หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

มนต์รักลูกทุ่ง ตอนที่ 5

ตอนที่ 5

สายใจและทองกวาวต่างก็วิ่งสุดฝีเท้ามุ่งหน้าไป บ้านคล้าว  แต่ไม่ทันจะถึงสองสาวเกิดมีปากเสียงเพราะ แย่งกันไปช่วยคล้าว  ต่างคนต่างผลักกันล้มลง  แต่สายใจ เจ็บมากกว่า  น้อยเลยต้องเป็นม้าให้สายใจขี่วิ่งตามหลัง ทองกวาวที่นำลิ่วไปไกลแล้ว

ทองกวาววิ่งไปถึงคอกควายที่ว่างเปล่า แต่เห็นคล้าว กำลังประคองคอนที่เป็นลมหมดสติ

"พี่คล้าว...ป้าคอนเป็นอะไรจ๊ะ"

"แม่พี่เป็นลม อาจอมกับพวกแกมาหักคอเอาไอ้ฉ่ำ

อีแฉะไปแล้ว แม่แกเสียใจจนล้มพับไปเลย ทองกวาวเอ๊ย ไอ้ฉ่ำอีแฉะมันบุญน้อย มันคงถูกส่งเข้าโรงฆ่าสัตว์วันนี้พรุ่งนี้แหละ พี่หมดปัญญาช่วยมันแล้ว"

"คนเห็นแก่ได้  ใจดำอย่างลุงจอม  ซักวันกรรมจะต้องตามสนอง...พี่คล้าวรีบเอานี่ไปให้แกซะ  พี่กับป้าคอนจะได้ หมดหนี้ซะที"

คล้าวตะลึงเมื่อเห็นทั้งเงินและทองในห่อผ้าที่ทองกวาว ยื่นมาให้

"ทองกวาว...นี่มันอะไรกัน"

"ยังไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้น ทองกวาวจะดูแลป้าคอนให้ พี่คล้าวรีบไปช่วยไอ้ฉ่ำอีแฉะมันก่อนเถอะ"

คล้าวยังไม่ทันจะออกไป สายใจขี่หลังน้อยที่หอบแฮก ลิ้นห้อยเข้ามาพอดี

"พี่คล้าวจะยอมรับความช่วยเหลืออีลูกสาวเศรษฐีนี่เหรอ สายใจไม่ยอมหรอก"

"มีเหตุผลอะไรสายใจ" ทองกวาวเสียงแข็งใส่

"ถามโง่ๆ สันดานพวกซื้อทุกอย่างได้ด้วยเงินอย่างเอ็งมีรึจะให้เปล่าๆอย่างไม่ได้หวังจะได้อะไรตอบแทน อีนี่มันจะสร้างบุญคุณให้พี่ไม่มีวันชดใช้มันหมดนะพี่คล้าว พี่จะต้องเป็นขี้ข้ามันจนวันตาย ไม่เชื่อก็คอยดู"

"เอ็งดูถูกข้ามากเกินไปแล้วสายใจ ที่ข้าช่วยพี่คล้าว ข้าไม่เคยคิดจะได้อะไรตอบแทน"

"จะพูดอะไรก็ให้ปากกับใจมันตรงกันหน่อยโว้ย อีทองกวาว"

"เอ็งอย่าเอาตัวเองตัดสินคนอื่นว่าเขาจะคิดเหมือนเอ็ง"

"โอ๊ย...อีนางฟ้านางสวรรค์ ให้อย่างไม่หวังจะได้อะไรตอบแทน  มันก็มีอยู่แต่ในยี่เกเท่านั้นแหละวะ"

"เอ็งฟังให้เต็มสองรูหูเอ็งเอาไว้ตรงนี้เลยนะสายใจ ข้าช่วยพี่คล้าวไม่ได้หวังจะได้อะไรตอบแทน เพราะข้ารักพี่คล้าว ได้ยินชัดรึยัง"

