หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2554

เหนือมนุษย์ ตอนที่ 3

ตอนที่ 3

หมดสภาพต้องให้อู๊ดรมยาดมให้ พอต๋องรู้สึกตัวก็งัดยาดมเทอร์โบจากกระเป๋าตัวเองมาดมแทน เหมันต์เดินผ่านไป ต๋องเห็นแล้วอดห่วงไม่ได้จึงแอบตามไป เห็นเหมันต์ขึ้นไปบนดาดฟ้าตึกเรียน ระบายอารมณ์ด้วยการชกกำแพงจนเลือดอาบมือ ต๋องเข้ามาจับแขนเหมันต์ไว้

"ทำไมนายต้องทำร้ายตัวเองด้วยวะ"

"เรื่องของฉัน..." เหมันต์สะบัดมือออก

ต๋องถามอีกว่ามีปัญหาอะไร ให้บอกเผื่อเขาช่วยได้ แต่กลับโดนเหมันต์ตะคอกใส่ว่าเขาไม่เกี่ยว ต๋องเสียใจ "นายเปลี่ยนไปมากนะเหมันต์ นายไม่ใช่คนเดิมที่ฉันเคยรู้จัก"

"อย่ามาตีเสมอฉัน...คนอย่างนายไม่น่ามีปัญญาเรียนที่นี่ หาที่เรียนใหม่ให้สมกับฐานะตัวเองดีกว่า" เหมันต์พูดใส่หน้าต๋องหวังกดดันให้ออกไปจากที่นี่

อู๊ดตามมาได้ยิน โกรธแทนเข้าไปผลักอกเหมันต์ กำหมัดอยากจะต่อย แต่ต๋องรั้งไว้ แล้วบอกว่าจริงอย่างที่เหมันต์พูด เขามันคนละเกรดที่จะไปตีเสมอเป็นเพื่อน อู๊ดจึงปลอบต๋องว่าคนไม่เห็นความหวังดีก็อย่าไปเป็นห่วงให้เสียความรู้สึก อู๊ดดึงต๋องเดินไป เหมันต์ทรุดลงร้องไห้กับการที่ปฏิเสธความห่วงใยของเพื่อนรัก...
หน้าหอพักหญิง อมรถูกนักข่าวรุมสัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีนักศึกษาฆ่าตัวตายถึงสิบสามคนในรอบสามเดือน หนึ่งในนักข่าวมีกระถินยื่นไมค์สัมภาษณ์อยู่ด้วย พออมรเห็นหน้ากระถินก็ชะงักถามทันทีว่าเธอเป็นใคร กระถินตอบว่าเป็นนักศึกษาปีหนึ่งคณะนิเทศศาสตร์ที่นี่ อมรพยายามจะอ่านใจกระถินแต่ไม่สำเร็จจึงหันไปอ่านใจลูกกบแทน รู้ว่าลูกกบกับกระถินอยากสัมภาษณ์เขา จึงเปรยกับกินรี "จัดเวลาให้เด็กคนนี้ไปสัมภาษณ์ต่อที่ออฟฟิศฉันดีกว่า"

"จริงเหรอคะด็อกเตอร์ เย้ ไอ้ลูกกบ มีข่าวเด็ดลงแล้ว" กระถินดีใจแตะมือกับลูกกบ

พลันมีฝูงผึ้งบินหึ่งเข้ามา ผู้คนแตกฮือวิ่งหนี ยกเว้นอมรกับกินรีที่แค่ยกมือป้องไว้ กระถินรู้สึกว่าผึ้งไม่สนใจเธอเช่นกันจึงดึงลูกกบให้มายืนข้างๆ "ไม่เห็นมันตอมฉันเลย แปลก"

"จริงด้วย ขนาดผึ้งยังไม่ตอมเลย ท่าทางลูกพี่จะขึ้นคาน" ลูกกบแซวจึงโดนกระถินเขกหัว

ไม่นานมีเสียงนกหวีดโบราณดังขึ้น ฝูงผึ้งค่อยๆบินห่างออกไป อมรเห็นอาจารย์เพี้ยนใส่หมวกปีกกว้างบังหน้า ยืนโบกมือให้ผึ้ง จึงถามว่าเป็นคนปล่อยผึ้งมาหรือเขาเห็นเป่านกหวีด

