หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

เงากามเทพ ตอนที่ 4

ตอนที่ 4

เทียนงงมือไม้สั่น มองโรมตาแป๋ว โรมรู้สึกตัวและก็รู้สาเหตุที่ตัวเองหงุดหงิดขึ้นมาได้ว่าเป็นเพราะเรื่องที่เขาหาข่าวของกุลชาติในเน็ตไม่เจอนั่นเอง พอนึกได้ว่าเป็นเรื่องนี้โรมก็คิดว่าควรต้องรีบทำอะไร

"ไปจัดกระเป๋า เตรียมตัวเดินทาง ไปสักสิบวัน ไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้น ทำตามคำสั่งของฉันก็พอ" โรมสั่งเทียนแล้วก็เดินเลยไปห้องของลักษมน เข้าไปสั่งลักษมนเหมือนกับสั่งเทียนเมื่อกี้

"ลักษมน นายเตรียมตัวไปหัวหินด้วยกัน อ้อ...โทร.บอกปารวดีให้เตรียมห้องให้พวกเราด้วย...ป้าทิพย์ก็ต้องไปด้วยนะ"

ทั้งลักษมนและป้าทิพย์ทำท่างงเหมือนกับเทียนเมื่อ ตะกี้ไม่ผิดกันเลย แต่ก็รีบทำตามคำสั่งของโรม ทั้งหมดใช้เวลาไม่นานโรมก็พาไปถึงบ้านหมอเผ่า ทั้งปารวดีกับหมอเผ่าก็งงอีก แต่โรมไม่รอคำถามจากใครทั้งนั้นพูดออกมาทันที

"ฉันจะเริ่มเปิดตัวเทียนให้สังคมรับรู้ และเทียนเองก็ควรเรียนรู้สังคมใหม่ๆด้วยเหมือนกัน ฉันคิดว่าที่นี่แหละเหมาะที่สุด เผ่าช่วยเช็กดูทีซิ เย็นนี้มีดินเนอร์ดีๆที่ไหนบ้าง ส่วนปารวดีก็ช่วยพี่จัดหาชุดเสื้อผ้าดีๆให้เทียนด้วย วันนี้คือการฝึกขั้นแรกของเทียน"

คนที่ได้รับคำสั่งกุลีกุจอไปจัดการตามนั้นอย่างด่วนจี๋

ooooooo

คืนนั้น ที่ร้านหรูริมทะเลที่หมอเผ่าคัดสรรมาแล้ว บรรดาลูกค้าไฮโซเดินทักทายกันกลางแสงไฟที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม โรมเดินจูงมือเทียนเข้ามาอย่างสง่าโดยมีหมอเผ่ากับปารวดีเดินตามหลังมาอีกคู่ เทียนมัวแต่ตื่นเต้นเลยเดินสะดุดชายกระโปรงตัวเอง โรมรีบเข้าประคองทันที

"ใจเย็นๆ  อย่าลน  นิ่งๆ  นี่แค่ครั้งแรก  ต่อไปเธอจะต้อง ออกงานแบบนี้จนชินไปเอง"

เขาจับมือเทียนมาคล้องกับแขนตัวเอง หมอเผ่าเลยคล้องแขนปารวดีมั่ง สองคู่เดินตามกันไป พนักงานเข้ามาต้อนรับพาไปที่โต๊ะที่จองไว้ โรมมองไปรอบๆ เขาไม่ทันเห็นว่าแซมกับมนทิราเดินเข้ามา แต่หมอเผ่ามองเห็น พนักงานเข้ามาเสิร์ฟอาหารพร้อมรินไวน์ขาวให้ทุกคน โรมหยิบแก้วชวนให้ทุกคนดื่ม สามคนจิบแต่เทียนยกแก้วแตะริมฝีปาก พอรู้รสว่าหวานก็กระดกหมดแก้วเลย

โรมตกใจแต่เบรกไม่ทันเลยค่อยๆพูดบอกว่า "ไวน์ต้องจิบทีละนิด ละเลียดรสชาติของมันแบบนี้" เขาทำให้ดู

"ค่ะ ค่ะ" เทียนรับคำแต่แก้วที่สองก็ดื่มแบบเดิมอีก เพราะติดใจในรสชาติ ไม่กี่แก้วก็ชักเริ่มมึน

แซมเข้ามาที่โต๊ะของตัวเอง พยักหน้าทักทายคนนั้นคนนี้ไปทั่วแถมยังมีการลุกไปทักทายถึงโต๊ะอีก มนทิราชักเบื่อเลยเดินออกไปข้างนอก นักธุรกิจคนหนึ่งเดินเข้ามาชวนคุย มนทิราคุยตอบตามมารยาท นักธุรกิจคนนั้นหวังดีจะเข้าไปตักอาหารมาให้แต่มนทิราดึงมือเขาไว้บอกว่าไม่ต้อง แซมเดินออกมาหาภรรยาเห็นภาพนั้นก็เข้าใจผิดเดินเข้ามาผลักอก นักธุรกิจคนนั้นทันที