สายใจอ้าปากค้าง คล้าวตื้นตันจับมือทองกวาวบีบแน่น ก่อนผละไปพร้อมห่อเงินทอง สายใจมองตามอย่างเจ็บใจ ยิ่งพอได้ยินน้อยพูดชื่นชมทองกวาว สายใจถึงกับทนไม่ได้กรี๊ดใส่หน้าน้อยทันที

คล้าววิ่งตามไปทันพวกจอมที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งจอมต้องแวะเก็บหนี้ จอมแทบไม่เชื่อหูเชื่อตาตัวเองเมื่อคล้าวนำเงินและทองมาปลดหนี้ทั้งหมด เสร็จแล้วคล้าวก็รับสัญญาเงินกู้มาฉีกทิ้งก่อนจะพาควายสองตัวของตนกลับไปบ้านด้วยความดีใจ

ทองกวาวบีบนวดคอนที่หน้าบ้าน สายใจยืนมองด้วยความหมั่นไส้ แต่พอเห็นคอนฟื้นเธอก็รีบเบียดเข้ามาแทนที่ทองกวาว

"ป้าคอนจ๋า ค่อยยังชั่วขึ้นแล้วใช่ไหมจ๊ะ หิวน้ำไหม กินน้ำหน่อยนะจ๊ะ"

"คล้าวมันไปไหนล่ะสายใจ"

"พี่คล้าวตามไอ้จอมไปขอผ่อนหนี้จ้ะป้าคอน แต่เชื่อสายใจเถอะ คนหน้าเลือดอย่างมันไม่มีวันยอมหรอก มันอยากให้คนทั้งหนองทรายขาวเป็นหนี้มัน มันจะได้กดขี่ข่มเหงไปได้นานๆ"

"จะพูดจะจาอะไรระวังซะบ้างสายใจ ป้าคอนใจเสียหมด" ทองกวาวปราม

"โธ่...อีนังลูกสาวเศรษฐี จริงๆแล้วบ้านเอ็งมันก็หน้าเลือด พอกันน่ะแหละวะ รวยนักก็ไปอยู่ตามประสาคนรวยของพวกเอ็ง สิโว้ย"

"น้องสายใจ พูดจาไม่เพราะเลย"

"แล้วใครใช้ให้เอ็งมาแส่ฟัง ไอ้บ้า" สายใจแว้ดใส่น้อย

เสียงคล้าวดังโหวกเหวกมาแต่ไกล  ทุกคนมองไปเห็นคล้าวขี่หลังไอ้ฉ่ำจูงอีแฉะกลับมา  สายใจหน้าคว่ำหน้างอแล้วสะบัดพรืดออกไปทันทีเมื่อได้ยินคล้าวบอกข่าวดี น้อยเข้าใจความรู้สึกสายใจรีบเดินตามมาปลอบ

"น้องสายใจ ไอ้คล้าวมันตัดหนี้จากอาจอมได้ เราน่าจะดีใจกับมันสิถึงจะถูก"

"หมดหนี้แล้ว  อีกหน่อยพี่คล้าวก็ลืมว่ารสชาติความจนมันเป็นยังไง"

"ไอ้คล้าวมันไม่ใช่คนอย่างนั้นหรอกมั้ง"

"อีกหน่อยน้ำพริกปลาร้า ผักบุ้งนา ยอดกระถินก็คงกินไม่เป็นแล้ว ฝีมือกับข้าวอีสายใจมันไม่ประทับใจ เพราะคงมัวไปหลงแกงจืดฝีมือห่วยๆอีทองกวาว"

"ไอ้คล้าวมันไม่กินน้องสายใจก็ทำให้พี่น้อยกินคนเดียวก็ได้นี่จ๊ะ"

สายใจเหมือนไม่ได้ฟัง ตะเบ็งเสียงอย่างเจ็บใจว่า

"เกลียดคนรวย...อีสายใจเกลียดคนรวย"

"น้องสายใจจ๋า ความรักน่ะมันคือการดีใจที่ได้เห็นคนที่เรารักมีความสุขไม่ใช่เหรอ"

"แต่ไม่ใช่ไปมีความสุขกับคนอื่นโว้ย"