"ก็ช่าย...แต่ฉันบังคับให้มันกลับบ้าน ผึ้งพวกนี้หนีไฟป่ามา ไม่รู้เรื่องแล้วอย่าปรักปรำ"

อมรโกรธที่มาเล่นลิ้นจึงถามว่าเป็นใครและพยายามอ่านจิต แต่อาจารย์เพี้ยนบล็อกไว้ให้อมรเห็นแค่เขาร้องเพลงบ้าๆบอๆแล้วหัวเราะร่า อมรโวยว่าใครปล่อยคนบ้าเข้ามาในวิทยาลัยของเขา  อาจารย์เพี้ยนรีบแนะนำตัวว่าเขาเป็นอาจารย์

ที่นี่ แล้วย้อนถาม "อ้อ...ด็อกเตอร์แน่ใจเหรอว่านักศึกษา

พวกนี้ฆ่าตัวตาย บางทีไอ้ฆาตกรมันอาจจะยืนอยู่ตรงนี้ก็ได้"

พอเห็นอมรทำหน้าเหี้ยมก็รีบทำท่าคิกขุว่าล้อเล่นแล้วเดินลิ่วๆไป อมรมองตามเดือดๆ...กลับเข้าห้องทำงาน ทุบโต๊ะเปรี้ยงกระจกแตกร้าวไปทั่ว อมรแค้นใจเหมือนโดนหยาม ไม่อยากเชื่อว่าอาจารย์เพี้ยนจะเป็นคนธรรมดา พลันฉุกคิดหรือว่า... อมรกับกินรีมาที่โรงพยาบาลโรคจิต

"ใจเย็นๆก่อนค่ะด็อกเตอร์ เขาจะหนีออกไปเพ่นพ่านข้างนอกได้ยังไง ในเมื่อด็อกเตอร์รับเขามาดูแลตั้งแต่เกิดเรื่อง" กินรีเดินตามพูดให้คลายความกังวล

"ไอ้ชาติมันฉลาดเป็นกรดตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว ชอบทำอะไรเหนือความคาดคิด ฉันรู้จักมันดี" อมรไม่ไว้ใจ จึงมาดูให้รู้แน่

ตอนแรกไม่เห็นชาติในห้องพัก ไม่ทันไรได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย ชาติในสภาพใบหน้าพันผ้าพันแผลเพราะถูกไฟไหม้เป็นแผลฉกรรจ์ไม่มีวันหาย กำลังถูกรุมจับจะฉีดยา เขาอาละวาดเหวี่ยงคงเดชและบุรุษพยาบาลล้มกลิ้ง อมรเป็นผู้มาหยุดเขาไว้ได้ คงเดชเข้ามารายงานว่า พอยาระงับประสาทหมดฤทธิ์ทีไร ก็คลุ้มคลั่งแบบนี้ทุกที จะออกไปช่วยลูกกับเมีย อมรลองอ่านใจชาติเห็นแต่ความว่างเปล่าเพราะสูญเสียความทรงจำไปแล้ว อมรสอบถามคงเดชคนดูแลว่าชาติเคยหนีออกไปได้บ้างไหม คงเดชตอบว่าไม่เคย

ขณะเดินกลับอมรบอกกินรีว่าเหลือแต่กระถินที่เขายังอ่านใจไม่ออก กินรีจึงเสนอให้กำจัดไปเลย ถึงจะใช่หรือไม่ใช่อินทุกาก็ตาม... คืนนั้น กระถินกำลังทำรายงานกับลูกกบ กินรีแปลงร่างเป็นต๋องมาหลอกล่อให้กระถินตามไปที่โรงฆ่าสัตว์ แล้วใช้เหล็กแป๊บแทงเข้าที่ท้องเธอ ระหว่างนั้นสร้อยพระนาคปรกหลุดออกจากคอเธอ กระถินล้มลงมองหน้าต๋องอย่างคาดไม่ถึงว่าจะทำร้ายเธอรุนแรงขนาดนี้ กระถินแน่นิ่งไปกับกองเลือด

