หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2554

เหนือมนุษย์ ตอนที่ 4

ตอนที่ 4

เพราะเป็นคำสั่งของอาจารย์เพี้ยน ทำให้ต๋องกับอู๊ดต้องมาตัดต้นกล้วยในสวนยายบัว ต๋องเร่งให้ช่วยกันตัดไวๆเพราะไม่อยากเจอกระถิน กลัวต้องเจ็บตัวอีก พอกระถินรู้จากลูกกบว่าต๋องอยู่ในสวน จึงเอาปืนเพนต์บอลไปแกล้งยิงใส่ ให้ต๋องกับอู๊ดเลอะไปด้วยสีเต็มตัว

"ยัยกระทิง ฉันรู้นะฝีมือเธอ แน่จริงอย่าลอบกัดซี้"

"หุบปาก...คนอย่างฉันไม่เคยกลัวใครอยู่แล้ว" กระถินโผล่พรวดออกมาโวย

"ถูก เพราะคนอย่างเธอสมควรจะกลัวตัวเองที่สุด เคยส่องกระจกดูหน้าตัวเองบ้างมั้ยว่ามันโหดแค่ไหน ยัยกระทิง" ต๋องโวยกลับ

"อี๊...ไอ้โรคจิต ฉันไม่มีทางอภัยให้นายอีกแล้ว"

"ฉันก็เหมือนกัน ฉันเกลียดเธอที่สุดในโลก" ต๋องแลบลิ้นปลิ้นตายั่ว

กระถินโกรธสุดๆ ไล่ยิงต๋อง จนเขาต้องลากอู๊ดวิ่งหนีถามว่าจะนั่งรอให้กระถินเอางูมาปล่อยกัดเอาหรือ กินรีมาสังเกตการณ์ ได้ยินก็สะดุดหูรู้ว่ากระถินพูดกับงูได้ จึงคิดแผนร้าย...กระถินวิ่งตามไล่ล่าต๋องไปทั่วสวน พลันรู้สึกมีเงาวูบวาบผ่านไปมา ก็คิดว่าต๋องแกล้งแต่แล้วพอแหวกพุ่มไม้ดูกลับเจองูเห่าตัวใหญ่ฉกกัดที่ขาล้มลง สักพักเธอก็หมดสติ กินรีก้าวออกมายิ้มเยาะ

"คนเก่ง ไหนว่าพูดกับงูได้ไง ทำไมตายง่ายอย่างนี้"

ไม่ทันไร ต๋องโผล่มาเห็นกระถินนอนหมดสติอยู่ มีอู๊ดเดินตามมา ทั้งสองตกใจเข้าไปดูเห็นกระถินหน้าซีดมีรอยเขี้ยวงูที่ขาและเลือดไหลซึมออกมา ต๋องเป็นห่วงกระถินอย่างจริงใจร้องเรียกกระถินอย่าตายนะ อู๊ดรีบวิ่งกลับไปตามคนมาช่วย ต๋องนึกได้รีบฉีกเสื้อตัวเองมัดที่ขากระถิน แล้วใช้ปากดูดพิษที่ขาออกบ้วนทิ้ง ยายบัวกับอาจารย์เพี้ยนมาถึงเห็นการกระทำของต๋องพอดี ต่างเข้าไปช่วยอุ้มกระถินส่งโรงพยาบาล...

กินรีกลับมารายงานอมรว่ากระถินโดนงูกัดตายแล้ว "ฉันเห็นมากับตา ไม่มีทางที่นังเด็กนั่นจะเป็นคนเดียวกับอินทุกาไปได้ แค่งูฉกยังปกป้องตัวเองไม่ได้ มันคงไม่ใช่ศัตรูของเรา"

แต่อมรไม่ปักใจเชื่อ เพราะรู้ซึ้งถึงพลังของพระนาคปรกที่คุ้มครองกระถินอยู่ ถ้าจะให้แน่ชัดต้องทำลายพระนาคปรกเสียด้วย...

