัตแล้ว เด็กชายอีกคนหนึ่งก็คือกมัยธรนั่นเอง เทียนมองไปที่บนโต๊ะทำงานของกมลทัตเห็นโฉนดที่ดินสวนปาล์มและโรงงานของโรม ภคนันทน์วางอยู่ มีลายเซ็นบนหน้าซองที่วางอยู่ข้างๆว่าเพื่อค้ำประกันเงินกู้ เทียนจึงรู้ว่าโรมเอามาให้กมลทัต พอดีพิศเพลินเที่ยวเดินตามหาเทียนจึงพากันออกไป เทียนกลับบ้านไปเล่าให้ปารวดีฟังถึงเรื่องที่มนทิราและกุลชาติร่วมกันทำกับเธอ ปารวดีโกรธมากบอกว่าเรื่องนี้ต้องบอกโรม แต่เทียนห้ามว่า

"อย่านะคะพี่ปารวดี ทางนั้นเขาเป็นเจ้าหนี้เรา เขาอาจจะแกล้งนายหัวได้ วันนี้เทียนเห็นโฉนดที่ดินที่ชุมพรของนายหัวอยู่ที่ห้องทำงานกมลทัตด้วย"

"หา...อะไรนะ   แสดงว่าพี่โรมเอาโฉนดไปค้ำประกันเงินกู้น่ะซี นึกแล้วว่ามันต้องไม่ช่วยเราเปล่าๆ"

"หมายความว่า ถ้านายหัวหาเงินไปคืนกมลทัตไม่ได้ เขาก็จะยึดที่ของนายหัวเหรอคะ" เทียนตกใจ ปารวดีเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้หมอเผ่าฟัง โดยเสริมว่า "ปาไม่เข้าใจพี่โรมเลย ทำไมอยู่ดีๆก็ยอมตกเป็นเบี้ยล่างกมลทัตขนาดนี้ โดยเฉพาะเรื่องที่ยอมให้เทียนแต่งงาน ไหนบอกว่าจะเก็บเทียนไว้เป็นไพ่ใบสุดท้าย"

"ผมว่า โรมมันต้องมีอะไรที่ไม่บอกเรา" เผ่าเทพพูดอย่างครุ่นคิด

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น เทียนบุกไปถึงที่ทำงานของกมลทัต เพื่อขอพบ แต่พนักงานบอกว่ากมลทัตยังไม่ว่างจะให้ พบ เทียนเลยพรวดพราดเปิดประตูเข้าไป เห็นกมลทัตที่บอกว่าไม่ว่างกำลังกุ๊กกิ๊กอยู่กับเลขาฯคนใหม่ เขารีบผลักเลขาฯออกจากตัวเองร้องออกมาว่า

"อ้าวหนูเทียน...มะมานั่งก่อน มีธุระอะไรเหรอถึงมาหาที่นี่"

เทียนลงนั่งบนเก้าอี้แล้วเปิดฉากทันที "หนูมีธุระสำคัญจะคุยกับคุณ หนูรู้ว่าคุณเป็นศัตรูกับนายหัว แล้วคุณตอนนี้ก็ชนะแล้ว"

"พูดอะไรอย่างนั้นหนูเทียน" กมลทัตโบกไม้โบกมือ "ไหนๆเราก็..."

"หนูรู้ คุณขอหนูมาเป็นลูกสะใภ้เพื่อหยามนายหัว แล้วคุณก็ทำได้แล้ว ถ้าหนูอยากจะขอโฉนดที่ดินสวนปาล์มนายหัวคืนจะได้ไหมคะ"

"โรมให้หนูมาขอเหรอ?"

"ไม่ค่ะ เรื่องนี้นายหัวไม่รู้เรื่อง หนูมาพบคุณเอง"

"ฉันเสียเงินช่วยนายหัวหนูไปตั้งหลายสิบล้าน แล้วหนูจะมาขอเอาหลักทรัพย์ที่ค้ำประกันคืนไปอีก เท่ากับฉันเสียเงินฟรีๆ ถ้าโรมมันเบี้ยวไม่ใช้หนี้ฉันล่ะ..."