ขณะเดียวกัน คืนนั้น ต๋องพิถีพิถันทำบะหมี่สีเหลืองสวย จัดเรียงด้วยลูกชิ้นสีชมพู หมูแดงตัดเป็นรูปหัวใจ ตกแต่งให้ บะหมี่ดูหวานน่ารับประทานหวังจะให้แก้วรุ้งวันรุ่งขึ้น แป๊ะเล้ง กับสำลีเห็นแล้วทึ่ง ไม่คิดว่าต๋องจะทำได้ขนาดนี้ สงสัยว่า ลูกจะมีความรัก และในคืนนั้น แก้วรุ้งกลับมาบ้านเพื่อเก็บของ จะไปทำงานที่บ้านกระถินอีกคืน เจษฎาทำเสียงดุ เอ็ดที่แก้วรุ้ง ชอบไปค้างบ้านอื่น แต่แล้วก็หัวเราะแสดงให้เห็นถึงการหยอกล้อ ของพ่อลูก เหมันต์ซึ่งคอยตามแก้วรุ้งเห็นความรักความอบอุ่นของครอบครัวก็สะท้อนใจ...แก้วรุ้งมานอนแช่น้ำในอ่างอาบน้ำ ที่มีฟองสบู่เต็มอ่าง แล้วคิดไปถึงตอนที่เหมันต์ช่วยชีวิตเธอ รำพึงว่าเหมันต์เป็นเจ้าชายหรืออสูรกันแน่

ทันใด...เหมือนมีเงาคนผ่านม่านพลาสติก แก้วรุ้งตกใจร้องถามว่าใคร เธอรีบคว้าผ้าขนหนูมาพันตัวเดินออกจากห้องน้ำ กวาดสายตาไปรอบห้องไม่เห็นใครก็หมุนตัวจะกลับ พลันแขนไปโดนแจกันดอกกุหลาบที่เหมันต์เอามาวางไว้ให้ตกแตก เธอกำลังจะก้าวเท้าเหยียบเศษกระเบื้อง มีเงาวูบมาดึงร่างเธอไปกอด จึงรอดจากการถูกกระเบื้องบาดเท้า

"ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ" แก้วรุ้งตกใจดิ้นสุดแรง

"แน่ใจเหรอว่าจะให้ปล่อย" เสียงเหมันต์พูดปนหัวเราะ

แก้วรุ้งจำเสียงได้เงยหน้ามองเห็นเหมันต์กำลังยิ้มเจ้าเล่ห์ จึงตอบว่าแน่ เหมันต์ส่งสายตามองไปที่พื้น "ปล่อยแล้วจะกลายเป็นคนเปิดเผยเลยนะ"

แก้วรุ้งมองตามเห็นผ้าขนหนูเธอหลุดกองอยู่ที่พื้นก็ร้องว้าย เหมันต์ยิ้มกรุ้มกริ่ม "ฉันมั่นใจว่าเธอไม่อยากให้ฉันปล่อยตอนนี้หรอก เพราะถ้าปล่อย...ฉันอาจจะได้เห็น..."

"ไม่คิดเลยว่าพี่เหมันต์จะเป็นคนแบบนี้"

"คนแบบไหน?"

"คนบ้า...ลามก...เอาเปรียบผู้หญิง"

"ถ้าเป็นอย่างที่เธอบอก เธอไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้หรอก แต่ต้องลงไปนอนที่เตียงโน่น"

แก้วรุ้งตกใจเปลี่ยนมาถามเหมันต์ว่าเข้ามาได้อย่างไร ไม่ทันที่เขาจะตอบ มีเสียงเคาะประตูและร้องถามจากจีรนุชว่าคุยอยู่กับใคร แก้วรุ้งใจหายวาบร้องว่าอย่าเพิ่งเข้ามาเธอกำลังโป๊อยู่ แต่พอจีรนุชเปิดประตูเข้ามาเห็นแก้วรุ้งยืนหลับตาปี๋อยู่ จึงเข้ามาพูดว่า

"ไม่เห็นจะโป๊ ก็ใส่เสื้อคลุมอยู่ทั้งตัว"