กระถินฟื้นขึ้นมาพบตัวเองนอนอยู่ในโรงพยาบาล ที่แขนมีสายน้ำเกลือเสียบอยู่ พยาบาลถือถาดอุปกรณ์ล้างแผลเข้ามา จึงถามว่าเธอเป็นอะไร พยาบาลตอบว่า "คุณถูกงูพิษกัด ที่ข้อเท้าค่ะ แต่โชคดีที่คุณได้รับการปฐมพยาบาลอย่างถูกวิธี พิษเลยไม่แล่นเข้าหัวใจ"

กระถินจับที่คอตกใจที่ไม่มีสร้อยจึงถามพยาบาล เธอบอกว่าวางอยู่ที่โต๊ะข้างเตียง จึงโล่งใจ พยาบาลขอทำแผลแต่พอเปิดผ้าพันแผลออก กระถินเห็นแผลเธอค่อยๆเลือนหาย พยาบาลไม่ทันเห็นกำลังเตรียมแอลกอฮอล์อยู่ กระถินไม่อยากให้ใครรู้เห็นจึงรีบลุกขึ้น ดึงสายน้ำเกลือออกด้วยความรีบร้อนจึงปัดถาดตกพื้น
พยาบาลตกใจหันไปมอง เห็นกระถินลงจากเตียงเหยียบกรรไกรบาดเท้าแล้ววิ่งไป จึงร้องถาม "คุณคะ จะไปไหนคะ..."

กระถินไม่ตอบแต่รีบวิ่งหนีออกไปโดยไม่ลืมที่จะคว้าสร้อยพระนาคปรกไปด้วย เธอโบกรถแท็กซี่บอกให้พาเธอไปวิทยาลัยประจิม ระหว่างนั่งรถไปเธอมองสร้อยในมือ "ต้องเป็นเพราะพระองค์นี้แน่ๆ พระองค์นี้มีอำนาจสะกดอะไรบางอย่างในตัวฉัน..."

กระถินมาเล่าทุกอย่างให้อาจารย์เพี้ยนฟังและเชื่อว่าถ้าเธอไม่ถอดสร้อย เหตุการณ์ร้ายๆจะไม่เกิดขึ้น อาจารย์เพี้ยนจึงย้ำไม่ให้เธอถอดอีก และกำชับไม่ให้บอกเรื่องนี้กับอมร อ้างว่าเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์อาจจะอยากพิสูจน์จนชีวิตเธอไม่สงบสุข กระถินพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

ooooooo

เย็นวันนั้น   แก้วรุ้งกำลังค้นหาหนังสืออยู่ในห้องสมุดวิทยาลัย จนพบหนังสือชื่อ...ปรากฏการณ์คนเหนือคน...พอเริ่มอ่านไปได้สักพัก เหมันต์ก็โทร.เข้ามาถามว่ากำลังค้นหาเรื่องเขาอยู่หรือ   แก้วรุ้งรีบปฏิเสธบอกว่าเธอแค่หาข้อมูลทำรายงาน   แต่แล้วเหมันต์ก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า  ดึงหนังสือเธอไปดู  "จะทำรายงานเรื่องเหนือมนุษย์เนี่ยนะ"

แก้วรุ้งเหมือนเด็กโกหกถูกจับได้ เหมันต์จึงพูดว่า "อย่ารู้จักเลยดีกว่า ยิ่งรู้ก็ยิ่งอันตราย"

"พี่เหมันต์พูดเรื่องอะไร แก้วไม่เข้าใจ"

"หนังสือเล่มนี้ไม่มีใครอ่านจบหรอก" เหมันต์เอาหนังสือไปเก็บเข้าชั้นดังเดิม

แก้วรุ้งไม่เข้าใจ เหมันต์จึงอธิบายว่า "เพราะคนอ่านจะต้องพบจุดจบก่อนน่ะสิ  อย่าอ่านมันอีกเลย...แต่ถ้าอยากรู้