"อย่างนั้นก็ไม่เรียกว่าความรักแล้วนะจ๊ะ"

"อย่ามาทำเป็นรู้ดี"

"ไอ้คล้าวมันไม่รักตอบน้องสายใจ ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่จ๊ะ น้องสายใจก็เอาความรักมาทุ่มเทที่พี่น้อยก็ได้ พี่น้อย ยินดีรับเอาไว้เต็มอ้อมใจคนเดียว"

น้อยลงทุนคุกเข่าลงแบบฝรั่ง แต่โดนสายใจชกเข้าเต็ม เบ้าตาถึงกับหงายหลังลงไปคลุกฝุ่น

"ชาตินี้จนตายข้าก็รักคนอย่างเอ็งไม่ลงหรอก ไอ้บ้าหมู่น้อย" ด่าเสร็จสายใจก็กระทืบเท้าปังๆออกไปเลย ปล่อยให้ น้อยร้องโอดโอยอยู่ตรงนั้น

ooooooo

คล้าวเอาควายเข้าคอกก่อนจะถอยออกมาคุยกับ ทองกวาวด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม

"พี่จะไม่มีวันลืมน้ำใจทองกวาววันนี้ พี่สัญญาว่าพี่ จะทุ่มแรงกายแรงใจทั้งหมดที่พี่มี รีบหาเงินมาคืนทองกวาวให้ครบทุกบาททุกสตางค์ให้ได้"

"ไม่ต้องหรอกจ้ะพี่คล้าว"

"ไม่ต้องได้ยังไง พี่เป็นลูกผู้ชายเป็นหัวหน้าครอบครัว ยังไงเรื่องนี้พี่ก็ต้องรับผิดชอบ"

"แทนที่จะหาเงินมาใช้หนี้ รีบหาเงินมาเป็นค่าสินสอดดีกว่ามั้ง"

"ทองกวาว..." คล้าวอื้ออึงไปด้วยความดีใจ ขณะที่ทองกวาวพูดไปแล้วก็เขินอยู่เหมือนกัน

"ใจคอพี่คล้าวจะปล่อยให้ทองกวาวคอยนานแค่ไหนก็ไม่รู้"

"ก็ขึ้นอยู่กับอาก้อนอาทับทิมเขาจะเรียกสินสอดแพงแค่ไหนต่างหาก"

"ถ้าพ่อกับแม่รู้ว่าพี่คล้าวรักทองกวาวมากแค่ไหน เผลอๆ พ่อกับแม่ไม่กล้าเรียกแม้แต่บาทเดียวก็ได้"

"ถึงแกไม่เรียก พี่คล้าวก็จะหามาให้สมหน้าสมตา ไม่ให้ ทองกวาวต้องอายใครหรอก"

"ไม่อายหรอก เพราะอย่างน้อยก็ได้ทั้งตัวแล้วก็หัวใจอยู่แล้วนี่จ๊ะ"

"งั้นพรุ่งนี้พี่จะไปหาอาก้อนอาทับทิมเลยดีไหม" คล้าว จับมือทองกวาวขึ้นมาจะจูบ พลันทองกวาวอุทานขึ้นมาอย่างนึกได้

"ตายแล้ว...ทองกวาวลืมสนิทเลย ทองกวาวต้องรีบกลับบ้านแล้วพี่คล้าว ถ้าพ่อกับแม่จับได้ว่าทองกวาวหนีออกมาต้องโดนดีแน่ๆเลย"

คล้าวอาสาจะไปส่ง แต่ทองกวาวบอกไม่ดีหรอก เธอ กลับเองได้...ว่าแล้วก็รีบวิ่งออกไปโดยมีเสียงคล้าวตะโกนบอกรักไล่หลัง ทองกวาวหันมายิ้มหวานและตะโกนตอบว่าเธอก็รักพี่คล้าวที่สุดในโลกเลย