"อย่ายุ่ง ไปให้ไกลๆ นี่ภรรยาผม" แซมพูดเสียงดัง

มนทิราพยายามทำความเข้าใจกับแซม แต่แซมไม่ฟัง เสียงลากมนทิราไปที่สระน้ำ จับมนทิรากดน้ำและตบหน้าซ้ำ บังเอิญเทียนซึ่งทำอาหารหกใส่ชายเสื้อเดินออกมาหาห้องน้ำ เห็นภาพนั้นก็ทนไม่ได้เข้าไปขัดขวางทันที แซมละมือจากมนทิรา เพื่อจะจัดการกับเทียนแต่โดนเทียนถลกกระโปรงถีบเข้าหน้าท้อง แซมทรุดลงไปกอง แต่ยังพยายามยกมือชี้หน้าด่าเทียน เสียงทะเลาะวิวาทของคนทั้งคู่ทำให้แขกที่อยู่ในห้องได้ยินพากันวิ่งออกมาดู รวมทั้งพวกโรมด้วยทันได้เห็นภาพเทียนเต้นพลางกวักมือพลางให้แซมเข้าหา  โรมตาเหลือกรีบเข้าแยกคู่กรณีออกจากกัน ผู้จัดการสถานที่วิ่งออกมาดูเมื่อลูกน้องไปรายงาน กว่าจะจัดการปัญหาได้โรมต้องควักจ่ายไปเป็นแสน เพราะแซมเรียกร้องค่าเสียหาย มนทิรามองเห็นโรมแต่ไม่กล้าทักทายเพราะกลัวแซมเอาเรื่องอีก

กลับถึงบ้าน ลักษมนกับป้าทิพย์รู้เรื่องนี้ ลักษมนบ่น เสียดายที่ไม่ได้ไปด้วยจะได้เห็นภาพเทียนอาละวาด แต่ป้าทิพย์ แสดงอาการไม่พอใจบ่นว่าเทียนมีแต่ทำเรื่องให้โรมเสียเงินอยู่เรื่อย

ooooooo

กุลชาติไถเงินจากแม่ไปห้าหมื่นบาทบอกว่าจะเอาไปอดยาเสพติด แต่เอาไปเล่นการพนันหมด กมลทัตรู้เรื่องโกรธมากเลยจับกุลชาติขังไว้ในบ้าน และบัญชาให้นภาไปจัดการเดินเรื่องส่งกุลชาติไปเรียนต่างประเทศ

วันนี้นภาไปจัดการเรียบร้อยแล้วจึงเข้ามาหากมลทัตที่บ้าน เดินเข้าไปในห้องรับแขกอย่างถือวิสาสะพบกมลทัตนั่งคุยอยู่กับพิศเพลิน  นภายกมือไหว้ทั้งสองคน  เอาเอกสารทั้งหมดวางให้กมลทัตแล้วบอกว่า

"เอกสารทุกอย่างเรียบร้อยแล้วค่ะ ทางโน้นก็ยืนยันการรับเข้าเรียนมาแล้ว วีซ่าก็เรียบร้อยแล้ว รออยู่แต่ว่าทางเราจะพร้อมเมื่อไหร่"

"ดีมาก" กมลทัตมีท่าทางดีใจ แต่ไม่หยิบเอกสารมาดูเลย ออกคำสั่งต่อไปว่า

"จับมันขึ้นเครื่องส่งไปเลย เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นไม่ต้องไปรออะไรทั้งสิ้น เธอไปจัดการให้เรียบร้อยแล้วกัน" พูดจบก็เดินออกจากห้องไป
นภาทำท่าไม่สนใจพิศเพลินรวบเอกสารแล้วขึ้นไปหากุลชาติที่บนตึกทันที  ไขกุญแจที่รับมาจากกมลทัตเข้าไปในห้อง เดินเข้าไปหากุลชาติพลางพูดพลาง "เอาเอกสารมาให้ เหลือแต่คุณลงลายมือชื่อทุกอย่างก็จบ ฉันจะได้รีบไปจองตั๋วเครื่องบินให้"

กุลชาติเอื้อมมือมาคว่ำโต๊ะแล้วแผดเสียงลั่น  "ไม่ไปไหนทั้งนั้นโว้ย ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน"

"นึกว่าฉันอยากยุ่งกับคุณนักเหรอ ฉันทำตามคำสั่งของพ่อคุณต่างหาก อย่ามาทำร่ำไรเสียเวลานะ ฉันยังมีงานอื่นต้องทำอีก" นภาพยายามกลั้นโมโหก้มลงเก็บเอกสารวางให้ บนโต๊ะตามเดิม แถมเปิดปลอกปากกายื่นให้เสร็จเรียบร้อย