อ่านแค่เล่มนี้ก็พอ"

แก้วรุ้งรับหนังสือที่เหมันต์ยื่นมาให้ เห็นเป็นหนังสือที่แฟนคลับของเขาจัดทำขึ้น แก้วรุ้งเงยหน้าจะถาม แต่เหมันต์ หายตัวไปแล้ว  เธอจึงรีบจะไปเอาหนังสือเดิมมาแต่กลับหาไม่เจอเลย

คืนนั้น อาจารย์เพี้ยนพากระถินมาส่งบ้าน ในขณะที่ต๋องไข้ขึ้นสูงจนแป๊ะเล้งกับสำลีตกใจรีบพาส่งโรงพยาบาล หมอตรวจพบว่ามีพิษในร่างกาย อาจไม่รอดเพราะไม่รู้ว่าพิษอะไร พออู๊ด รู้เรื่องก็สงสัยว่าจะเป็นพิษงูที่ต๋องดูดจากแผลกระถิน...วันรุ่งขึ้น แก้วรุ้งมาพบอมรเพื่อถามว่ารู้เรื่องการมีพลังจิตของเหมันต์บ้างไหม อมรชะงักแต่พูดไปว่าเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ไม่เชื่อเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ แก้วรุ้งหน้าเจื่อนกลับไป...กระถินมาเรียนตามปกติ แก้วรุ้งกับลูกกบแปลกใจที่ดูกระถินสดชื่นไม่เหมือนคนป่วย อู๊ดเดินเข้ามาอย่างคนไม่สบอารมณ์

"ยังมีอารมณ์มาทำหน้าระรื่นกันอยู่อีกเหรอ รู้บ้างมั้ย ไอ้ต๋องป่วยหนักอาการปางตาย เพราะเอาปากที่เป็นแผลดูดพิษงูช่วยชีวิตกระถินไว้ ตอนนี้อาการสาหัสอยู่ที่โรงพยาบาล"

ทุกคนตกใจ รีบไปเยี่ยมต๋อง ยกเว้นกระถินที่ทำตัวไม่ถูก ต๋องรู้สึกตัวแต่หน้าซีดเผือด เขาดีใจเมื่อเห็นหน้าแก้วรุ้งฝืนยิ้มพูดว่าได้เห็นหน้าเธอ เขาก็หายแล้ว อาจารย์เพี้ยนถามต๋องว่าไม่รู้หรือว่ามีแผลที่ปากไม่ควรดูดพิษงู ต๋องตอบว่ารู้

"รู้แล้วยังจะทำอีกเหรอ   เดี๋ยวก็ได้เป็นผีเฝ้าป่ากล้วยหรอก"

"แล้วถ้าอาจารย์เป็นผม อาจารย์จะทำอย่างผมมั้ยล่ะครับ...ผมไม่ได้อยากเป็นวีรบุรุษหรอกนะครับ แต่ผมทนไม่ได้ที่จะเห็นคนดีๆตายไปตรงหน้า"

"แต่กระถินไม่ถูกกับเธอนะ" อาจารย์เพี้ยนย้อนถาม

"ยังไงเธอก็เป็นคนดี มีชีวิต มีจิตใจ ผมปล่อยให้ตายไม่ได้หรอกครับ"

อาจารย์เพี้ยนรู้สึกประทับใจต๋องขึ้นมาทันที หันไปถามแก้วรุ้งว่ากระถินไม่มาด้วยหรือ แก้วรุ้งบอกว่าชวนเท่าไหร่ก็ไม่ยอมมา ต๋องพูดว่าไม่เป็นไร แค่เห็นรอยยิ้มของแก้วรุ้ง ก็เป็นยารักษาทั้งตัวและหัวใจเขาแล้ว ทุกคนเอียนคำพูดน้ำเน่าของต๋อง สำลีเห็นต๋องเหนื่อยมากแล้วจึงบอกให้นอนพัก แล้วดึงอาจารย์เพี้ยนออกมาคุยห่างๆอย่างเศร้าๆ

