หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

เงากามเทพ ตอนที่ 7

ตอนที่ 7

โรมจับข้อศอกเทียนพาเดินไปหากลุ่มพวกเศรษฐี นักธุรกิจ มนทิรากับกิ่งมองตาม กิ่งยังติดใจความสวย ของเทียนไม่หายพูดกับมนทิราต่ออีกว่า

"เด็กคนนี้เสน่ห์แรงจริงๆ ดูสิทำท่าทางเกาะติดคุณโรม ของเธออย่างกับลูกลิงเลย น่ารักน่าเอ็นดูยังงี้ คุณโรมจะรอดหรือ?"

"เชอะ...ฉันจะบอกเรื่องลึกๆให้เธอรู้เกี่ยวกับเด็กเทียนนี่ ฉันได้ข่าวจากวงในจากบ้านของโรมมาเลยว่า จริงๆแล้วเด็ก เทียนนี่ไม่ใช่ไฮโซมาแต่ไหนหรอกย่ะ โรมไปขุดเอามาจากที่ไหนก็ไม่รู้แล้วเอามาใส่ตะกร้าล้างน้ำชุบตัวใหม่"

"หา...เธอว่ายังไงนะ หมายความว่าเด็กนี่เป็น...เอ้อ... พวกหาเงินเหรอ" กิ่งตาโต

มนทิราทำท่าสะอิดสะเอียน "ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแหละ แต่ที่แน่ๆที่มาเกาะติดโรมอยู่อย่างนี้ก็เพราะเงินตัวเดียว ลองดูซิถ้าใครมีเงินมีทองมากกว่าโรมมาให้ความหวังเมื่อไหร่ เด็กเทียนนี่ก็จะเปลี่ยนที่เกาะใหม่ทันที"

กิ่งชี้หน้ามนทิรา "ถ้าอย่างนั้นแผนที่เธอเชิญคุณกมลทัต มาในงานฉันวันนี้ก็เพื่อวัดใจ ทั้งโรมและกมลทัต และก็เด็ก เทียนนี่เอง ร้ายนะยายมน ยิงปืนนัดเดียวได้นกตั้งสามตัว"

มนทิรายักไหล่ใส่เพื่อนแบบว่าไม่แคร์ เพราะเหลือบไปเห็นกมลทัตกำลังเดินนำกุลชาติและพิศเพลินเข้ามาในงาน ตอนนี้กุลชาติใส่ชุดสูทผูกไทดูเรียบร้อยขึ้น กมลทัตเดินเข้าไปในกลุ่มพวกเศรษฐี จับมือคนนั้นโอบไหล่คนนี้ทักทายเสียงดัง ไปทั่วห้อง

"สวัสดีๆ คุณการน แหมเล่นช้อนหุ้นดาวเทียมซะรวยไปเลยนะ ผมละอิจฉาจริงๆ...อ้าว...คุณนุกูล ได้ข่าวจะลงเลือกตั้งเหรอครับ เลือกได้ดีนะครับพรรคนี้ เพราะไม่ค่อยได้เป็นฝ่ายค้านเท่าไหร่"

กุลชาติมองท่าทางพ่อแล้วเบ้หน้า พิศเพลินดุนหลังลูกชายให้ไปอยู่ใกล้ๆพ่อเพื่อจะได้รู้จักพวกผู้หลักผู้ใหญ่ไว้ แต่กุลชาติบ่นพึม "เดี๋ยวชาติก็โดนอีกหรอก เมื่อกี้ก็ดึงหู คราวนี้ อาจจะดีดลูกกะตาก็ได้  ป๋าไม่มีเหตุผล  ดูชุดชาติสิแม่  โคตรแก่เลย นี่ถ้าเพื่อนๆมาเห็นชาติต้องโดนล้อแน่...ชาติอยากกลับบ้านมากกว่าแม่"