แก้วรุ้งลืมตาก้มมองตัวเองอย่างแปลกใจ เหลียวมองรอบห้องไม่เห็นเหมันต์ก็ยิ่งแปลกใจ พอดีลูกกบโทร.มาบอกว่า กระถินหายตัวไปก็ตกใจรีบไปที่บ้านกระถิน...ลูกกบบอกยายบัวกับแก้วรุ้งว่ากระถินวิ่งตามต๋องไปทางไหน ทั้งสามเดินตามหากระถินด้วยความเป็นห่วง

เหมือนตกอยู่ในความฝัน กระถินวิ่งกระเซอะกระเซิงท่ามกลางหมอกควันอย่างไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน เหตุการณ์ตอนเธอหกขวบโดนเหวี่ยงตกหน้าผาปรากฏให้เห็น เธอรู้สึกปวดหัวพลันมีเสียงเรียก...อินทุกา เธอหันมามองเห็นเอมอรแต่จำไม่ได้ว่าคือแม่ จึงถามว่าเป็นใคร

"จำฉันไม่ได้จริงๆรึ" เอมอรดึงกระถินมากอด

"แม่...แต่แม่ฉันตายไปตั้งแต่ฉันยังเด็ก ถ้าคุณเป็นแม่ หมายความว่าฉันตายแล้วเหรอ"

"หนูจะต้องกลับไป เรื่องราวร้ายๆมีเพียงหนูเท่านั้นที่จะเป็นผู้คลี่คลายได้...หนูเท่านั้นอินทุกา...กลับไปอินทุกา... กลับไป..." ร่างเอมอรค่อยๆลอยห่างออกไป

กระถินร้องเรียกแม่...แล้วลืมตาพรวดขึ้น พบตัวเองโดนแป๊บเสียบอยู่ที่ท้องก็พยายามดึงออกอย่างเจ็บปวด ทันใด แผลที่ท้องก็สมานเข้าหากันเอง กระถินนั่งงุนงง ไม่ทันไร ยายบัว แก้วรุ้ง และลูกกบโผล่เข้ามา ยายบัวโผกอดกระถินน้ำตาไหล "โถ...ขวัญเอ๊ยขวัญมา หลานรักของยาย เอ็งมาทำอะไรอยู่ที่นี่ แล้วเป็นอะไรมั่งรึเปล่า ใครทำอะไรเอ็งบอกยายมา ยายจะไปลากมันเข้าคุก"

กระถินตอบว่าไม่เป็นอะไร ยายบัวบ่นว่าเธอหัวใจแทบหยุดเต้นพอรู้ว่ากระถินหายไป กระถินก้มกราบขอโทษยายบัวที่ทำให้เป็นห่วง กระถินนึกได้จับที่คอพอรู้ว่าสร้อยหายก็ตกใจ ยายบัวเก็บสร้อยที่ตกบนพื้นมาสวมให้แล้วย้ำเตือนอย่าทำหล่นอีก...

กลับมาในห้อง กระถินเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้แก้วรุ้งกับลูกกบฟัง แต่ไม่มีใครเชื่อว่าร่างกายเธอจะรักษาบาดแผลได้เองเหมือนจิ้งจก กระถินจึงพิสูจน์ด้วยการเอามีดมากรีดแขนต่อหน้าเพื่อนแล้วรอให้แผลสมานกันเอง แต่เลือดกลับไหลไม่หยุด สุดท้ายแก้วรุ้งต้องรีบทำแผลให้ กระถินหันไปแค้นต๋องที่ทำร้ายเธอ และทำให้เธอต้องเจ็บตัวแบบนี้

ooooooo

วันรุ่งขึ้น ต๋องกำลังซ้อมคำที่จะพูดกับแก้วรุ้งก่อนให้กล่องบะหมี่ที่เขาตั้งใจทำให้เธออยู่หน้าบันไดตึกเรียน พอเห็นแก้วรุ้งเดินลงมาก็เตรียมพร้อมจะยื่นให้ แต่แก้วรุ้งกลับเดินเลี้ยวเข้าห้องน้ำ กระถินเดินลงมาก่อน ต๋องก้มหน้ายื่นกล่องบะหมี่ให้พร้อมคำพูด