"หมอบอกว่าร่างกายรับพิษอย่างรุนแรงค่ะ ถ้าผ่านคืนนี้ไปได้ ถึงจะรับรองความปลอดภัย" สำลีพูดไปน้ำตาซึม

"หนักขนาดนั้นเลยเหรอ" อาจารย์เพี้ยนตกใจ

"ครับ เป็นตายเท่ากัน หมอบอกว่าพิษตกค้างในร่างกาย อาจจะช็อกได้ตลอดเวลาครับ"

อาจารย์เพี้ยนสงสารต๋องที่ต้องปางตายเพราะช่วยชีวิตคนอื่นไว้แท้ๆ...และกลางดึกคืนนั้น กระถินก็แอบเข้ามาเยี่ยมต๋อง เธอจับมือเขาร้องไห้ "เพราะฉันแท้ๆนายถึงได้เป็นแบบนี้"

น้ำตากระถินหยดลงบนหลังมือต๋อง แสงวาบขึ้นทำให้ เครื่องวัดชีพจรเต้นเป็นปกติ ต๋องลืมตาขึ้นอย่างกระชุ่มกระชวย กระถินรีบปล่อยมือจะเดินหนี ต๋องเรียกเธอไว้ กระถินหันมาพูดกวนๆว่าเธอมาดูว่าเขาตายหรือยัง

"คนใจหยาบอย่างเธอคงจะดีใจมาก คงอยากเห็นฉันตายไปต่อหน้าต่อตา"

"ก็ปากอย่างเนี้ย ไม่สมควรตายด้วยพิษงูหรอก น่าจะตายเพราะหมัดมากกว่า" กระถินสะบัดหน้าจะไป ต๋องคว้ามือเธอไว้

เขาถามว่าเธอจะไม่ขอบใจเขาบ้างหรือ กระถินกัดฟันพูดคำว่าขอบใจออกไป แต่ต๋องกลับบอกว่ายังไม่พอ กระถินจึงถามว่าจะให้เธอทำอะไร

"ยังไม่รู้ ขอคิดดูก่อน...ถ้าเธอไม่เป็นทอม ก็ว่าจะขอ...จูจุ๊บ..." ต๋องทำปากยื่น

กระถินโกรธผลักต๋องโครมบนเตียงก่อนจะเดินออกจากห้องไป ต๋องยิ้มรู้สึกสบายใจเมื่อได้ต่อปากต่อคำกับกระถิน แล้วแปลกใจที่ตัวเองดูสดชื่นเหมือนคนปกติ...กระถินเดินบ่นมาตามทางเดินโรงพยาบาล แล้วล้วงสร้อยพระนาคปรกออกมาสวมใส่ตามเดิม ในขณะที่ต๋องเดินยืดเส้นยืดสายตัวเองด้วยความแปลกใจ แล้วเหลือบเห็นที่ระเบียงเหมือนมีเงาใครอยู่ จึงแหวกม่านออกไปดู มีชายคนหนึ่งพ่นสเปรย์ใส่หน้าเขา เขาล้มลงหมดสติทันที

ooooooo

ในบ้านอมร เหมันต์ถูกจับล่ามโซ่ขึงไว้ที่ผนังหน้าตาสะบักสะบอม ถูกลงโทษที่ไม่ยอมฆ่าแก้วรุ้งเสียที กินรีขอร้องให้ปล่อยเหมันต์ อมรโวยหาว่าให้ ท้ายจนกล้าขัดคำสั่งเขา เหมันต์พูดขึ้นว่าเขายอมตายแทนแก้วรุ้ง อมรโกรธมากกระชากเหมันต์เหวี่ยงทะลุกระจกจากชั้นบนไปกองที่พื้นสนาม แล้วโดดตามลงมาเหยียบอกคำรามว่า "ถ้าฉันยังไม่ให้แกตาย แกก็ตายไม่ได้ จำไว้..."