พอทองกวาวกลับมาถึงบ้านก็เป็นเรื่องทันที เพราะจอมนำเงินทองที่ได้จากคล้าวมาให้พ่อแม่ของเธอดู ทับทิมจำทองของตัวเองได้แม่น จึงเอ็ดตะโรเสียงดังลั่นบ้านด้วยความ โมโหหลังจากพวกจอมกลับไปกันแล้ว

"ยอมรับมาซะดีๆว่าเอาเงินเอาทองไปประเคนไอ้คล้าว มัน แม่จำของแม่ได้ทุกชิ้น ตำหนิตรงไหนแม่ก็จำของแม่ได้หมด"

ทองกวาวก้มหน้านิ่งไม่โต้ตอบ ก้อนเดินพล่านวนรอบทองกวาวด้วยความโกรธ

"ไอ้หมึก ข้าบอกให้เอ็งคอยเฝ้านังทองกวาวเอาไว้  แล้วเอ็งมัวทำอะไรอยู่" ก้อนคาดคั้นหมึก แต่หมึกถูกบุปผาขู่เอาไว้ว่าห้ามพูดอะไรทั้งสิ้น  หมึกกลัวเลยตอบปัดว่าไม่รู้ลูกเดียว  นั่นยิ่งทำให้ก้อนและทับทิมโมโหหาว่าหมึกรู้เห็นเป็นใจกับทองกวาว

"พ่อกับแม่อย่าไปทำอะไรหมึกมันเลย ทองกวาวยอมรับ ก็ได้ว่าเงินกับทองนั่นน่ะทองกวาวเอาไปให้พี่คล้าวไถ่หนี้กับ ลุงจอมจริงๆ"

ขาดคำของทองกวาว ทับทิมทำท่าจะเป็นลมเสียให้ได้ ก้อนก็บ่นอยากตาย ลูกหนอลูกจะทำอะไรทำไมไม่มีความคิด รู้ไหมว่าทองพวกนั้นมันแพงแค่ไหน ชาตินี้จะมีปัญญาหามาอีกได้รึเปล่าก็ไม่รู้

"มันก็แค่สมบัตินอกกายนะจ๊ะ"

"โอย...ทำไมหน้ามืดตาบอดยังงี้ลูกสาวฉัน"

"ก็ทองกวาวรักพี่คล้าวนี่จ๊ะ คนเรารักกันก็ต้องช่วยเหลือประคับประคองกันในยามทุกข์ไม่ใช่เหรอจ๊ะแม่"

ทับทิมฟังแล้วอุทานว่าอกอีแป้นจะแตกตาย หมึกแปลกใจถามว่าบ้านเรามีคนชื่อแป้นด้วยหรือ แต่ทันใดหมึกก็ต้องปิดปากเงียบเพราะทับทิมจะเอามะพร้าวยัดปาก เพชรก็ขัดใจพี่สาวที่เอาเงินทองไปให้คล้าวฟรีๆ

"ไอ้หมึก เอ็งไปหาไม้ไผ่ลำพอดีๆมือมาเดี๋ยวนี้ ข้าต้องการไม้เรียว" ก้อนสั่งเฉียบ

บุปผาเสียวสันหลังวาบ มองทองกวาวด้วยความสงสาร แต่ทองกวาวไม่แสดงท่าทีหวาดกลัว กลับลุกขึ้นยืนกอดอกเตรียมตัวรับการลงโทษ

"ตั้งแต่เป็นพ่อลูกกันมา พ่อไม่เคยผิดหวังในตัวเอ็ง เท่าครั้งนี้เลยทองกวาว"

"ก็เมื่อเช้าแม่บอกทองกวาวเองว่าทองพวกนั้นน่ะยกให้ทองกวาว มันเป็นของทองกวาวแล้ว ทองกวาวจะเอาไปทำอะไรก็ได้ไม่ใช่เหรอจ๊ะ"

"แต่ไม่ใช่เอาไปให้ไอ้คล้าวมันอย่างนี้ ลูกนะลูกทำอะไร ไม่รู้จักคิด น่าอับอายขายขี้หน้าที่สุด รู้ไปถึงไหนอายเขาไปถึงนั้น ว่าเสียรู้ไอ้คล้าวมัน"