"ตัวหนูไงคะ คุณได้ตัวหนู ได้ชีวิตหนูไปแล้ว หนูรับรองว่าจะเป็นสะใภ้ที่ดี ทำทุกอย่างตามที่คุณต้องการถ้าคุณคิดว่าหนูมีค่าพอ"

กมลทัตมองตาเทียนอย่างอึ้งๆ เขารู้สึกประทับใจเด็กคนนี้อย่างประหลาด พูดออกมาว่า

"ได้...หนูกล้าขอ ฉันก็กล้าให้ เป็นอันว่าฉันจะคืนโฉนดให้โรมในวันแต่งงาน...แต่...งานต้องเลื่อนมาเป็นมะรืนนี้ ตกลงมั้ย" เทียนอึ้ง แต่ก็พยักหน้าตกลง

เทียนกลับไปเล่าเรื่องจะแต่งงานมะรืนนี้ให้ลักษมนฟังแต่ไม่บอกเงื่อนไขที่คุยกันกับกมลทัต ลักษมนถามว่าเทียนถูกกมลทัตขู่หรือ เทียนตอบว่า "ไม่ค่ะ ไม่มีใครขู่เทียนทั้งนั้น แต่พอดีทางคุณกมลทัตได้ฤกษ์มาใหม่"

โรมเดินเข้ามาพอดีทันได้ฟังเรื่องนี้ด้วย โรมงง ปารวดีถามโรมว่าจะไม่พูดอะไรบ้างหรือ โรมตอบว่า "พี่ไม่มีอะไรจะพูด" พูดแล้วก็เดินออกไปเหมือนกัน ลักษมนครางออกมาว่านี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน แต่ไม่มีใครฟังเขาเลย ส่วนโรมเดินตามเทียนไปที่ห้องเคาะประตูเรียกบอกขอคุยด้วยหน่อย เทียนซึ่งเข้ามานั่งร้องไห้ตอบเสียงอู้อี้ว่าเธอกำลังจะอาบน้ำพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน โรมจับน้ำเสียงอู้อี้ของเทียนได้ถามว่าเป็นอะไรไปหรือเปล่า ไม่มีเสียงตอบ โรมถอนใจพูดเบาๆกับตัวเองว่า "มะรืนนี้ก็ดี จะได้จบเร็วๆ"

ก่อนถึงวันงานแต่งของเทียน โรมกลับไปที่ชุมพร ไปรับตัวนภาเข้ากรุงเทพฯ นภางงที่อยู่ๆพอไปถึงโรมบอกให้เตรียมข้าวของและเร่งให้เสร็จเร็วๆด้วย นภาสงสัยถามว่า

"ทำไมต้องรีบร้อนเข้ากรุงเทพฯคะ มีอะไรหรือเปล่า"

โรมที่กำลังขับรถอยู่ตอบโดยไม่หันหน้ามามองว่า "คุณอยากแก้แค้นเร็วๆไม่ใช่เหรอ มันถึงเวลาแล้วไง" เขาเหยียบคันเร่งพารถทะยานไปเบื้องหน้า

ส่วนกุลชาติตั้งแต่รู้ข่าวจากกมลทัตว่าเขาจะได้แต่งงานกับเทียนจริงๆแล้ว กุลชาติเข้าไปกราบที่ตักกมลทัตเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำกับพ่อมาก่อน กมลทัตถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ กราบไม่กราบเปล่ายังพูดยกยอซะยกใหญ่ "ขอบคุณมากครับป๋า ป๋านี่สุดยอดจริงๆ ชาติจะไม่ลืมบุญคุณของป๋าครั้งนี้เลย"

"ฉันหวังว่าหลังแต่งงาน แกจะเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาอย่างที่แกสัญญานะ" กมลทัตทำเข้มใส่

"รับรองครับป๋า ชาติจะเป็นอภิชาตบุตรของป๋า และอภิชาตสามีของน้องเทียนเลย" กุลชาติหันไปทางพิศเพลิน "แต่ตอนนี้แม่ครับ ช่วยพาชาติไปเสริมหล่อทีครับ"