พิศเพลินไม่ฟังเสียงพาลูกมายืนข้างกมลทัตจนได้ พิศเพลินยกมือไหว้คนที่รู้จักมาก่อนแล้ว กุลชาติเลยไหว้ตาม นายการนรับไหว้แล้วทักทายอย่างอารมณ์ดี "คุณพิศเพลินกับ ลูกชายนี่เอง เอ๊ะ พ่อหนุ่มทำไมหูแดงๆโดนตัวอะไรกัดเอาล่ะ"

กุลชาติรีบยกมือปิดใบหู  ยังไม่รู้ว่าจะตอบหรือไม่ตอบดี กิ่งกับมนทิราก็เดินเข้ามาทักทายยกมือไหว้กมลทัต

"เพิ่งมาถึงเหรอคะคุณกมลทัต มนมองหาแทบตายนึกว่าจะเบี้ยวซะแล้ว"

กมลทัตฉีกยิ้มหวานจ๋อย "แหมงานอย่างนี้จะพลาดได้ยังไงล่ะครับ ได้เจอกับคนกันเองทั้งนั้น ต้องขอโทษที่ มาสาย พอดีมีประชุมด่วนที่บริษัทครับ"

กิ่งยิ้มหวานตอบ "เชิญตามสบายนะคะ" ฉุดมือมนทิรา ให้ออกไปด้วยกัน

ooooooo

ที่ระเบียงดาดฟ้าของคอนโดฯ โรมยืนอยู่กับเทียน ชี้ให้เทียนดูพลางบอกว่า ถ้าเราเป็นเจ้าของห้องชุดของ โครงการนี้ เราก็จะเห็นวิวทิวทัศน์แบบนี้ทุกคืน และถามเทียนว่าเธอชอบหรือเปล่า

เทียนส่ายหน้า "อยู่บ้านนายหัวเทียนก็สบายแล้ว มองไปทางไหนสวยเหมือนกัน ให้เทียนไปอยู่ที่หรูหราขนาดไหน ถ้าไม่มีนายหัวเทียนก็ไม่อยู่หรอกค่ะ"

คำพูดของเทียนทำให้เขามองดูหน้าเธออย่างซาบซึ้ง แล้วอยู่ๆมนทิราก็โผล่เข้ามาบอกกับโรมว่าแขกคนหนึ่งถามถึงอยากเจอ โรมจึงบอกเทียนว่าเดี๋ยวเขาจะกลับมา มนทิราฉวยแขนโรมเดินออกไป มันช่างจะเป็นการบังเอิญอะไรซะขนาดนั้น กลุ่มของพวกภาณุเดินเข้ามาทันทีพร้อมกับถาดแชมเปญ ไวน์และจานใส่ของแกล้มเพียบ เขาร้องทักว่าเทียนมาอยู่นี่เอง  ได้ข่าวว่ามากับคุณโรมเห็นพี่มนกับพี่กิ่งบอก มาๆ แจมกันจะได้ไม่เหงา  ทั้งกลุ่มกลุ้มรุมกันชวนให้กินนั่นกินนี่ เทียนไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่เลยบอกว่าจะออกไปหากินเอง  เด็กสาวในกลุ่มคนหนึ่งแซวว่า

"วันนี้เขาไม่มีโอเลี้ยง เอ๊ย กาแฟดำหรอกนะเทียน"

อีกคนทำเสียงเป็นรู้ดีว่า "ตอนอยู่เมืองนอกเทียนคงเบื่อของพวกนี้แล้วละพวกเรา ภาณุเทกแคร์เทียนหน่อย ไปขอไข่ปิ้ง แมลงทอด โอเลี้ยงยกล้อมาเสิร์ฟเทียนเขาหน่อยไป๊"

เทียนฟังแล้วชักโมโหเพราะรู้ว่าพวกนั้นเยาะเย้ยเธอ ฮึดขึ้นคว้าแก้วไวน์มาถือในมือบอกว่าไม่ต้องกินนี่ก็ได้ พอภาณุยกแก้วไวน์ขึ้นมาชู เทียนก็ชูด้วยแบบที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีแล้ว แถมร้องเชียร์สเสียอีกพลางยกขึ้นดื่ม พวกภาณุมองหน้ากัน ต่างคิดว่า ก็โอเคนี่ ไม่เห็นบ้านนอกอย่างที่พี่กิ่ง เม้าท์เลย ส่วนเทียนเมื่อดื่มแล้วก็เลยเพลินซัดเข้าไปหลายแก้ว แถมคุยกับพวกนั้นว่า