"บะหมี่ลวกด้วยรัก คัดสรรด้วยดวงใจ ของขวัญแด่คนที่คู่ควรครับ" พูดจบต๋องเงยหน้ามา พอเห็นเป็นกระถินก็ตกใจร้อง "เฮ้ย! ยัยกระทิงถึก"

กระถินเห็นหน้าต๋องก็ตกใจเช่นกัน ต๋องดึงกล่องกลับมากอดไว้อย่างหวงแหน กระถินยังแค้นกระชากคนเสื้อต๋อง "ถ้าวันนี้เอาเลือดชั่วออกมาไม่ได้ ฉันก็ไม่ใช่กระถิน"

"เหวอๆๆ...นี่เธอเกิดบ้าพลังอะไรขึ้นมาเนี่ย" ต๋องถูกกระถินดึงคอเสื้อตัวลอย เขาตกใจร้องให้ปล่อย กระถินจึงทิ้งเขาหล่นลงกองกับพื้น ต๋องยังกอดกล่องเหนียวแน่น

"แกสิบ้า...เมื่อคืนนี้เอาเหล็กมาแทงฉันทำไม แกจะฆ่าฉัน..."

ต๋องยิ่งงงปนโกรธหาว่ากระถินบ้าไปแล้ว กระถินไม่ฟังวิ่งไล่ซัดต๋องจนเขาจนมุม "ฟังฉันก่อนสิ คิดดูนะ...ฉันจะไปฆ่าเธอทำไม สวยก็ไม่สวย ทอมออกปานนี้ เมื่อคืนฉันช่วยป๊ากับแม่ขายบะหมี่ทั้งคืน ลูกค้าตรึม ถ้าไม่เชื่อไปถามใครที่ร้านดูก็ได้"

กระถินชักลังเล ต๋องนึกได้ว่าเมื่อคืนอาจารย์ฝ่ายปกครองไปทานที่ร้านเขาด้วย ให้ไปถามดู กระถินหมั่นไส้แกล้งปัดกล่องบะหมี่ต๋องหล่นหกกระจาย ต๋องเหมือนหัวใจแตกสลายคุกเข่าลงเหมือนจะร้องไห้ กระถินรู้สึกผิดแต่ยังรักษาฟอร์ม ทำเป็นพูดว่าแค่บะหมี่กล่องเดียวเธอซื้อใช้คืนให้ก็ได้ ต๋องปรี๊ด "เงินมันซื้อทุกอย่างไม่ได้หรอกนะ...บะหมี่ทุกก้อน หมูทุกชิ้น ลูกชิ้นทุกลูก หรือแม้กระทั่งน้ำซุปทุกหยดมันเกิดจากความตั้งใจ ความพยายามของคนทำที่อยากเห็นคนกินมีความสุข คุณค่าของมันวัดไม่ได้ด้วยเงิน แต่มันวัดได้ด้วยหัวใจต่างหาก"

กระถินไม่คิดว่าต๋องจะจริงจังขนาดนี้ แถมยังพูดว่า "บะหมี่กล่องนี้ฉันตั้งใจทำให้แก้วรุ้ง มันเป็นความจริงใจของฉันที่มีต่อแก้วรุ้ง...ผู้หญิงจิตใจหยาบกระด้างอย่างเธอ ไม่มีวันเข้าใจ"

ทนฟังต่อไม่ไหวกระถินเดินหนี แต่ไปแอบยืนมองต๋องอย่างรู้สึกผิด...ส่วนแก้วรุ้งเดินมายืนมองเหมันต์เล่นบาสในโรงยิม เผอิญลูกบาสกระดอนมาทางเธอจึงเก็บยื่นให้ แต่เหมันต์กลับไม่สนใจหันไปหยิบลูกอื่นมาเล่นต่อ    แก้วรุ้งรู้สึกผิดหวังน้อยใจ...