กมลทัตที่กำลังอารมณ์จะดีลุกพรวดแทบอยากออกไปอาเจียน เพราะท่าทางเว่อร์ๆของกุลชาติ พอดีสายตาเหลือบไปเห็นซองเอกสารใส่โฉนดที่ดินของโรมจึงนึกถึงเทียนวันที่ไปขอร้องเขาเรื่องนี้ขึ้นมาอีก เพราะตอนที่เทียนจะลากลับเขาบอกให้คอยเดี๋ยวจะให้รถไปส่ง แต่เทียนหันมาพูดหน้าเฉยๆว่า

"ไม่ต้องหรอกค่ะ อย่าให้หนูต้องเป็นหนี้คุณมากไปกว่าที่เป็นอยู่เลย เพราะคนอย่างคุณ ทำอะไรให้ใครไม่มีทางที่จะไม่หวังผลตอบแทน"

"แล้วไอ้โรมล่ะ ถ้ามันดีจริงทำไมมันเอาหนูแลกกับเงินใช้หนี้" กมลทัตจำได้ว่าตอนนั้นเขาชักเริ่มโมโห แต่เทียนกลับพูดกับเขาว่า

"ถ้าหนูไม่เต็มใจ นายหัวก็ไม่มีวันบังคับหนู นี่คือสิ่งที่นายหัวต่างกับคุณ"

กมลทัตจำได้ว่าตอนนั้นเขาโกรธจนขว้างซองเอกสารไป พอดีพนักงานทำความสะอาดที่กำลังจะเข้ามาทำความสะอาดเปิดประตูเข้ามา เลยเก็บซองขึ้นจากพื้น บอกขอโทษว่าจะเข้ามาทำความสะอาดห้อง กมลทัตแบมือบอกให้เอาซองมาให้เขา พอพนักงานสาวส่งให้กมลทัตก็รับไปโยนบนโซฟา กระชากตัวพนักงานสาวมากอดจูบเป็นการระบายอารมณ์ แต่ได้ยินเสียงเทียนพูดอยู่นอกห้องกับใครคนหนึ่ง เขาจึงนึกได้ว่าเทียนยังไม่ไปจากบริษัท เลยเดินออกมาลงไปส่งเธอด้วย ก่อนจะก้าวขึ้นรถแท็กซี่ เทียนหันมาพูดกับเขาอีกว่า

"อ้อ...สิ่งที่นายหัวเหนือกว่าคุณอีกเรื่องคือ เขาไม่เคยข่มเหงรังแกหรือเอาเปรียบคนที่อ่อนแอกว่า โดยเฉพาะผู้หญิง"

กมลทัตสะบัดหน้า ถามตัวเองว่า "ทำไมเราบ้ายังงี้วะต้องไปเอาคำพูดยายเด็กนั่นมาเก็บไว้ในหัว"

ooooooo

เช้าตรู่วันแต่งงานของกุลชาติกับเทียน มนทิรา มาแต่เช้า ตื่นเต้นยิ่งกว่าตัวเจ้าสาวเพราะคิดว่าเธอจะได้ครอบครองโรมแน่แล้ว อารมณ์ดีรับอาสามาแต่งหน้าแต่งตัวเจ้าสาวให้ พอเสร็จเรียบร้อยก็จับตัวเทียนหมุนให้ดูกระจก วันนี้เทียนแต่งตัวเป็นสาวเต็มตัว ผมเผ้าหน้าตาดูสวยจนไม่อยากบรรยาย แม้แต่มนทิราเองยังนึกว่าถ้าถึงวันงานตัวเองจะแต่งแล้วสวยได้ขนาดนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ก็พยายามฝืนยิ้ม บอกกับเทียนว่า

"สวยจับใจจริงๆเลย เจ้าสาวของพี่ แต่ว่าเทียนต้องยิ้มให้มากกว่านี้นะรู้มั้ย งานมงคลทั้งที"