พิศเพลินเดินเข้ามา กุลชาติรีบไปหลบข้างหลังอ้อนแม่ว่า "คุณแม่ครับดูสิครับ ป๋าไม่รักผมแล้ว อยู่ๆก็จะจับผมส่งไปเมืองนอก ผมไม่อยากไป ผมคิดถึงแม่ แม่ช่วยพูดกับยัยคนนี้ให้ผมหน่อยซีครับ"

กุลชาติจับเส้นแม่ถูกที่ใช้คำพูดแบบนี้ พิศเพลินเลยปลอบลูกแล้วบอกกับนภาว่า "คุณคะ เรื่องไปเรียนต่อเมืองนอกของกุลชาตินี่ฉันขอคุยกับลูกก่อนดีกว่า ดูมันกะทันหันเกินไปหน่อยน่ะค่ะ ขอเลื่อนไปก่อนสักเดือนสองเดือนเถอะนะคะ"

"คงจะไม่ได้หรอกค่ะ เรา...เอ้อ...คือคุณกมลทัตกับดิฉันได้จัดการตระเตรียมทุกอย่างมานานแล้ว...คุณพิศเพลินคะ ดิฉันรู้ว่าคุณรักลูก แต่บางทีก็ต้องมีเหตุผลกันบ้าง ส่งเขาไปเรียนนะคะ เพื่ออนาคตของลูกต้องใจแข็งค่ะ" นภาพยายามอ่อนหวานใส่ แต่กุลชาติได้ฟังก็ด่าลั่น

"อ้าว นังนี่...มาพูดกับแม่ฉันยังงี้ได้ยังไง อย่าถือว่าเป็นเมียน้อยของป๋าแล้วจะมากร่างในบ้านนี้ไม่ได้นะโว้ย" เขาปรี่เข้าหานภาทันที แต่นภาทำเฉยแบบไม่กลัว

"ขอโทษ ถ้าฉันเป็นเมียหลวงแล้วมีลูก ลูกของฉันก็ต้องดีกว่าคุณก็แล้วกันกุลชาติ"

กุลชาติโดดเข้าใส่นภาทันที แต่นภาก็สู้  พิศเพลินรีบเข้าขวางกลางเลยถูกผลักล้ม  กุลชาติตกใจรีบเข้าประคองแม่  พอดีกมลทัตได้ยินเสียงเดินเข้ามาในห้อง  ร้องตะโกนให้หยุด  ถามว่ามันเรื่องอะไรกัน  กุลชาติฟ้องพ่อว่านภาด่าแม่ตัวเองฉอดๆ กมลทัตเลยตบนภาไปฉาดหนึ่ง  ด่าว่านภาล้ำเส้นมากไปแล้ว และบอกว่า

"หน้าที่ของเธอคือทำตามที่ฉันสั่งเท่านั้น ไม่ต้องออกความเห็นอะไรกับใคร เข้าใจมั้ย รีบจัดการเอากุลชาติไปเรียนต่อให้ได้ ถ้ามันไม่เรียนเธอก็ต้องไปนั่งเรียนกับมัน ทำยังไงก็ได้ให้มันเรียนจบ ถ้าสำเร็จเมื่อไหร่เธออยากได้อะไรบอกฉัน ฉันจะให้ทุกอย่าง"

ooooooo

ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน โรมกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะหมู่ จิบกาแฟไปด้วยอ่านหนังสือพิมพ์ไปด้วย อยู่ๆหน้าก็เครียดขึ้นมา ขยำหนังสือพิมพ์แล้วขว้างลงกับพื้น พอดี ปารวดีเดินถือจานผลไม้เข้ามาหา เห็นแล้วตกใจกับท่าทางโรม

"มีอะไรเหรอคะพี่โรม?" เธอถาม

โรมไม่ตอบแต่ก้มลงเก็บหนังสือพิมพ์เปิดให้เธอดูหน้าที่เขาอ่านเมื่อกี้ ปารวดีมองตามมือพี่ชายชี้เห็นข้อความว่า "นักธุรกิจใหญ่กมลทัต อัพเกรดลูกชายโทนกุลชาติ ลัดฟ้าหวังคว้าปริญญาเมืองนอกในเร็ววันนี้" พอเธอลดสายตามองหน้าเขา โรมก็บอกว่า

"เราจะช้าไม่ได้แล้วต้องรีบเปลี่ยนแผนเดี๋ยวจะไม่ทันการณ์ ถ้าสิ่งที่คิดเป็นจริง กุลชาติกำลังจะบรรลุนิติภาวะแล้วได้ทรัพย์สินทุกอย่างของทักษสุต กมลทัตมันถึงต้องรีบส่งลูกนอกไส้ตัวปลอมคนนี้ไปเมืองนอกซะเพื่อความง่ายในการจะฮุบสมบัติทั้งหมด เพราะฉะนั้นเราต้องรีบแล้ว" พูดพลางลุกขึ้นสาวเท้าเข้าบ้านทันที ก่อนจะไปหาเทียนเจอป้าทิพย์ก่อนโรมจึงบอกให้ป้าทิพย์เก็บของจัดกระเป๋าเสื้อผ้าเพื่อจะเข้ากรุงเทพฯกัน ป้าทิพย์
งงแต่ก็ทำตามคำสั่ง พักเดียวเทียนก็เดินอย่างรีบร้อนออกมาหาเพราะโรมเข้าไปบอกเธอเรื่องนี้ เทียนเข้าไปเกาะแขนป้าทิพย์อย่างดีใจ