กินรีประคองเหมันต์ไปทำแผล ดึงเศษกระจกออกจากร่างกายแล้ววางแก้วให้ดื่ม "ดื่มเลือดแก้วนี้ซะ มันจะช่วยให้บาดแผลหายเร็วขึ้น"

เหมันต์ปัดทิ้งไม่ยอมกิน กินรีโกรธ "อวดดีไม่เข้าท่า ไม่กินวันนี้ ต่อไปเธอก็ต้องกิน"

พอเห็นเหมันต์นิ่งเมินหน้าหนี กินรีจึงเอาถาดยามาวางให้ "ยาที่เธอกินอยู่ทุกวันนี้ มันไม่ได้ช่วยให้เธอมีชีวิตอยู่ตลอดไปหรอกนะ อายุครบ 18 ปีเมื่อไหร่ สัญชาตญาณปีศาจในตัวจะทำให้เธอหิวกระหายเลือดจนแทบคลั่ง"

"ผมควบคุมมันได้"

"ไม่มีทาง อีกสามเดือนเธอจะมีอายุครบ 18 เมื่อถึงเวลานั้นเธอจะรู้เอง" กินรีจะเดินออกไป แต่หันมากำชับว่าถ้าไม่อยากตายตอนนี้ก็กินยาเสีย เหมันต์มองยาในถาดอย่างหนักใจ...

เช้าวันใหม่ แป๊ะเล้งกับสำลีตื่นมา พบต๋องนอนอยู่หน้าบ้านก็เข้าไปปลุก ต๋องแปลกใจว่าเขามาอยู่บ้านได้อย่างไร คิดว่ากระถินเป็นคนพามา จึงมาดักรอกระถินที่หน้าตึก พอเธอเดินมาก็พูดว่า "ที่จริงจะพาฉันออกจากโรงพยาบาล บอกกันดีๆก็ได้ ไม่เห็นต้องลักพาตัวฉันออกมาเลย"

"พูดอะไร ฉันไม่รู้เรื่อง" กระถินทำหน้างงงวย

"เอ๊ะๆหรือว่าเธอแอบทำมิดีมิร้ายฉัน ตอนไม่รู้สึกตัว ฮันแน่...ร้ายนะเรา..."

"นายพูดอะไรของนาย ประสาท..."

"ทำเป็นไก๋...แต่ช่างเถอะ ฉันแค่จะมาทวงสัญญาจากเธอ" ต๋องทวงสัญญาที่ช่วยชีวิต

กระถินจำยอมถามว่าจะเอาอะไรให้บอกมา ต๋องขอให้เธอนัดแก้วรุ้งมาออกเดทกับเขาหนึ่งวัน...กระถินไม่พอใจจึงวางแผนกับลูกกบ แกล้งนัดให้พบกันในวัด อ้างว่าจะได้ ทำบุญร่วมชาติกัน ถึงวันนัด ต๋องแต่งสูทสุดเท่ไปซื้อดอกไม้ที่ร้านแถวบ้าน ลูกกบขี่ซาเล้งมารับ ต๋องเคืองที่ไม่เข้ากับชุดเขาเลย แต่จำต้องนั่งไป ระหว่างทางเขาหลับฝันไปว่าตอนเขามอบช่อดอกไม้ให้แก้วรุ้ง เธอดึงเขาไปจูบ ต๋องเคลิ้มจนพลัดตกรถ ลูกกบบอกให้ต๋องรอที่วัดจนกว่าแก้วรุ้งจะมา

วันนี้แก้วรุ้งแต่งตัวน่ารัก บอกพ่อกับแม่ว่าเธอจะไปทำบุญที่วัดกับเพื่อนๆจีรนุชจึงให้คนขับรถไปส่ง ระหว่างนั่งรถไป แก้วรุ้งรู้สึกว่าไม่ใช่เส้นทางที่เธอจะไปจึงทัก "นี่ไม่ใช่ ทางไปวัดนี่ นายเพิ่ม..."