"ตอนอยู่ที่นิวยอร์ก แดดดี้ กะมามี้ชอบจัดปาร์ตี้บ่อยๆ โอ๊ยแดนซ์กันกระจายจนถึงเช้า"

ภาณุตื่นเต้น "จริงเหรอ แหมแบบนี้เทียนก็เท้าไฟน่ะซิ ถนัดสไตล์ไหนล่ะ บอลรูม แจ๊สแดนซ์ สตรีทแดนซ์ เรกเก้ หรือแร็พ"

"โอ๊ย พวกนั้นน่ะเด็กๆ มันต้องแดนซ์ไทยๆสไตล์รำวง งานปีใหม่มันสุดๆ ปี๊ดละบาทเอง หมดรอบเป่าปี๊ด" เทียน ร้องเพลงสาวรำวงและรำเฉิบๆแบบท่าพวกจิ๊กโก๋ พวกหนุ่มสาว ไฮโซหน้าตาตื่น แต่เทียนไม่สนใครทั้งนั้น พอหมุนตัวอีกที ก็เซแซ่ดๆเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนกุลชาติที่เดินมาถึงตรงนั้นพอดี พอเห็นว่าเป็นใครกุลชาติก็ดีใจแทบดิ้น

"แคนเดิล น้องแคน ดีใจจังเลย ไม่คิดเลยนะเนี่ยว่าจะได้เจอ เชื่อมั้ยชาติคิดถึงแคนตลอดเวลาเลย" พวกกลุ่มภาณุ งงถามกันว่าทำไมสองคนนี้รู้จักกัน กุลชาติกร่างทันที

"นี่พวกนายไปห่างๆน้องแคนเลย ไม่งั้นสวยแน่ นี่มัน แฟนฉันโว้ย"

เทียนชะงักกึก "ปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้"

กุลชาติยิ่งกอดแน่นขึ้นอีก เทียนตั้งหลักแล้วง้างศอก กลับไปด้านหลังตีเข้าเต็มแสกหน้า กุลชาติร้องโอ๊ย ปล่อยมือจากเทียนทันที เทียนคว้าถาดเปล่าใส่อาหารตีหัวแถมให้อีกที กุลชาติ ร่วงลงไปกองกับพื้น มือไปปัดข้าวของบนโต๊ะตกแตกกระจาย พวกนักข่าวได้ยินเสียงวิ่งมาถ่ายรูปทันที เทียนประกาศเสียงกร้าว"

"คนหน้าด้านอย่างแก ต้องเจอแบบนี้"

กมลทัตกับพิศเพลินแหวกผู้คนเข้าไปพอเห็นกุลชาติกอง อยู่กับพื้น พิศเพลินรีบเข้าไปพยุง กมลทัตถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขากวาดตามองไปเจอเทียนจึงเรียกชื่อออกมา เทียนยังทำท่าก๋ากั่นตอบว่า

"ใช่ ฉันเอง ที่สั่งสอนนายชาติชั่วนี่ เพราะพ่อแม่อย่างคุณไม่สั่งสอนมัน" เทียนชี้ไปที่กุลชาติที่พิศเพลินกำลังกอดอยู่สำทับซ้ำว่า "บอกลูกชายคุณอย่ามาตอแยวุ่นวายกับฉันอีก ไม่อย่างนั้นจะเจ็บกว่านี้"

มนทิรากับโรมแหวกคนเข้ามาร้องถามว่า "เกิดเรื่องอะไรกันเหรอคะเนี่ย"

"ไม่มี้...แค่เด็กๆเข้าใจผิดกันนิดหน่อยน่ะ"