"ทองกวาวเต็มใจให้พี่คล้าวเอง พี่คล้าวไม่ได้ขอร้องให้ ทองกวาวช่วยด้วยซ้ำไป"

"ไม้มาแล้วจ้ะลุงก้อน" หมึกหอบไม้ไผ่หลายขนาดตั้งแต่ใหญ่เป็นกระบอกข้าวหลามยันเล็กเท่าก้านมะยมขึ้นมา... ก้อนโกรธลูกสาวจนหน้ามืดคว้าเอาไม้ไผ่ลำใหญ่สุด

"พ่อจะตีเอ็งวันนี้ให้เอ็งจำเอาไว้ว่าเอ็งต้องรู้จักรักศักดิ์ศรี ยิ่งเป็นลูกผู้หญิงยิ่งต้องหวงแหน"

"หนูพูดทุกอย่างหมดแล้ว พ่ออยากจะตีก็ตีเถอะจ้ะ"

ก้อนเงื้อไม้สุดแขนโดยไม่ทันดูไม้ในมือ บุปผากับเพชรปิดตาอย่างสยอง ทับทิมตกใจท้วงก้อนว่าไม้มันใหญ่ไปมั้ง ตีแค่ให้เข็ดหลาบไม่ใช่ให้ตาย ก้อนเลยเบิ่งตาดู แล้วก็เอ็ดหมึกให้เอาอันใหม่มา คราวนี้จึงได้ไม้เรียวที่ถนัดมือหน่อย

"พ่อตีเอ็งให้เจ็บวันนี้เอ็งจะได้จำว่าพ่อสั่งห้ามไม่ให้ไปคบค้ากับไอ้คล้าวมันอีก"

"พ่อห้ามทองกวาวไม่ได้หรอกจ้ะ เพราะทองกวาวกับ พี่คล้าวเรารักกัน"

ก้อนเงื้อไม้สุดแขนด้วยความโกรธที่ได้ยินคำนั้น แต่ ไม่ทันจะฟาดลงมา ทับทิมก็ท้วงอีกว่า ระวังอย่าให้โดนขาโดนน่องลูก เดี๋ยวเนื้อแตกเป็นแผลเป็นขึ้นมาขาลูกจะไม่สวย ก้อนเลยเขวี้ยงไม้ทิ้งแล้วสั่งหมึกให้เอาไม้อันใหม่มา  หมึกชักเอือมแต่ก็ส่งไม้เล็กเรียวเท่าก้านมะยมให้ไป

"พ่อจะตีเอ็งจนกว่าเอ็งจะเลิกรักไอ้บ้านั่น มันจน จนแทบไม่มีจะกิน เอ็งไปรักมันลงได้ยังไงทองกวาว"

"จนรวยสำคัญด้วยเหรอจ๊ะพ่อ"

"สำคัญสิโว้ย เอ็งไปเป็นเมียมัน เอ็งก็ต้องกัดก้อนเกลือ กินไปจนตายน่ะแหละ"

"ก่อนเราจะพอมีพอกินอย่างวันนี้ พ่อเองก็เคยจนมาก่อน ไม่ใช่เหรอจ๊ะ"

ก้อนชะงักกึก แต่ยังดันทุรังเงื้อง่าจะตี "ก็เพราะข้ารู้ รสชาติความจนมาแล้วน่ะสิวะ ข้าถึงไม่อยากให้เอ็งต้องลำบากเหมือนพ่อกับแม่"