"ขอบคุณนะคะ คุณมน" เทียนพูดกับมนทิรา

"แหม ต้องขอบคุณทำไม เทียนเป็นญาติโรมก็เหมือนญาติพี่อยู่แล้ว"

"ต่อไปถ้าเทียนไม่อยู่บ้านนี้แล้ว ฝากคุณมนช่วยดูแลนายหัวด้วยนะคะ" เทียนฝากฝัง แต่มนทิรากรี๊ดกร๊าด

"อุ๊ย  ไม่ต้องฝากพี่ก็ต้องดูแลโรมสุดฤทธิ์อยู่แล้ว เพราะโรมเป็นของพี่ และเป็นมานานแล้วด้วย"

"หมายความว่า คุณมนจะไม่ทิ้งนายหัวไปไหนอีกใช่ไหมคะ"

มนทิราสะดุ้งเหมือนโดนเข็มแทง ค้อนเทียนจนตาคว่ำ ร้องออกมาว่า "นี่เธอ..." แต่ยังไม่ทันด่าออกมาก็มีคนเปิดประตูเข้ามา เป็นปารวดีนั่นเอง บอกกับเทียนว่า

"เทียน มีคนของกมลทัตเอาเอกสารมาให้" เทียนรีบรับมาเปิดดู สีหน้าดีใจเมื่อเห็นเป็นโฉนดที่ดินและสวนปาล์ม ปารวดีรีบถามว่า "อะไรเหรอ ทำไมต้องรีบเอามาให้ล่ะ เดี๋ยวก็จะไปเจอกันอยู่แล้วนี่นา"

"ของขวัญที่เทียนขอเขาไว้ค่ะ ตอนนี้นายหัวอยู่ไหนคะ"

"คงอยู่ที่ห้องเขามั้ง" ปารวดีพูดไม่จบเทียนก็ปร๋อออกไปแล้ว ไปยืนหน้าห้องโรมกำลังจะยกมือเคาะประตูพอดี โรมที่แต่งตัวเสร็จแล้วเปิดออกมา เห็นเทียนแต่งตัวแต่งหน้าสวยโรมตะลึง แต่พอรู้สึกตัวก็ถามแก้เก้อว่า

"เทียน...เอ้อ...แต่งตัวเสร็จแล้วเหรอ"

"ค่ะ...เทียนขอเวลานายหัวสักห้านาทีได้มั้ยคะ" พอโรมบอกว่าได้ เทียนก็เดินหลีกเขาเข้าไปในห้องและปิดประตูเรียบร้อยเมื่อโรมเดินตามเข้ามาและเดินไปนั่งที่เก้าอี้ เทียนเดินตรงเข้าไปหาโรมแล้วคุกเข่าลงตรงหน้า ก้มลงกราบที่ตักเขา

"เทียนขอกราบขอบพระคุณนายหัวที่เมตตาเทียน ให้ชีวิตใหม่กับเทียน..." เธอเงยหน้าขึ้นแล้ววางซองเอกสารลงบนตักเขา "นี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่เทียนจะทำให้นายหัวได้ เพราะต่อไปนี้เทียนคงไม่มีโอกาสได้รับใช้นายหัวอีกแล้ว..." เธอจับมือโรมมาแนบแก้ม พูดต่อเสียงสั่นว่า "เทียนขอให้นายหัวเข้มแข็ง เอาชนะอุปสรรคให้ได้นะคะ แล้วก็ขอให้นายหัวมีความสุขมากๆกับคนที่นายหัวรัก"

โรมไม่คิดว่าเทียนจะกล้ายกมือเขาขึ้นไปจูบ ก่อนจะกล่าวว่า "ลาก่อนค่ะ นายหัว" แล้วรีบเดินออกจากห้องโรมไป

โรมรีบเปิดดูในซองเอกสาร พอเห็นเป็นโฉนดสวนปาล์ม เขาคิดถึงคำถามของเทียนที่เคยถามเขาว่า "นายหัวเคยบอกว่า นายหัวรักสวนปาล์มที่ชุมพรมากใช่ไหมคะ...เทียนถามนี่ไม่มีอะไรหรอกค่ะ"