"เด็กเดิกอะไร โตจะเป็นวัวเป็นควายแล้วยังไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีอีก" เทียนทำท่าจะด่าอีก แต่โรมเข้ามาดึงแขนถามดื่มของมึนเมาอีกแล้วเหรอ เทียนปฏิเสธว่านิดหน่อยเท่านั้นเองไม่เชื่อให้ถามพวกภาณุดูก็ได้ แต่ว่าไม่มีใครเหลืออยู่สักคน พวกนกรู้เหล่านั้นกระจายตัวกันไปหมดแล้ว โรมลากเทียนไปจากตรงนั้น พวกนักข่าวถามกมลทัต แต่เขาตอบสีหน้ายิ้มๆว่า

"ปัญหาหนุ่มสาวน่ะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่" พวกนักข่าวถามว่าสองคนเป็นแฟนกันหรือ กมลทัตยิ่งยิ้มเข้าไปอีก "ใจเย็นๆนะ มันยังไม่ถึงเวลา รออีกเดี๋ยวเดียวจะได้รู้กันแล้วว่าเป็นอะไรกันแน่"

ooooooo

มนทิราฉุดโรมเอาไว้เมื่อเขาบอกว่าจะพาเทียนกลับบ้าน บอกว่าตอนนี้กิ่งกำลังจะประกาศสรุปงานแล้วขอให้อยู่ต่ออีกเดี๋ยว พาโรมกับเทียนเข้าไปในห้องโถง ที่นั่นกิ่งยืนอยู่บนโพเดียม กำลังพูดขอบคุณแขกผ่านไมค์ที่ถืออยู่

"ขอบคุณมากนะคะแขกทุกๆท่านที่มาร่วมงานเปิดตัวคอนโดฯของกิ่งครั้งนี้ ขอแจ้งข่าวดีว่าตอนนี้ยอดจองพุ่งขึ้นเกินกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว และสำหรับห้องชุดวิวสวยที่สุดของโครงการราคายี่สิบห้าล้านบาทนั้นมีหลายท่านได้ แสดงความจำนงเอาไว้ ซึ่งทางโครงการของเราจะแบ่งรายได้ 5 เปอร์เซ็นต์ของห้องชุดนี้ไปทำบุญให้กับเด็กกำพร้าไร้บ้าน แต่เงื่อนไขคือต้องวางเงินครึ่งหนึ่งของราคาภายในคืนนี้ค่ะ"

กมลทัตเดินขึ้นไปทันที รับไมค์จากกิ่งมาจ่อปากพูดว่า "ต้องขอโทษทุกคนนะครับ เพื่อไม่ต้องใช้เวลามาก ผมซื้อห้องชุดห้องนี้เดี๋ยวนี้เลย และขอจ่ายเงินตามเงื่อนไขด้วยครับ" เขายื่นเช็คให้กิ่งแล้วพูดต่อ "สิบสองล้านห้าแสนบาทถ้วนครับ ที่ต้องรีบร้อนขนาดนี้ก็เพราะห้องชุดนี้คือของหมั้นระหว่างกุลชาติลูกชายผม กับหนูเทียนเด็กในปกครองของคุณโรม ภคนันทน์"

เสียงตบมือดังลั่นจากพวกเศรษฐีนักธุรกิจ มนทิรากับกิ่งดีใจจนเนื้อเต้น เสียงตบมือดังลั่นห้องกลบเสียงตะโกนท้วงของเทียน "ไม่จริง โกหก" โรมจับไหล่เทียนบีบเบาๆก่อนจะขึ้นไปบนเวที รับไมค์จากกิ่งมากรอกเสียงลงไปว่า