"ป้าทิพย์คะ นายหัวจะพาเทียนไปเที่ยวกรุงเทพฯ เทียนดีใจจังเลยค่ะ" เทียนเขย่ามือป้าทิพย์ แต่ป้าทิพย์ปลดมือเธอออกบอกว่า

"อย่าดีใจให้เกินเหตุเทียน กายังไงมันก็เป็นกาวันยังค่ำ อย่าได้คิดเผยอเป็นหงส์ เพราะของแท้เขามีตัวตนอยู่แล้ว" เทียนมองหน้าอย่างไม่เข้าใจว่าป้าทิพย์พูดอะไร ป้าทิพย์มองหน้าแล้วส่ายหัว

"เธอนี่มันซื่อจริงๆหรือแกล้งโง่กันแน่ รู้มั้ยว่าผู้หญิงที่เธอช่วยในงานเลี้ยงเมื่อคืนนั่นแหละคือคุณมนทิรา และเธอคือคู่หมั้นคู่หมายของคุณโรม คู่ควรเหมาะสมกันทุกอย่าง เสียดายที่มีเรื่องเข้าใจผิดกัน ไม่อย่างนั้นคุณโรมกับคุณมนทิราคงได้ แต่งงานกันไปแล้ว" ป้าทิพย์พูดแบบเยาะเทียน

ooooooo

กมลทัตกำลังนั่งเอนตัวอยู่บนเก้าอี้นั่งคอยที่จะไปส่งลูกชาย และก็กำลังคุยกับภาสกรไปด้วย เขาขยายแผนการของตัวเองให้ภาสกรฟังว่า

"ลงทุนส่งมันไปเรียนเมืองนอกฉันก็ได้ชื่อว่าเป็นพ่อผู้ทุ่มเทให้ลูก พอมันกลับมาบรรลุนิติภาวะพอดี หรือมันกลับมาจะเรียนจบหรือไม่ก็ช่างมัน ชั้นก็เปิดบริษัทห่วยๆอะไรก็ได้ให้มันบริหาร ให้เงินมันใช้มั่วสาวเมายาไปวันๆถ้ามันพลาดฉันก็จะดูดีและชอบธรรมที่จะเป็นผู้พิทักษ์ดูแลมันอีก...นายทำท่ากลัวๆอะไรวะ?"

"กลัวอยู่อย่างเดียวเท่านั้นแหละครับ ถ้ากุลชาติดันไปได้เมียแล้วจดทะเบียน ท่านก็จะมีตัวหารขึ้นมา ยิ่งถ้ามีลูกขึ้นมาด้วยละก็ ท่านจะถูกลดลำดับกลายเป็นทายาทเบอร์สองทันทีน่ะซีครับ"

กมลทัตผุดลุกอย่างตกใจเพราะไม่ได้คิดเรื่องนี้ แต่ที่ประตู นภากำลังแอบฟังอยู่ เธอยิ้มอย่างหมายมาด

กุลชาติเดินลงจากตึกโดยมีพิศเพลินเกาะแขนลงมาด้วย เธอบอกลูกชายว่าไปส่งไม่ได้ แต่ก็กำชับให้กุลชาติดูแลตัวเองให้ดีเพราะอากาศที่โน่นไม่เหมือนเมืองไทย พอนภาเข้ามาเร่งว่าให้รีบไปเพราะจะเช็กตั๋วไม่ทัน พิศเพลินก็ฝากลูกกับนภาอีก นภาตอบยิ้มๆว่า

"คุณพิศไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ นภาจะดูแลกุลชาติอย่างดีที่สุดเลย" พูดจบก็ต้อนกุลชาติไปขึ้นรถที่กมลทัตกำลังรออยู่ พากันไปสนามบินทันที

ที่สนามบินพวกนักข่าวมารอทำข่าวอยู่ กมลทัตยิ้มแย้มแจ่มใสให้สัมภาษณ์เรื่องลูกชาย ทำท่าปลาบปลื้มเมื่อนักข่าวยิงคำถามใส่ว่า

"ถึงขนาดส่งเลขาฯส่วนตัวไปคุมคุณกุลชาติถึงเมืองนอก แสดงว่าคุณกมลทัตคาดหวังในตัวคุณกุลชาติสูงมากจะให้เรียนถึงด็อกเตอร์รึเปล่าครับ"