"ฮึๆก็ทางลัดไปนรกไงล่ะ นังแก้วรุ้ง" กินรีปลอมเป็นเพิ่มคนขับรถ

แก้วรุ้งตกใจ จับไหล่คนขับจะดูว่าเป็นใคร ทันใด ร่างหายวับไปเหลือแต่เสื้อกับหมวกร่วงอยู่ แก้วรุ้งตกใจเพราะรถแล่นไปโดยไม่มีคนขับ เธอร้องให้คนช่วย ไม่นาน...รถมาจอดนิ่งที่สุสานรถยนต์ แก้วรุ้งพยายามเปิดประตูรถออกเธอทุบกระจกลนลาน กินรียืนมองหัวเราะอย่างสะใจใช้พลังจิตทำให้ควันจากท่อไอเสียย้อนกลับเข้าไปในรถ แก้วรุ้งสำลักควันจนแทบหมดสติ

"คนตายเท่านั้นที่จะรักษาความลับไว้ได้" กินรีหัวเราะก่อนจะหันหลังเดินไป

พลันได้ยินเสียงเหมือนล็อกประตูเปิด จึงหันกลับมามอง เห็นเหมันต์กำลังอุ้มแก้วรุ้งออกจากรถมาวางแล้วกอดเธอแนบอกร้องให้เธอฟื้น "แก้วรุ้ง อยู่กับฉัน อย่าทิ้งกันไปนะ"

กินรีเหาะมาลงตรงหน้าตวาด "ด็อกเตอร์สั่งให้ฉันมาจัดการมันแทน หลีกไปซะ"

"ผมรู้นะ คุณไม่ได้โหดร้ายเหมือนด็อกเตอร์อมร อย่าฆ่าคนบริสุทธิ์อีกเลย"

แววตากินรีหวั่นไหวแต่แล้วฮึดขึ้นมาบอกเหมันต์ให้ หุบปาก เธอมีหน้าที่ทำตามคำสั่ง เหมันต์ไม่ยอมจึงผลักกินรีกระเด็นไปแล้วบอกให้ฆ่าเขาได้ แต่อย่าทำร้ายแก้วรุ้ง ทั้งสองต่อสู้กันอย่างรุนแรง เหมันต์สู้กินรีไม่ได้ เขาโดนเธอตะปบเข้าที่ท้องเลือดกระฉูด เหมันต์รวบรวมพลังทำให้ลมพายุพัดถังน้ำมันกลิ้งกระจายมาใส่กินรี แล้วฉวยโอกาสแบกแก้วรุ้งวิ่งหนีไปอย่างเร็ว

"บ้าจริง! เหมันต์ ผู้หญิงคนนั้นจะทำให้เธอเดือดร้อน" กินรีตะโกนก้องเมื่อตั้งตัวได้

เหมันต์แบกแก้วรุ้งบนหลังวิ่งกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางเลือดที่ท้องหยดเป็นทาง ผ่านท้องทุ่งไปจนเย็นย่ำ...ในขณะที่ต๋องเฝ้ารอแก้วรุ้งจนทนไม่ไหว โวยวายใส่กระถินหาว่าหลอก ให้เขารอ กระถินอยากจะอัดต๋องแต่ติดตรงที่เธอต้องรักษาสัญญา ลูกกบแนะให้ใช้แผนสอง ด้วยการให้กระถินแต่งเป็นแก้วรุ้ง ใช้มาส์กปิดปาก สวมแว่นดำออกมาหาต๋อง ทำทีว่าไม่สบายแต่ก็มาตามนัด หลายครั้งที่กระถินอยากจะซัดต๋องด้วยความหมั่นไส้กับคำพูดเชยๆของเขา