"ก่อนอื่นขอขอบคุณคุณกมลทัตที่ให้เกียรติผมกับเทียนในการอยากร่วมเป็นทองแผ่นเดียวกัน แล้วก็ขออนุโมทนาที่คุณกมลทัตได้ทำบุญให้กับเด็กกำพร้าไร้บ้าน ซึ่งน่าจะบรรเทา บาปที่คุณกมลทัตได้เคยสร้างเอาไว้ไม่มากก็น้อย...ส่วนเรื่องการหมั้นหมายนั้น เนื่องจากเทียนเป็นลูกผู้ดีมีสกุลที่ได้ฝากฝังให้ผมดูแล จะมีคู่หมั้นทั้งทีผมคงต้องพิถีพิถันสักหน่อย พวกหน้าฉากดีแต่หลังฉากเน่าผมคงรับไม่ได้ ผมขอซื้อห้องชุดให้ เทียนในราคาเดียวกันครับ และขอบริจาคให้เด็กกำพร้าไร้บ้านอีกห้าแสนบาทครับ" โรมดึงเช็คของกมลทัตในมือของกิ่งไปฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แล้วส่งเช็คของเขาให้แทน กิ่งกับมนทิราอ้าปากตาค้าง ส่วนกมลทัตก้าวลงจากเวทีไปอย่างโมโหโทโส มนทิราวิ่งตามออกไปข้างนอก บอกกับกมลทัตว่าเธอไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องเป็นยังงี้ไปได้ กมลทัตตอบว่า

"ผมเองก็ไม่นึกว่าโรมจะทุ่มเทเพื่อเด็กคนนี้แบบนี้เหมือนกัน ยกนี้เราแพ้ทั้งคู่...แต่ไม่ต้องกลัวหรอก ถ้าเราไม่ยอมแพ้ซะอย่าง ขอแต่ให้คุณรักนายโรมจริงๆก็แล้วกัน เพราะบางทีได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง"

มนทิราเดินตามไป   ถามว่า   "ถามจริงๆเถอะค่ะคุณ กมลทัต คุณอยากแย่งเทียนไปจากโรมเพื่อแก้แค้นเรื่องราวส่วนตัวในอดีตใช่มั้ย?"

กมลทัตยิ้มเยาะคำถามของมนทิราที่มุมปาก "โธ่คุณมน ผมน่ะอโหสิให้เขานานแล้ว ถ้าต่อไปนี้โรมต้องเจออะไรร้ายๆ ก็เพราะความอับโชคของเขาเองน่ะแหละ"

ส่วนโรมตอบคำถามของเทียนเรื่องที่เขาต้องจ่ายเงินมากมายซื้อคอนโดฯให้เธอ เพราะมันหมดเปลืองมากไปว่า "นี่เธอคิดว่าคนอย่างฉันกระจอกงอกง่อยเทียบกับไอ้กมลทัตมันไม่ได้หรือไง เห็นมันรวยกว่าดีกว่าฉันเหรอ" เทียนหน้าม่อยเพราะถูกดุ ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อก็มีคนโทรศัพท์หาโรมเข้ามา โรมรับแล้วสีหน้าเครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด "อะไรนะ พูดช้าๆชัดๆอีกทีซิ ผมฟังไม่ทัน มีปัญหาอะไร...สินค้าถูกวางยาค่าเสียหายประมาณเท่าไหร่...งั้นผมจะไปคืนนี้เลย..." โรมปิดโทรศัพท์ดึงแขนเทียนบอกว่าให้กลับบ้านเดี๋ยวนี้

โรมกลับถึงบ้านบอกให้เทียนลงจากรถ ตัวเขามีธุระด่วนต้องไปชุมพร เทียนขอไปเป็นเพื่อนแต่โรมไม่ยอม เทียนถามว่าที่โรงงานมีเรื่องหรือ โรมไม่ตอบขับรถออกไปทันที

เทียนเข้าบ้านเจอลักษมนคอยอยู่ เขาถามถึงโรม เทียนบอกว่า "กลับชุมพรไปแล้วที่นั่นเกิดเรื่องอีกแล้วล่ะค่ะ น่าจะร้ายแรงด้วย ดูนายหัวเครียดน่าดูเลย"
ส่วนทางด้านกมลทัตที่กลับบ้านด้วยความโกรธ ยิ่งพิศเพลินถามว่าเขาทำแบบนี้เพราะต้องการจะชนะโรมหรือ กมลทัตปฏิเสธว่าเขาทำเพื่อลูกเพราะกุลชาติชอบเทียน พิศเพลินจึงแย้งว่ามันเป็นไปไม่ได้เพราะนภายังเป็นปัญหาชิ้นใหญ่ของกุลชาติ กมลทัตเลยบอกว่าเขาแก้ปัญหาให้กุลชาติได้หมดแล้วและนภาก็เข้าใจดี โดยเขาไม่ได้บอกพิศเพลินว่าเขาสั่งฆ่านภาไปแล้ว