"ก็แล้วแต่เขาแหละครับ ผมสนับสนุนเต็มที่อยู่แล้ว ว่าไงลูก ความตั้งใจเต็มร้อยใช่มั้ย" หยอกเอินลูกชายต่อหน้านักข่าวแบบพ่อที่รักลูกเหลือเกิน กุลชาติเลยพูดประชดๆว่า

"ครับ กะจบตรีฮาร์เวิร์ด โทที่เคมบริดจ์ เอกที่ออกซ์ฟอร์ดเลยแหละ"

"ธุรกิจครอบครัวใหญ่ขนาดนี้ คงต้องเรียนบริหารธุรกิจแน่ๆ จบกลับมาคิดว่าจะเปิดกิจการอะไรใหม่ๆเพิ่มมั้ยครับ" นักข่าวถามพลางรอคำตอบกันตาเป๋ง แต่คำตอบของกุลชาติทำเอาเกือบหงายเก๋ง

"ครับ...อยากเปิดอาบ อบ นวด"

กมลทัตแทบอยากโขกกะโหลกลูกชายแต่ทำไม่ได้เลยแกล้งหัวเราะบอกนักข่าวว่า "อารมณ์ขันเด็กเยอะครับ โอเค แค่นี้นะครับ" รีบรุนหลังลูกชายออกไปทันที พอเหลืออยู่กับนภาสองคนกุลชาติก็ทำตัวโก่งไม่ยอมขึ้นเครื่อง บอกว่ากลัวความสูง เลยถูกนภาดุแล้วลากขึ้นเครื่องเลย

ooooooo

คล้ายกับจะเป็นคู่แค้นกันซะจริงๆเพราะพวกโรมมาจากหัวหินลงเครื่องที่นี่ คอยคนขับรถไม่มารับสักที โรมเลยเดินออกไปตาม ทิ้งพวกที่มาด้วยกันไว้ให้นั่งคอยที่ม้านั่ง ป้าทิพย์ทำท่าจะเป็นลมปารวดีเลยเดินจากไปอีกคนโดยบอกว่าจะไปซื้อยาลมให้ป้าทิพย์ ไม่ทันที่ปารวดีจะกลับมาป้าทิพย์ก็เป็นลมไปจริงๆ เทียนว้าวุ่นรีบวิ่งตามหาโรมกับปารวดี

กมลทัตออกมาจากส่งลูกพอดีได้รับโทรศัพท์มีเรื่องด่วนมาตามเขาจึงบอกให้คนขับรถประจำตัวเอาเอกสารที่เขามอบให้ไปให้ภาสกรโดยให้นั่งแท็กซี่ไป ส่วนตัวเขาขับรถไปธุระเอง แต่พอขึ้นรถสตาร์ตเท่าไหร่ก็ไม่ติด กมลทัตลุกลี้ลุกลน พอดีเทียนวิ่งมาถึงบริเวณนั้นพอดีเห็นสภาพเลยเข้าไปถามว่ารถเป็นอะไร

"ไม่รู้สิ อยู่ๆก็สตาร์ตไม่ติด" เขาตอบพลางมองเทียนอย่างสงสัยว่าถามทำไม

เทียนซึ่งพอมีความรู้เรื่องรถอยู่บ้างจึงเข้าไปช่วยดูให้ พักเดียวก็บอกให้กมลทัตลองสตาร์ตดู รถติดทันที กมลทัตลงมาจากรถขอบอกขอบใจใหญ่แล้วซักถามว่าทำไมถึงรู้เรื่องเครื่อง เทียนยิ้ม ตอบว่า

"พ่อสอนค่ะ"

"พ่อหนูทำงานอะไร?"

"ทำสวนค่ะ แล้วก็เปิดอู่เล็กๆที่บ้านด้วย หนูช่วยพ่อทำบ่อยๆ"

กมลทัตล้วงกระเป๋าหยิบนามบัตรกับเงินพร้อมกับพูดว่า "ยังงี้ต้องให้รางวัล แล้วบ้านหนูอยู่ไหนจ๊ะ?"

พอพูดถึงบ้าน เทียนตกใจเพราะนึกถึงโรมกับปารวดีขึ้นมาได้ ร้องตายละออกมาแล้วรีบวิ่งจากไปทันที ไปชนกับโรมที่กำลังเป็นห่วงและเดินตามหาเทียนเลยถูกโรมดุเอา เทียนบอกว่าไปช่วยเขาซ่อมรถเพราะรถเขาเสีย โรมเลยบ่นใหญ่โต

"เธอนี่มันเหลือเกินจริงๆเลย รู้มั้ยว่าใครๆเขาเป็นห่วงตามหากันให้ควั่กไปหมด แล้วนี่คิดว่าตัวเองเป็นใคร เป็นมูลนิธิ หรือไง ที่ต้องคอยช่วยเหลือชาวบ้านเขาตลอดเวลา ฉันบอกฉันพูดสั่งกี่ครั้งแล้วว่าอย่าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นเค้า ไป...ไปขึ้นรถ"