โรมสะดุ้ง พูดออกมาว่า "หรือว่าเธอขอเลื่อนการแต่งงานให้เร็วขึ้น เพื่อแลกกับโฉนดนี้...โธ่ เด็กโง่เอ๋ย" โรมรีบตามเทียนไปแต่หาตัวไม่เจอแล้ว แต่ไปพบกับลักษมนที่ตอนนี้เสื้อผ้ายู่ยี่กำลังยืนมองตามหลังเทียนที่วิ่งลงบันไดไปข้างล่าง โรมดุลักษมนว่า

"ทำไมกลับมาจนป่านนี้ จะออกไปงานกันอยู่แล้ว"

ลักษมนดูท่าทางจะมึนๆเพราะเมื่อคืนออกไปเที่ยวทั้งคืน สะบัดหน้ากระแทกเสียงใส่โรมว่า

"เพราะผมไม่อยากเห็นภาพอะไรที่มันรันทดหดหู่ แต่ก็ต้องเห็นจนได้ จนวันสุดท้ายพี่ยังทำให้เทียนเสียน้ำตา ผมนับถือพี่จริงๆ" ลักษมนเดินเฉียดโรมขึ้นบันได และโรมเพิ่งรู้ว่าเมื่อกี้เทียนร้องไห้ลาเขาด้วยน้ำตา โรมถอนใจอย่างกลัดกลุ้ม

ที่ห้องจัดเลี้ยงฉลองงานแต่ง นักข่าวพรึ่บพรั่บเที่ยวเดิน ถ่ายรูปพวกแขกที่รับเชิญมาในงานซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นนักธุรกิจคนสำคัญๆ ทุกใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เทียนกับกุลชาติถูกถ่ายรูปไม่ได้หยุด เทียนหน้าเฉยแทบไม่มีรอยยิ้มแตะแต้มริมฝีปากเลย ผิดกับกุลชาติที่ฉีกยิ้มจนเกือบถึงใบหู ประคับประคอง เจ้าสาวแทบไม่ห่าง นักข่าวไปสัมภาษณ์กมลทัตพ่อเจ้าบ่าว

"มีอะไรให้สังคมสนใจตลอดเลยนะครับ วันนี้มีอะไรอยู่เบื้องหลังมั้ยครับ กับการแต่งงานที่เลื่อนเข้ามาแบบสายฟ้าแลบยังงี้"

กมลทัตที่รู้การถามแบบอยากรู้เบื้องหลังแบบว่าท้องก่อนแต่งเหมือนหลายๆคู่ของวงสังคม แต่เขาเองก็ชินชากับเรื่องอย่างนี้จึงไม่อนาทรร้อนใจ ให้สัมภาษณ์ยิ้มแย้มซะอีกว่า "โอ๊ย มันเรื่องธรรมดา เด็กมันรักกันก็รู้ๆกันอยู่ว่าพวกวัยรุ่นน่ะใจร้อน"

นักข่าวเฮกันเข้ามาถามอีกเพื่อให้ได้คำตอบให้ชัดๆว่าเป็นอย่างที่พวกเขาสงสัย พิศเพลินทนไม่ได้เลยบอกว่า "ถ้าพวกคุณกำลังสงสัยว่าลูกชายของฉันกับหนูเทียนจะชิงสุกก่อน ห่ามล่ะก็ ขอบอกว่าไม่มีทางค่ะ เราอบรมลูกเรามาดีพอ"

พวกที่รู้ไส้กุลชาติเบ้ปาก แม้กระทั่งแขกผู้ใหญ่บางคนก็ยังทำหน้าเบ้ใส่ กมลทัตรู้สึกเบื่อหน่ายพิศเพลิน ไม่รู้ว่าจะไปปกป้องลูกทำไมในเมื่อเขาก็พูดไปแล้วแบบนั้น