วันต่อมา มีการแสดงดนตรีในหอประชุม เหมันต์เล่นเปียโนร้องเพลง สาวๆกรี๊ดอยู่หน้าเวที แก้วรุ้งยืนมองเศร้าๆตัดสินใจเขียนโน้ตฝากคนคุมเวทีไปให้เหมันต์ พอเหมันต์ ร้องเพลงจบ  ขนุนกับพวกขอให้ร้องอีก  คนคุมเวทีเอาโน้ตมายื่นให้เหมันต์ พอเขาเปิดอ่านข้อความว่า...ไปพบแก้วที่ศาลาใน สวนด้วย แก้วอยากจะคุยกับพี่ดีๆสักครั้ง...เหมันต์หันไปมองทางแก้วรุ้ง แล้วตัดใจไม่อยากให้เธอมาจมอยู่กับเขา จึงแกล้งทำให้อายจะได้ตัดใจไปจากเขาด้วยการแกล้งอ่านเสียงดัง "ทุกครั้งที่เจอเธอ หัวใจฉันก็เต้นแรงเสมอ ทุกครั้งที่ไม่เจอก็คิดถึงเธอทุกลมหายใจ...ไปพบฉันที่ศาลาในสวนด้วยนะ มีเรื่องจะคุยกับเธอ...แก้วรุ้ง"
ทุกคนฮือฮาหันไปมองแก้วรุ้ง เธอหน้าซีดตกใจ

ที่เหมันต์โกหกฉีกหน้าเธอ พอคุมอารมณ์ได้ก็เดินขึ้นเวทีไปจ้องหน้าเขา เหมันต์ถามว่าอยากจะบอกรักเขาหรือ แก้วรุ้งสุดจะทนตบหน้าเหมันต์อย่างแรงต่อหน้าทุกคน แล้วบอก

เขาว่าเธอไม่ได้รักใครง่ายอย่างที่เขาคิด  ก่อนจะร้องไห้วิ่งออกไป...

กระถินกับต๋องยังทะเลาะกันมาจนถึงคณะคหกรรม ที่อาจารย์เพี้ยนกำลังสอนนักศึกษาอยู่ กระถินคว้าก้อนอะไรมาจะปาใส่ต๋อง อู๊ดกับต๋องเห็นว่าเป็นระเบิดร้องห้าม ลูกกบ กลัวกระถินปาออกไปจึงเข้าชาร์จตัวไว้ ระเบิดกระเด็นไป

ตกตรงหน้าอาจารย์เพี้ยนระเบิดตูม เป็นควันขาวฟุ้งและดอกมะลิลอยอยู่บนอากาศ ต๋องแปลกใจ "เฮ้ย! ทำไมระเบิดกลายเป็นดอกมะลิ"

กระถินทรุดลงกราบขอโทษอาจารย์เพี้ยน พอทั้งสองเห็นหน้ากันก็อึ้ง รู้สึกเหมือนผูกพันกัน อาจารย์เพี้ยนชมว่ากระถินเป็นเด็กดี ทำผิดแล้วรู้จักขอโทษ ดีที่ระเบิดนี่ไม่มีอันตรายเพราะเขาทำมาไว้ออกงานดอกไม้ประดิษฐ์...อาจารย์ เพี้ยนหันมาเคลียร์เรื่องทะเลาะกันของกระถินกับต๋อง และสอนว่าไม่ควรใช้กำลังให้หันมาเป่ายิ้งฉุบสู้กันจะดีกว่า ต๋องจึงท้าว่าถ้ากระถินแพ้ต้องไม่ขวางเขาเรื่องแก้วรุ้ง ผลออกมากระถินแพ้

ooooooo

แก้วรุ้งเดินเศร้ามาตามทาง ขนุนกับพวกเข้ามาต่อว่าที่ตบหน้าเหมันต์ แล้วรุมผลักแก้วรุ้งกันใหญ่ เหมันต์เดินเข้ามาตวาดให้ทุกคนหยุดทำร้ายแก้วรุ้ง เขาใช้พลังจิตดันสามสาวกระเด็นไปแล้วทำให้สายยางฉีดน้ำใส่จนตัวเปียกวิ่งหนีกันกระเจิง แก้วรุ้งมองเหมันต์ อย่างคาดคั้น

"พี่เหมันต์...พี่มีพลังจิต คราวนี้แก้วมีพยานแล้ว พี่ปฏิเสธไม่ได้อีกแล้ว"