แต่แล้วก้อนก็เงื้อง่าหลายตลบ จนสุดท้ายตัดสินใจหักไม้เรียวในมือทิ้งจนแหลกคามือ

"อย่าคิดว่าเอ็งชนะพ่อกับแม่นะโว้ยทองกวาว ถ้าเอ็งไปนอนคิดให้ดีๆ  เอ็งจะรู้ว่าพ่อกับแม่รักแล้วก็เป็นห่วงเอ็งขนาดไหน แล้วถ้าเอ็งยังไม่เลิกกับไอ้คล้าว อย่าหาว่าพ่อไม่เตือน" ว่าแล้วก้อนเดินปังๆ หน้าบูดออกไป บุปผาโล่งอก ทับทิมมองทองกวาวอย่างผิดหวังก่อนจะเดินออกไปอีกคน

ooooooo

ที่ร้านลมโชยเกศา แว่น ตี๋และไข่กำลังดีใจกับ คล้าวหลังฟังข่าวดีว่าคล้าวปลดหนี้กับจอมไปแล้วด้วยเงินทองของทองกวาว ทุกคนดีใจและอิจฉาคล้าวที่หล่อ แล้วยังมีแฟนสวยแถมรักจริง แว่นคิดไปคิดมาอยากจะ ไปกู้เงินจอมบ้าง  เพื่อลองใจบุปผาว่าจะมีน้ำใจแอบมา ช่วยเหลือตนอย่างทองกวาวรึเปล่า

"อย่าเชียวนะไอ้แว่น เอ็งเชื่อข้าเหอะ คนที่รวยที่สุดน่ะ คือคนที่ไม่เป็นหนี้ใคร ไม่ต้องมีเงินมากมายก่ายกองก็มีความสุข ที่สุดแล้ว"

"งั้นคนที่มีความสุขที่สุดอย่างเอ็งตอนนี้ก็เหลือแต่ได้ แต่งงานกับทองกวาวมันน่ะสิวะ"

"ก็...ทำนองนั้นแหละ" คล้าวตอบเขินๆ

"งั้นวันนี้ก็ต้องฉลองกันหน่อย" แว่นดี๊ด๊า คล้าวรีบดักคอว่าไม่กินเหล้าเมายา ต้องทำเรื่องดีๆ ทำบุญทำกุศลจะ สุขใจกว่า แว่นเลยวิ่งออกไปตะโกนหน้าร้านว่าวันนี้วันดี ลมโชย เกศาตัดผมฟรี...พูดจบก็วิ่งกลับเข้าร้านมาบอกคล้าวว่า "เอ็งเห็นไหม บางทีก็ไม่มีใครอยากได้สิ่งดีๆที่เราจะทำให้หรอกว่ะ"

แต่พอแว่นหันไปทางหน้าร้าน ปรากฏว่าชาวบ้านวิ่งมากันมืดฟ้ามัวดิน กรูกันเข้ามาในร้านเพื่อแย่งกันตัดผมฟรีจนร้านแทบพัง ทั้งแว่น ตี๋และไข่ตกใจหาที่หลบแทบไม่ทัน คล้าวถึงกับหัวเราะอารมณ์ดี ขณะเดียวกันนี้ ก้อนและทับทิมนั่งกุมขมับอยู่บนบ้าน ทั้งโกรธทั้งเจ็บใจที่ทองกวาวนำเงินทองไปให้คล้าวปลดหนี้ แล้วยังมีหน้ามาเถียงฉอดๆ

"เฮ้อ...เราจะทำยังไงกันดีล่ะพี่ ฉันไม่เอาคนอย่างไอ้คล้าวมาเป็นลูกเขยหรอกนะ"

"ฉันก็ไม่เอาเหมือนกันแม่ทับทิม ลูกสาวเรามันสวยจนนางงามยังชิดซ้าย จะได้ผัวทั้งทีมันก็ต้องได้ที่มันมาเสริมบารมีพ่อแม่อย่างเราด้วยสิวะ ไม่ใช่แค่ไอ้ชาวนากระจอกๆอย่างไอ้คล้าว"

"ทั้งหนองทรายขาวนี่ ที่ดูดีเหมาะเจาะกับทองกวาวมันฉันก็เห็นมีแต่พ่อเจิดคนเดียว"

"แม่ทับทิม...แม่ทับทิมเคยทำอะไรที่แม่ทับทิมว่าน่าอับอายขายขี้หน้าที่สุดในชีวิตบ้าง"