มนทิราไม่เอาใจใส่อะไรทั้งนั้น ส่ายตามองหาแต่โรมเมื่อไม่เห็นเขาในห้องนี้ สะกิดถามป้าทิพย์ที่ยืนอยู่ข้างๆ ป้าทิพย์ก็บอกว่าไม่เห็นเหมือนกัน

พอได้ฤกษ์ที่จะเข้าพิธีหมั้นจึงเห็นโรมอยู่ในห้องนั้น นั่งอยู่คู่กับปารวดีในฐานะญาติผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง กมลทัตกับพิศเพลินนั่งอยู่อีกด้านในฐานะผู้ใหญ่ฝ่ายชาย มนทิราทำหน้าที่พิธีกรกำลังพูดกับทุกคนว่า

"ต่อไปนี้คือพิธีหมั้นนะคะ ขอเชิญคู่หมั้นหมายสวมแหวนให้กันได้แล้วค่ะ"

พิศเพลินหยิบกล่องแหวนส่งให้ลูกชาย กุลชาติรับแหวนลุกลี้ลุกลนจะสวมแหวนให้เทียน แต่เทียนยังไม่ส่งมือ ให้กุลชาติเลยเก้อไป มนทิราเห็นโรมยังไม่ส่งแหวนให้เทียนจึงพูดเป็นเชิงเตือนว่า ตอนนี้จะต้องแลกแหวนกันแล้ว โรมก็ยังนั่งเฉย ปารวดีต้องสะกิดพี่ชาย โรมจึงหยิบแหวนจากกระเป๋าเสื้อส่งให้เทียน เทียนยังไม่ทันเปิดฝากล่อง กุลชาติก็รีบยื่นนิ้วไปให้เทียนใส่ เทียนเลยใส่ให้แบบยัดใส่เลย แขกตบมือ มนทิราเจ้ากี้เจ้าการร้องบอกให้กุลชาติหอมแก้มเทียน กุลชาติค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆเพราะยังขยาดว่าจะโดนเทียนทำอะไรเขาหรือเปล่าไม่รู้ พอเห็นเทียนเฉยๆเลยทำใจกล้ายื่นจมูกเข้าไปจุ๊บทีหนึ่ง มนทิราตบมือนำให้คนอื่นๆตบตาม และเชิญแขกไปห้องอาหาร

พวกโรมต้องนั่งโต๊ะร่วมกับกมลทัตรวมทั้งบ่าวสาวด้วย กมลทัตเอียงตัวถามโรมว่า "ว่าไงโรม ได้ของขวัญที่ฉันรับไหว้ เทียนแล้วใช่มั้ย ถูกใจหรือเปล่าล่ะ"

"ขอบใจมากกมลทัต บอกตรงๆนะ เป็นของขวัญที่ฉันถูกใจที่สุดตั้งแต่เคยรับมา" โรมตอบ

"อือ...ต้องถือว่าเป็นความดีของหนูเทียนเขาจริงๆนะ ฉันยิ่งรู้จักยิ่งประทับใจหนูเทียนมากขึ้นทุกวัน" พวกปารวดี หมอเผ่า และลักษมนงง ไม่เข้าใจว่าสองคนคุยอะไรกัน พอดีภาสกรเดินเข้ามา ไปก้มตัวตรงหน้ากมลทัตพลางบอกว่า

"ขอโทษครับท่าน เจ้าหน้าที่ทางเขตที่เราติดต่อไว้ต้องไปราชการด่วน มาทำพิธีจดทะเบียนให้ไม่ทันวันนี้"

"จริงเหรอ...แย่จริง เออโรม คงไม่เป็นไรนะ เราส่งตัวกันก่อน พรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ค่อยจดทะเบียนก็ได้"

ลักษมนผุดลุกขึ้น "ทุเรศ มุกตื้นๆแบบนี้เด็กห้าขวบก็รู้แล้ว แกกะจะได้ตัวเทียนฟรีๆโดยไม่ต้องเสียอะไรเลยงั้นสิ"