"ฉันลบความทรงจำสามคนนั่นแล้ว ไม่มีใครจำเรื่อง เมื่อกี้ได้"

แก้วรุ้งไม่อยากเชื่อ เหมันต์บอกว่า ถึงเธอเล่าให้ใครฟังก็จะมีแต่คนว่าเธอบ้า แก้วรุ้งทั้งโกรธทั้งน้อยใจ "แก้วไม่เข้าใจพี่เลย ถ้าพี่เกลียดแก้ว พี่มาช่วยแก้วทำไม ทำไมพี่ ไม่ลบความทรงจำของแก้วทิ้งเหมือนที่พี่ทำกับขนุน พี่ปล่อยให้แก้วจำพี่ไว้ทำไมคะ"

เหมันต์อึ้ง เขารู้ดีว่าเขาอยากมีค่าในสายตาเธอ แก้วรุ้งร้องไห้ พรั่งพรูความน้อยใจออกมา "ตอบมาสิคะ พี่เห็นแก้วเป็นแค่ตุ๊กตาที่พี่จะปั่นหัวเล่นยังไงก็ได้ใช่มั้ยคะ"

แก้วรุ้งเขย่าตัวเหมันต์ เขาไม่ทันระวังจึงกลายเป็นโดนดึงล้มลงไปคร่อมบนตัวแก้วรุ้ง เขาสบตาเธอนิ่งจนเผลอจะจูบเธอ แต่แก้วรุ้งรู้สึกตัวผลักเขาออก ร้องไห้วิ่งหนีไป...มาเจอต๋องที่กำลังจะไปเรียน ต๋องเห็นแก้วรุ้งร้องไห้จึงยื่นผ้าเช็ดหน้าให้และชวนคุยให้หัวเราะ แถมหยิบอมยิ้มส่งให้บอกเธอว่า "อมยิ้ม ดีกว่าอมทุกข์นะครับคุณแก้ว"

ต๋องบอกให้แก้วรุ้งยิ้มสู้ทุกปัญหา ถึงปัญหาจะใหญ่ แค่ไหนก็มีทางออก แก้วรุ้งดีใจที่ได้รู้จักต๋อง อดนึกถึงเหมันต์ ไม่ได้ "ถ้าคนบางคน เขาเข้าใจแก้วเหมือนต๋องก็คงจะดี... ขอบคุณต๋องมากนะที่ทำให้แก้วรู้สึกดีๆ  ผู้หญิงคนไหนได้เป็นแฟนต๋อง ผู้หญิงคนนั้นต้องโชคดีที่สุดในโลก"

ต๋องถึงกับยิ้มหน้าบาน จนกลับถึงบ้าน...คืนเดียวกัน กระถินถอดสร้อยพระนาคปรกแขวนไว้ที่หัวนอน เธอกำลังซ่อมแผงคอมพิวเตอร์อย่างขะมักเขม้น พลันโดนไฟดูดมือพอง แต่ สักพักแผลก็เลือนหายไป สร้างความประหลาดใจให้กับเธอ ยิ่งอยากตามหาพ่อให้รู้ความจริง...วันรุ่งขึ้นจึงประกาศหาคนที่ให้ข้อมูลเรื่องพระนาคปรกแก่เธอได้ โดยมีลูกกบช่วยแจกใบปลิว แต่แล้วขนุนกับพวกมาหาเรื่องปัดใบปลิวเธอทิ้ง ทำให้

กระถินโกรธจนระงับอารมณ์ไม่อยู่ตบสามสาวไม่ยั้ง อมรต้องเข้ามาระงับเหตุ ขนุนรีบสำออยใส่ความว่ากระถินทำร้ายเธอก่อน จากสภาพของสามสาว อมรจึงให้กระถินมาคุยที่ห้องทำงาน กระถินยอมรับผิดและขอลาออกเอง แต่อมรกลับพูดว่า ถ้าเป็นเขาถูกใครหยามถึงพ่อแม่ก็คงไม่ยอมเช่นกัน กระถินตะลึงกราบขอบคุณ