"ก็มีอยู่ครั้งเดียวตอนผ้านุ่งหลุดกลางตลาดเมื่อสามปี ก่อนไง พี่จำไม่ได้รึไง"

"อืม...จำได้ ผ้านุ่งลงไปกองที่เท้าเลยนะ"

"ตั้งแต่นั้นฉันไม่กล้าเดินตลาดมาอีกเป็นปี"

"แล้วแม่ทับทิมว่า ถ้าเราเป็นฝ่ายยกขันหมากไปขอพ่อเจิดให้มาแต่งงานกับทองกวาวมัน...มันจะน่าอายน้อยกว่าไหม"

"ฉันก็คงต้องเอาปี๊บคลุมหัวเวลาไปไหนมาไหนน่ะแหละ มันน่าอายน้อยกว่ากันเมื่อไร"

"คิดไม่ออกโว้ย...กลุ้มโว้ย"

"แทนที่เราทำยังงั้น ทำไมเราไม่ไปคุยกับพ่อจอมเขาใหม่ ให้เขายกขันหมากมาหาเราเองไม่ดีกว่าเหรอ คิดค่าสินสอดถูกๆ ทำไมเขาจะไม่อยากได้นังทองกวาวมันไปเป็นสะใภ้"

"เออ จริงๆด้วยนะ ของถูกใครๆก็อยากได้ แม่ทับทิมนี่หัวแหลมดีจริงๆ" ก้อนค่อยชื่นมื่นขึ้นมาได้บ้างกับแผนการใหม่

ooooooo

เพราะเมาแอ๋เข้ามากร่างในบ่อนไฮโลของจอม มิ่งก็เลยโดนสมุนเฝ้าบ่อนจับโยนออกไปอย่างไม่ปรานี แล้วมิ่งยังเดินไปตกท้องร่องเกือบจมน้ำตายถ้าไม่ได้ เชนกระโดดลงมาช่วย แต่พอเชนพามิ่งไปส่งถึงบ้าน กลับถูกมิ่งโวยวายด่าทอว่าแส่ไม่เข้าเรื่อง แทนที่จะช่วย เหล้าของตนไม่ให้จมน้ำ กลับมาช่วยคนที่ว่ายน้ำเป็น

สายใจเบื่อหน่ายความขี้เมาพ่อเหลือกำลังจึงบ่นว่าพ่อไปหลายคำ ดวงใจปรามพี่สาวแล้วรีบตามไปขอบคุณเชนที่ช่วยชีวิตพ่อเธอไว้ และตอบแทนความดีของเขาด้วยการชวนเขาอยู่ทำงานที่บ้านของเธอ ซึ่งค่าจ้างค่าแรงมีให้ไม่มาก แต่มีที่อยู่ที่กินพอแบ่งปันกันได้...คนพเนจรอย่างเชนมีหรือจะปฏิเสธน้ำใจของเธอ เขาดีใจมากถึงกับทรุดลงนั่งยกมือไหว้เธอท่วมหัว แล้วยิ่งเป็นปลื้มชื่นชมเธอไปกันใหญ่ เมื่อเธอหอบมุ้ง หมอนและผ้าห่มลงมาให้ถึงกระต๊อบ โดยไม่ฟังเสียงทัดทานของพี่สาวที่กลัวว่าเชนจะเป็นพวกโจรหนีคดีมา

เชนเล่าชีวิตอันรันทดของตนให้ดวงใจฟังว่า แต่ก่อนที่บ้านทำนา แต่นาแล้งและล่มหลายปีพ่อแม่จึงขายทิ้งแล้วรับจ้างเขาทั่วไป พอพ่อแม่ตายจาก ตนเหลือตัวคนเดียว ไม่มีภาระอะไรก็เลยเดินทางไปเรื่อยๆ ที่ไหนมีงานให้ทำก็อยู่นานหน่อย ดวงใจฟังแล้วยิ่งสงสาร ไม่รู้จะถามอะไรมากไปกว่านี้ ได้แต่บอกให้เชนพักผ่อน พรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้า