ooooooo

โรมไปถึงชุมพร หัวหน้าคนงานพาพวกยามมาพบ เล่าเรื่องให้ฟังว่าพวกเขาถูกนายแม้นหลอกให้ กินเหล้าและวางยาจนไม่ได้สติ และแม้นก็เอายาพิษไปใส่ในถังใหญ่ของโรงงาน แต่ว่าตอนนี้ไม่เห็นหน้าแม้นมาหลายวันแล้ว โรมจึงไปที่บ้านนายแม้น แต่ช้าไป เพราะแม้นที่กำลังจะหนีกลับบ้านที่ต่างจังหวัดถูกภาสกรส่งคนมาตามฆ่า ก่อนเขาจะตายโรมได้รับฟังคำสารภาพของนายแม้นว่ามีคนจากกรุงเทพฯมาติดต่อให้ทำเรื่องนี้ แต่ยังไม่ทันรู้รายละเอียดแม้นก็ขาดใจตายไปก่อน แต่ทันได้ฝากฝังเมียของเขา คำพูดของเขาที่โรมได้รับฟังคือคนที่ว่าจ้างเป็นทนาย โรมจึงเดาได้ว่าต้องเป็นกมลทัตให้ภาสกรมาทำเรื่องนี้ แต่ก็รับปากแม้นว่าจะดูแลเมียของแม้นที่เป็นมะเร็งให้อย่างดี

หลังจากฆ่านายแม้นแล้ว ภาสกรก็ติดตามเรื่องราวของโรมอย่างเงียบๆ และกลับไปรายงานกมลทัตว่า "ตอนนี้นอกจากมันจะสูญเสียสินค้าไปมหาศาลแล้ว ยังจะถูกฟ้อง เรียกค่าเสียหายด้วยครับ"

"ดี ดี คราวนี้แหละมันจะได้รู้ซะทีว่า ไม่ควรมายโสโอหังกับคนอย่างฉัน คอยดูสิ ฉันจะนั่งรอให้มันคลานมาคุกเข่าต่อหน้าฉันให้ได้ อีกไม่นานหรอกไอ้โรมเอ๋ย..."

กมลทัตโทร.ไปหาเทียนที่บ้าน แกล้งพูดเรื่องโรมจะถูกฟ้อง "หมดตัวก็คราวนี้ สินค้าก็มีปัญหาต้องถูกลูกค้าฟ้องแน่ๆ ไหนจะต้องจ่ายเงินค่าซื้อคอนโดฯด้วย รวมๆแล้วคราวนี้หกสิบเจ็ดสิบล้านจะพอหรือเปล่าก็ไม่รู้ ไม่ใช่น้อยๆนะหนู ฝากบอกโรมด้วยก็แล้วกันว่าฉันเป็นห่วง มีอะไรให้ช่วยเหลือก็ขอให้บอกมาฉันยินดีเสมอ ไหนๆก็เป็นคนรู้จักกัน ที่สำคัญฉันเป็นห่วงหนูมาก ฉันกับพิศเพลินรักและเอ็นดูหนูจริงๆกลัวว่าหนูจะตกระกำลำบากไปกับโรมด้วย"

ด้วยความเป็นห่วงโรมที่อยู่ที่ชุมพร เทียนจึงหนีออกจากบ้านเพื่อจะไปที่นั่น แต่ที่ถนนบังเอิญไปเจอกับมนทิรา ซึ่งพอรู้ว่าเทียนจะไปชุมพรก็รับอาสาขับรถไปส่งที่สถานีขนส่ง ระหว่างที่ให้เทียนนั่งรออยู่ที่นั่นก็เข้าห้องน้ำไปโทร.ส่งข่าวให้กุลชาติ เล่าเรื่องให้ฟังบอกให้เขารีบมาโดยด่วนให้พาเทียน ไปชุมพร และระหว่างทางก็ให้จัดการเอาเทียนเป็นเมียให้ได้ กุลชาติไปบอกพ่อ กมลทัตให้ยานอนหลับไปสองขวดให้แอบใส่ให้เทียนกินเพื่อจะได้จัดการได้ง่ายขึ้น