พูดพลางลากแขนเทียนให้ออกเดิน อีกมือก็กดมือถือบอกปารวดีว่าเจอตัวเทียนแล้วเพื่อให้ทางโน้นโล่งใจ

เมื่อพากันไปถึงบ้านซึ่งใหญ่โตหรูหรามาก โรมบอกกับทุกคนว่า  "ต่อไปนี้พวกเราจะอยู่กันที่บ้านหลังนี้จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น สำหรับลักษมน ไปย้ายข้าวของจากคอนโดฯมาอยู่ด้วยกันเสียที่นี่เลย"

ปารวดีดีใจบอกว่า "ดีจัง ต่อไปนี้เราพี่น้องได้มาอยู่ รวมกัน ทีนี้ละพรรคพวกเพื่อนฝูงเก่าๆคงได้มาเยี่ยมเยียนแน่ๆ"

ooooooo

ปารวดีได้รับโทรศัพท์จากหมอเผ่าผู้เป็นสามีโทร.มาบอกเล่าเรื่องว่าวันนี้มนทิราพาสามีตัวเองที่ถูกมนทิราตีหัวแตกต้องเย็บหลายเข็มมาให้รักษา ปารวดี บอกว่าฟังเรื่องแล้วก็รู้สึกสงสารมนทิราที่ชีวิตแต่งงาน ไม่ค่อยมีความสุข แต่อีกด้านหนึ่งก็รู้สึกสมน้ำหน้าเพราะมนทิราเลือกทางเดินของตนเอง พูดยังไม่ทันจบโรมเดินเข้ามาเธอเลยตัดสายไป

"ใครโทร.มาเหรอ?" โรมถามน้องสาว

"คุณเผ่าค่ะ โทร.มาเล่าเรื่องมนทิราให้ฟังว่าเขาตีหัวแซมสามีเขาจนสลบต้องเย็บตั้งหลายเข็ม ท่าเธอจะทนถูกซ้อม ไม่ไหวแล้วกระมัง..."

"ช่างเขาเถอะ" โรมตัดบทก่อนพูดต่อไปว่า "พี่มีเรื่องจะปรึกษาเธอน่ะว่าเราควรพาเทียนไปเปิดตัวให้สังคมรู้จักที่ไหนดี ยิ่งคนรู้จักพูดถึงเทียนมากเท่าไหร่ แผนของเราก็จะสำเร็จเร็วเท่านั้น"

ปารวดีส่ายหน้า "แหม จนปัญญาจริงๆค่ะ พี่โรมก็รู้ ตั้งแต่แต่งงานกับคุณเผ่าแล้วน้องก็อยู่ต่างจังหวัดตลอดเพิ่งจะได้เข้ากรุงเทพฯก็คราวนี้เองแหม...เสียดาย ถ้ามนทิรายังคบกับพี่โรมอยู่คงได้คำตอบแน่ แม่นั่นน่ะไฮโซของแท้..."

โรมลุกขึ้นยืนทันที "พี่ปรึกษาเรา ไปพูดถึงคนอื่นทำไม ไม่ได้เรื่อง" พูดจบก็เดินออกไปเลย

ส่วนเทียนกำลังพยายามประจบป้าทิพย์โดยเข้าไปประจ๋อประแจ๋จะช่วยทำนั่นทำนี่บอกว่าป้าทิพย์ไม่ค่อยสบายแต่กลับโดนป้าทิพย์ดุเอา "เอ๊ะ เธอนี่ ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย คนอย่างฉันไม่ตายง่ายๆหรอก ฉันเป็นห่วงคุณโรม ไม่รู้ว่าจะต้องเสียเวลาเสียเงินเสียทองกับเธออีกเท่าไหร่ รู้ตัวรึเปล่าว่าเธอทำให้คุณโรมเปลี่ยนไป เมื่อก่อนตั้งแต่ล้มละลายคุณโรมก็ตั้งหน้าตั้งตาก่อร่างสร้างตัวมาตลอดจนลืมตาอ้าปากได้แล้วสัญญาว่าจะไม่มาเหยียบกรุงเทพฯอีก ขนาดบ้านหลังนี้ขายได้กำไรเท่าไหร่ยังบอกยกเลิกเพื่อเธอ..."