ทางด้านก้อนและทับทิมหลังคิดแผนการใหม่ใสปิ๊งขึ้นมาได้ ทั้งคู่ไม่รอช้าแต่งตัวออกจากบ้านในเย็นวันนี้เลย โดยไม่ลืมกำชับเพชรให้คอยเฝ้าทองกวาวกับบุปผาไว้ให้ดี คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า

ครั้นสองพ่อลูกผู้มีอันจะกินที่สุดในหนองทรายขาวได้ยินธุระของก้อนและทับทิมกับหูว่าอยากให้ทองกวาวได้แต่งงานกับเจิด มีหรือทั้งคู่จะปฏิเสธ โดยเฉพาะเจิดนั้นดีใจแทบจะกระโดดโลดเต้น ขณะที่สองผัวเมียออกจะเขินๆอยู่เหมือนกันที่เป็นฝ่ายมาเอ่ยปากยกลูกสาวให้ฝ่ายชาย

ค่ำลงพากันกลับมากินข้าวที่บ้าน ปรากฏว่ากับข้าวมีแต่ผักบุ้ง ไม่มีเนื้อสัตว์หรือแม้แต่ไข่ ก้อนและทับทิมเอ็ดลูกหลานเป็นการใหญ่ แต่พอทั้งคู่ย้อนว่าใครล่ะห้ามไม่ให้ออกไปข้างนอก กับข้าวก็เลยมีแต่ผักบุ้งแบบนี้แหละ สองผัวเมียจ๋อยไปทันที แล้วบอกเพชรที่โวยวายให้กินๆเข้าไปเถอะ พรุ่งนี้ค่อยให้บุปผาไปตลาด แต่ทองกวาวไม่ต้องไป ถ้าบุปผาจะเอาเพชรไปเป็นเพื่อนด้วยก็ได้

หลังอาหารมื้อนี้ พ่อแม่เรียกทองกวาวมาคุยเป็นการส่วนตัว แต่บุปผาก็ยังอุตส่าห์ป้วนเปี้ยนอยากรู้อยากฟัง พอได้ยินชัดว่าลุงกับป้ายกทองกวาวให้เจิด และทางโน้นกำลังหาฤกษ์มาสู่ขอ ทั้งบุปผาและทองกวาวต่างก็ช็อกไปด้วยกัน

ฝ่ายคล้าวคนรักของทองกวาว เขากำลังคิดอ่านสร้างเนื้อสร้างตัวและคาดหวังว่าอีกไม่นานต้องได้แต่งงานกับทองกวาว แต่คล้าวหารู้ไม่ว่ายามนี้ทองกวาวกำลังรำพึงรำพันร่ำไห้เสียใจอยู่ในห้อง หลังฟังข่าวร้ายจากปากพ่อกับแม่มาหยกๆ

"พ่อกับแม่ทำอย่างนี้ได้ยังไง ไม่ถามทองกวาวซักคำว่ายินยอมพร้อมใจรึเปล่า บังคับจิตใจกันอย่างนี้ คอยดูทองกวาวจะหนีออกจากบ้าน ให้ตายซะดีกว่ายอมแต่งงานกับผู้ชายอย่างไอ้เจิด"

"ใจเย็นๆเถอะทองกวาว ลุงกับป้าแกคงโกรธที่ทองกวาวไปช่วยพี่คล้าว" บุปผาปลอบ

"โกรธแล้วจะมาบังคับจิตใจกันอย่างนี้มันถูกแล้วเหรอ ชาตินี้ทองกวาวจะไม่ขอรักใครนอกจากพี่คล้าวคนเดียว"

"ใช่แล้วละ เราต้องรีบส่งข่าวให้พี่คล้าวรู้ พี่คล้าวจะได้รีบชิงยกขันหมากมาตัดหน้าไอ้เจิดมัน"

"แล้วจะส่งข่าวยังไงบุปผา ทุกวันนี้ทั้งไอ้เพชร ไอ้หมึกคุมเราแจจนขยับไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว"

"เอาเถอะน่า เรื่องนี้บุปผาจัดการเอง"

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น