โต๊ะสำหรับดินเนอร์ถูกจัดไว้กลางป่าช้า โดยที่ต๋องไม่รู้ แต่พออู๊ดฉายไฟเห็นว่ามีแต่หลุมศพก็ร้องโวยวายด้วยความกลัว ทำเอาต๋องต้องวิ่งหนีป่าราบไปด้วย เท่านั้นไม่พอ กระถินยังทำเป็นผีเจ้าแม่หลอกให้ต๋องสัญญาว่าจะไม่จีบแก้วรุ้งอีก แต่ต๋องจับสำเนียงได้

"มันเกี่ยวกันตรงไหน ผมชอบแก้วรุ้งนะฮะไม่ได้ชอบเจ้าแม่...และไอ้คำว่าไอ้โรคจิตเนี่ยมันคุ้นๆนะ คนที่เรียกผมอย่างนี้ มีแต่ยัยกระถินคนเดียว"

กระถินซึ่งปีนไปยืนบนต้นไม้สะดุ้ง พลาดหล่นลงมา ต๋องรับตัวไว้กลิ้งไปด้วยกัน เขาจึงจับได้ว่าเป็นกระถินแกล้งเขาจริงๆ ต๋องกดตัวกระถินไว้ไม่ให้ลุก

"อุตส่าห์ปลอมตัวเป็นผีมาหลอก น่าชื่นชมในความพยายาม แต่คราวหน้าเล่นให้เนียนหน่อยนะน้อง..."

"ไอ้บ้า ใครน้องแก ไปให้พ้นเลยไป" กระถินดิ้นจะลุก

ต๋องยังกดตัวทับบนตัวกระถินไว้ แล้วแกล้งยื่นหน้าทำเป็นจะจูบ กระถินเบือนหน้าหนีร้องลั่น "อี๋ ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ถ้านายจูบฉัน ฉันยอมตายดีกว่า"

"ไม่ต้องกลัว ฉันไม่จูบไม้กระดานหรอก...ข้างหน้าข้างหลังแบนเท่ากันแบบนี้ แปลงเพศไปเลยดีกว่านะเธอ" ต๋องหัวเราะเยาะ

"แก๊..." กระถินทั้งโกรธทั้งอาย ยกเข่ากระแทกเข้าตรงเป้า ต๋องผงะหงาย

"อูย...ต๋องน้อยของฉันชำรุดแล้ว ไม่มีอะไหล่เปลี่ยนนะ" ต๋องกุมเป้าร้องลั่น

กระถินสมน้ำหน้าก่อนจะลุกวิ่งไปหลบข้างที่เก็บกระดูก อินทุกาพอดี ต๋องพยายามลุกวิ่งตามจะเอาเรื่อง กระถินหลอกให้ต๋องไปทางอื่น พลันเห็นชื่ออินทุกาก็หยุดมอง "อินทุกา ชโรดม ตายปีเดียวกับที่ยายบัวเจอเราเลยนี่ แสดงว่าอินทุกามีตัวตนจริงๆ เรื่องที่เราฝันไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้อ"

เหลียวไปข้างๆเห็นชื่อและรูปเอมอร ชโรดม ก็มั่นใจว่าคือแม่จึงกอดโกศร้องไห้โฮ...

เหมันต์พาร่างแก้วรุ้งมานอนบนเถียงนาเล็กๆเขาลูบผมเธอพร่ำพูดว่าหลับให้สบายเขาจะดูแลเธอเอง ไม่ทันไรเขารู้สึกเหมือนมีอะไรมาบีบขมับ เจ็บปวดจนต้องร้องออกมาแล้วล้มลงหมดสติข้างแก้วรุ้ง มือเขายังเอื้อมไปกุมมือเธอไว้เพื่อบล็อกจิตไม่ให้อมรเข้าถึง....

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น