เทียนฟังแล้วงงไปหมดจับต้นชนปลายไม่ติดไม่รู้ป้าทิพย์พูดเรื่องอะไร

ooooooo

วันต่อมาโรมคิดแผนได้อีกแผนหนึ่งจึงพาเทียนไปที่สปอร์ตคลับมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งซึ่งพวกไฮโซเป็นสมาชิกอยู่เพียบ เขาพาเธอเข้าไปนั่งในห้องโถงของคลับเฮาส์แล้วบอกกับเธอว่า

"ที่นี่เป็นที่พวกผู้ดีมีเงินเขามาออกกำลังกายกัน พวกคนชั้นสูงทั้งนั้น ทั้งของจริงของปลอม ฉันมาทำเรื่องสมัครเป็นสมาชิกให้เธอ นั่งรอฉันที่นี่ก่อนนะเดี๋ยวมา"

โรมเดินจากไป บริกรเข้ามาถามว่าจะรับอะไรดี อาหาร ของว่าง หรือเครื่องดื่ม เทียนไม่รู้จะสั่งอะไรเลยบอกว่าขอโอเลี้ยงแก้วหนึ่งก็พอ บริกรงงถามซ้ำว่า "เอ้อ...หมายถึงเอสเพรสโซเย็น ใช่ไหมครับ"

"กาแฟดำใส่น้ำแข็งน่ะค่ะ" เทียนตอบ บริกรทำหน้ายิ้มๆแล้วเดินไปถามชายหนุ่มหญิงสาวหลายคนที่โต๊ะติดๆกับเทียน ซึ่งแต่ละคนก็สั่งออกมาสำเนียงฟุดฟิดฟอไฟซึ่งเทียนไม่เข้าใจ แต่ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งบอกว่า

"เอาแบบคุณผู้หญิงที่โต๊ะนั้น" พยักหน้ามาทางเทียนแล้วยิ้มให้ เทียนเลยยิ้มตอบ เขาเลยถือโอกาสแถมานั่งที่โต๊ะเทียนทันที

"สวัสดีครับ ผมภาณุครับ" เขาแนะนำตัวเอง ซึ่งเทียนก็บอกชื่อตัวเองให้เขารู้จักเหมือนกัน ภาณุบอกว่า

"พวกผมมาเล่นโปโลกัน คุณเทียนมาเล่นอะไรครับวันนี้ แล้วคุณมากับใครครับ"

ภาณุพูดถึงตรงนี้พวกเพื่อนของเขาก็เฮกันมานั่งที่โต๊ะเทียน หญิงสาวนางหนึ่งซักเทียนถี่ยิบ "คุณพ่อคุณแม่เธอชื่ออะไร นามสกุลอะไร เผื่อพวกเราจะรู้จักบ้าง"

เทียนยังไม่ทันตอบอีกคนหนึ่งก็ก้มลงดูรองเท้าเทียนแล้วหัวเราะชี้ให้เพื่อนๆดู "ต๊าย ดูรองเท้าเทียนสิพวกเรา เห็นแล้วนึกประเภทกีฬาไม่ออกเลย" พวกเขาหัวเราะกันเกรียว

เทียนลุกพรวดอย่างตกใจบอกขอตัวแล้วรีบเดินหนี แต่ไปชนกับกมลทัต กมลทัตทำท่าดีใจจูงมือเทียนมาที่โต๊ะอาหาร ภาณุเข้าใจผิดบอกว่า "ที่แท้น้องคนสวยก็เป็นญาติเจ้าของทีเอสกรุ๊ปนั่นเอง...พวกทักษสุตไงล่ะ"

ส่วนกมลทัตเริ่มชวนเทียนคุย "ฉันอิจฉาพ่อแม่หนูจริงๆที่มีลูกสาวสวยน่ารัก เรียบร้อยแล้วก็มีน้ำใจอย่างหนู เออ จำได้ว่าหนูบอกว่าพ่อทำสวน สวนอะไรที่ไหนล่ะ..."

เทียนไม่ทันตอบโรมก็เดินเข้ามาและมองหาเทียน พอเห็นว่าเทียนนั่งอยู่กับกมลทัตก็ตกใจรีบเดินเข้าไปหาทันที เทียนหันมาเห็นร้องเรียกนายหัว กมลทัตเงยหน้ามองพอเห็นเป็นโรมก็ตกใจ แต่โรมทำใจเย็นทักทาย

"สวัสดีคุณกมลทัต สบายดีเหรอครับไม่ได้เจอกันซะนาน"

"ไม่นึกเลยนะจะได้เจอแกอีก ที่นี่..." กมลทัตตะกุกตะกักเพราะไม่คิดว่าโรมที่หมดเนื้อหมดตัวแล้วจะมีปัญญาเข้ามาที่นี่ โรมตอบยิ้มๆ

"นั่นน่ะซีครับ ผมก็คิดว่าเราจะไม่ได้เจอหน้ากันจนตายซะอีก"

ผู้จัดการเดินเข้ามาหาโรมยื่นบัตรให้บอกกับโรมว่า "บัตรวีไอพี เรียบร้อยแล้วครับ คุณโรม...อ้าว สวัสดีครับท่าน วันนี้ว่างเหรอครับ" ผู้จัดการเหลือบไปเห็นกมลทัตเลยทักต่อจากโรม กมลทัตหน้าตาบึ้งตึงตอบว่า