อมรเข้ามามองที่สร้อยพระนาคปรกของกระถินแล้วถามว่าสำคัญอย่างไร กระถินจึงเล่าให้ฟังว่า ยายบัวเก็บเธอมาจากใต้ต้นกระถินพร้อมสร้อยนี้ จึงคิดว่าเป็นของมีค่าที่พ่อแม่เธอทิ้งไว้ให้ อมรถามหยั่งเชิงว่าเธอจำหน้าพ่อแม่ได้ไหม กระถินตอบว่า "ตอนที่ยายเจอหนู ยายบอกว่าหนูเอาแต่ร้องไห้ ถามอะไรก็ไม่รู้เรื่องเหมือนความจำถูกลบไปหมด"

"อาจเป็นเพราะเธอเจอกับอะไรที่น่ากลัว โหดร้ายเกินกว่าที่จิตใจจะรับได้"

กระถินมองหน้าอมรแล้วนึกได้ว่าเธอเคยฝันเห็นเขาทำร้ายอินทุกา จึงถามโพล่งออกไปว่า เขารู้จักอินทุกาไหม อมรหน้าเครียดทันทีกระแสจิตพลุ่งพล่าน ทำให้กระถินเกิดอาการปวดหัวอย่างหนักถึงกับหมดสติ อมรถือโอกาสอุ้มเธอไปนอนบนโซฟาหวังจะดื่มเลือดเธอ แต่แล้วกลับโดนอิทธิฤทธิ์ของพระนาคปรกกระแทกเขากระเด็นไปชนผนังลงไปกองกับพื้น อาจารย์เพี้ยนเปิดประตูเข้ามา ทำทีเป็นเอาขนมหวานที่คิดขึ้นมาใหม่มาให้ชิม แล้วรีบพากระถินออกไป

พอกระถินตั้งสติได้ อาจารย์เพี้ยนก็ซักถามว่าทำไมถึงเป็นลม กระถินเล่าทั้งหมดให้ฟัง เขาอยากจะเตือนว่าอย่าเข้าใกล้อมรอีก พอดีลูกกบวิ่งมาบอกว่าถามทั่ววิทยาลัยแล้ว ไม่มีใครรู้เรื่องพระนาคปรก อาจารย์เพี้ยนได้ยินอยากจะพูดแต่ระงับใจไว้ทำเป็นไม่รู้เรื่อง กระถินเสียใจวิ่งร้องไห้ออกไป ระหว่างทางสร้อยพระร่วงหลุดจากคอ เธอก้มลงจะเก็บ รถยนต์คันหนึ่งพุ่งมาอย่างเร็ว  ร่างกระถินลอยขึ้นให้รถผ่านไป เธอตกใจ "ฉันบินได้! ไม่จริง!"

พอรถผ่านไปร่างเธอก็โรยตัวลงมายืน รถคันเดิมย้อนกลับมา คนขับลงมาถามว่าเมื่อกี้เธอเหาะได้ใช่ไหม กระถินเองก็งงรีบบอกว่าเขาตาฝาด แล้วรีบเก็บสร้อยพระวิ่งหนีไป...กลับมาถึงบ้าน เธอสับสนร้องหายายบัวแต่กลับเจออาจารย์เพี้ยนอยู่ที่บ้านก็โผกอดร้องไห้โฮ

"หนู...หนูคิดถึงพ่อกับแม่ หนูขอสมมติให้อาจารย์เป็นพ่อหนูสักวันนะคะ"

"ร้องมาเลยลูก...ร้องเสียให้พอ" อาจารย์เพี้ยนลูบหัวกระถิน น้ำตาคลอไปด้วย...

พอสงบลง อาจารย์เพี้ยนก็ทำขนมบัวลอยให้กระถินทาน ลูกกบแปลกใจทำไมถึงรู้ว่าเป็นขนมโปรดของเธอ อาจารย์เพี้ยนแก้ตัวว่าเป็นเซนส์ของเขาและบอกว่าที่มานี่จะสั่งของจากยายบัวแล้วเขาก็ใช้ให้ต๋องกับอู๊ดมาตัดใบตองในสวนของยายบัว ทั้งที่ต๋องไม่อยากมาใกล้กระถินเลย...

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น