"อ้าวจารย์ พูดยังงี้ก็สวยซิ" กุลชาติโวยใส่ลักษมน

"แต่มันก็ไม่ถูกนะ ทำแบบนี้เท่ากับไม่ให้เกียรติกัน" หมอเผ่าท้วงขึ้นบ้าง ปารวดีร้องบอกพี่ชายว่า

"ใช่ พี่โรม เราเอาตัวเทียนกลับเถอะค่ะ" ปารวดีพูดไม่ทันจบลักษมนก็ลุกขึ้นฉุดเทียนให้ลุกขึ้นกลับบ้านแต่กุลชาติโดดเข้าขวางร้องบอกให้ลักษมนปล่อยมือจากเทียน เสียงชักดังขึ้นที่โต๊ะเจ้าภาพจนแขกเหรื่อเริ่มหันมาดู โรมบอกพรรคพวกว่า

"พอแล้ว จะทำยังงั้นได้ยังไง แขกเหรื่อมากันเต็มแล้ว... แต่งก่อนแล้วค่อยจดทะเบียนก็ได้ ผมไม่ซีเรียส" พวกที่กำลังยื้อแย่งเทียนอยู่พากันอึ้ง มนทิราชิงประกาศว่าพิธีในห้องรดน้ำกำลังจะเริ่มแล้ว ขอเชิญทุกคนออกไปที่ห้องรดน้ำ

พอไปถึง เทียนกับกุลชาติถูกจัดให้นั่งลงที่ตั่ง มีเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวยืนอยู่ด้านหลัง มนทิรายิ้มหวานเมื่อประกาศผ่านไมค์ว่า "และแล้วก็ถึงเวลาสำคัญที่สุดของงานในวันนี้แล้วนะคะ เชิญท่านอธิบดีให้เกียรติมาเป็นประธานและสวมมงคลให้บ่าวสาวด้วยค่ะ"

แขกพากันนั่งตัวตรง ท่านอธิบดีกำลังจะก้าวเข้าไปสวมมงคลแฝดให้กับบ่าวสาว เสียงหนึ่งดังก้องขึ้น

"หยุดก่อน ยังทำพิธีอะไรไม่ได้เด็ดขาด" เป็นเสียงของนภานั่นเอง กมลทัตสะดุ้งหันไปมองภาสกร นภาปรากฏตัวเดินเข้ามาในห้องรดน้ำ ตรงเข้ามาแย่งไมค์ไปจากมือของมนทิรา พูดผ่านไมค์ว่า

"กุลชาติจะแต่งงานกับใครไม่ได้ทั้งนั้น เพราะฉันเป็นภรรยาตัวจริงของเขา"

กมลทัตหายจากตกตะลึงร้องออกมาว่า "ไม่จริง ภาสกรเอาตัวมันออกไปเร็ว"

ภาสกรโดดเข้าหานภา แต่โรมลุกขึ้นกันเอาไว้บอกว่าเขาอยากฟังผู้หญิงคนนี้พูด นภาถือโอกาสที่ภาสกรชะงักพูดต่อไป

"ฉันเป็นเลขาฯของคุณกมลทัต แต่มีสัมพันธ์กับกุลชาติจนตั้งท้อง กมลทัตส่งคนไปฆ่าฉัน จนฉันต้องเสียลูกในท้องไป แต่ฉันดวงแข็งไม่ตาย ไอ้ผู้ชายคนนี้แหละที่มันเป็นฆาตกร..." ชี้ไปที่ภาสกร

โรมร้องถามว่านภามีหลักฐานอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่พูด นภาชี้ไปที่ช่างเทคนิคที่คุมเครื่องฉายภาพอยู่ ช่างเครื่องกดปุ่มไฟในห้องหรี่ลง ภาพที่ปรากฏบนจอโปรเจกเตอร์คือ นภานอนซบอกกมลทัตอยู่ ภาพดับไปเปิดใหม่อีกครั้ง เป็นภาพของกุลชาติเมาแอ๋นอนซุกอกนภาตาเยิ้ม ไฟสว่างขึ้นผู้คนฮือฮาแบบช็อกกันไปหมด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น