"ฮื่อ...ถ้ารู้ว่าที่นี่เริ่มรับสมาชิกมั่วๆไม่ดูภูมิหลังฉันก็คงไม่มา"

ผู้จัดการทำหน้าจ๋อยๆแบบไม่รู้เรื่อง โรมจึงตัดบทบอกขอบใจแล้วต่อด้วยคำพูดว่า "อ้อ...บัตรงานกุศลที่คุณบอก ตกลงผมซื้อยี่สิบใบนะ ได้บัตรเมื่อไหร่ก็บอกแล้วกัน" โรมจูงมือเทียนให้เดินไปกับเขา แต่เทียนไม่รู้จักว่าใครเป็นใครยังหันมาไหว้ลากมลทัตอีก โรมโกรธเลยกระชากมือไปขึ้นรถ ถามเทียนว่าไปนั่งคุยกับมันทำไม

"หมายถึงคุณลุงคนเมื่อกี้เหรอคะ เขาเป็นคนที่เทียนช่วยซ่อมรถให้ที่สนามบินไง" เทียนเท้าความให้ฟัง โรมตาเหลือก

"อะไรนะ แสดงว่าเธอกับมันพบกันสองหนแล้ว นี่เธอพูดอะไรกับมันไปมั่ง" เขาเขย่าเทียนหัวสั่นหัวคลอน ยิ่งเทียนตอบว่ากมลทัตแค่ถามว่าพ่อแม่เป็นใคร แต่เธอยังไม่ทันตอบโรมก็มาถึงพอดี เทียนก็ยังมองกมลทัตว่าเป็นลุงใจดีอยู่นั่นไม่เห็นจะร้ายกาจอะไรเลย โรมกระชากเสียงตอบทันที

"มันคือคนที่ร้ายกาจยิ่งกว่าปีศาจ มันนี่แหละที่ฆ่าได้ แม้แต่น้องชายตัวเอง  และมันนี่แหละที่ทำให้ฉันล้มละลายสิ้นเนื้อประดาตัว คนอย่างนี้เธอยังว่ามันไม่ร้ายกาจอีกเหรอเทียน!"

เทียนอ้าปากค้างเมื่อฟังจบ

ooooooo

กมลทัตกลับไปเล่าให้พิศเพลินฟังว่าวันนี้เขาไปเจอโรม พิศเพลินถามว่าโรมไหน กมลทัตแผดเสียงว่า "ก็ไอ้โรม ภคนันทน์ ยังไงล่ะ" พิศเพลินตื่นเต้นจนมือไม้สั่น ถามว่าเขาสบายดีไหม กมลทัตชักโกรธ

"ไม่ต้องทำตื่นเต้นยังงั้นหรอก ไอ้โรมมันไม่ได้เจ็บไข้ ได้ป่วยอะไร ฉันไปเจอมันควงเด็กผู้หญิงเอ๊าะๆเคียงข้างมาด้วย ไม่รู้ไปตกเขียวหลอกลูกสาวใครมาอีกก็ไม่รู้"

"คุณโรมไม่ใช่คนอย่างนั้น คนดีๆอย่างคุณโรมต้องได้รับผลดีตอบแทนเสมอ สวรรค์มีตาจริงๆเลย"

"เฮอะ...คิดไม่ผิดจริงๆ เธอก็เข้าข้างมันตลอด ก็ใช่น่ะสิ มันเป็นเพื่อนรักของนายธรแฟนเก่าเธอนี่ เธอคงสวดมนต์ ไหว้พระแผ่เมตตาให้ไอ้โรมมันทุกวันเลยสิท่า"

กมลทัตลุกขึ้นตบโต๊ะปัง ชี้หน้าพิศเพลินอีก เพราะยิ่งพูดยิ่งโกรธ

"จำเอาไว้นะพิศเพลิน ไอ้โรมไม่มีวันหนีเวรกรรมที่ฉันยัดเยียดให้มันได้หรอก คอยดู"

เวลาเดียวกันนี้เรื่องระหว่างโรมกับกมลทัตก็ถูกเล่าจากปากเทียนให้ลักษมนฟัง ลักษมนเลยยืนยันว่า

"ใช่ ไอ้กมลทัตนี่แหละที่ทำลายชีวิตพี่โรม" ยังเตือนเทียนว่า "เทียนต้องอยู่ห่างมันไว้นะ"

"เทียนจะจำหน้าจำชื่อผู้ชายคนนี้ไว้จนวันตาย ใครที่ทำให้นายหัวเจ็บก็เท่ากับทำร้ายเทียนด้วย เทียนจะไม่มีวันให้อภัยนายกมลทัตเด็ดขาด"

โรมที่กำลังเดินมาถึงพอดีได้ยินเทียนพูด  เขารู้สึกสะใจมากที่ทำให้เทียนเกลียดพ่อตัวเองได้ขนาดนี้

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น