หลังจากมนทิราแอบพบกับกุลชาติและบอกให้ว่าเทียนนั่งอยู่ที่ไหนแล้วตัวเธอก็หลบฉากกลับไปบ้าน เทียนซึ่งสงสัยพฤติการณ์ของทั้งมนทิราและกุลชาติว่าน่าจะทำอะไรที่ไม่ดีกับเธอจึงระวังตัวไปตลอดทาง และระหว่างทางเทียนก็ซื้อยาน้ำระดมพลขวดเล็กๆไปสองขวด ระหว่างกำลังกินอาหารกันอยู่เธอเอาขวดออกมาเช็ดทำความสะอาด กุลชาติถามว่ายาอะไร เธอโกหกว่าเป็นยาสมุนไพรเอาไปฝากโรม เห็นคนขายบอกว่าผู้ชายดื่มแล้วปึ๋งปั๋ง เธอไม่รู้หมายความว่าอะไรแต่คิดว่าคงจะมีกำลัง พูดจบก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำโดยวางขวดยาไว้ที่โต๊ะ กุลชาติดีใจแอบดื่มจนหมดทั้งสองขวด คิดว่ายาที่พ่อให้มาหาโอกาสให้เทียนกินคงไม่ต้องใช้แล้วถ้าตัวเองมีพละกำลังก็คงจัดการเทียนได้ เทียนที่แอบดูอยู่เดินเข้ามาทำหน้าซื่อเก็บขวดยาของตัวเองที่กุลชาติเอาน้ำใส่ไว้แทนเข้ากระเป๋า กินข้าวต่อไปอีกแป๊บเดียวกุลชาติก็ถ่ายท้องจนถึงขั้นคลาน เทียนบอกบริกรว่ารถของกุลชาติจอดอยู่ข้างนอก เขาเป็นลูกเศรษฐี มีอะไรก็โทร.ไปเรียกพ่อแม่เขาให้มารับแล้วกัน แล้วเทียนก็ขึ้นรถทัวร์ต่อไปชุมพร

เทียนไปถึงชุมพรกลับเจอปารวดี และเผ่าเทพอยู่กับโรม และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือเธอถูกโรมตบหน้าเพราะเหตุว่าได้รับข่าวจากทางบ้านว่าเทียนหนีไปแต่ไม่รู้ว่าไปไหน โรมเป็นห่วงจนสติแตก แต่พอทำไปแล้วโดนปารวดีกับหมอเผ่าว่าให้ เลยสำนึกขึ้นมาได้ว่าเขารุนแรงกับเทียนเกินไปจึงหาเวลาไปขอโทษเทียน แต่เทียนกลับพูดว่า "ไม่เป็นไรค่ะนายหัว เทียนอยู่บ้านเคยถูกแม่ตีเจ็บมากกว่านี้อีก เทียนผิดเองที่ดื้อไม่ฟังคำสั่งนายหัว สมควรแล้วค่ะที่ถูกลงโทษ"

โรมดึงเทียนเข้ามากอดลูบผมแล้วถามว่า "เธอจะอยู่กับฉัน อยู่ข้างฉัน ช่วยฉันแก้แค้นใช่ไหมเทียน"

"ค่ะ เทียนจะแก้แค้น เทียนจะทำทุกอย่างที่นายหัวสั่ง" เทียนตอบอย่างเด็ดเดี่ยว

สำหรับกุลชาติพ่อแม่มารับกลับไปเข้าโรงพยาบาล นอนหน้าซีดตาโบ๋ดำปี๋เหมือนหมีแพนด้า พิศเพลินถามว่าไปกินอะไรผิดสำแดงมา กุลชาติตอบเสียงอ่อยว่า "คงจะอาหารเป็นพิษครับแม่ ร้านอาหารนี้ต้องให้อาภาสกรฟ้องร้องให้เข็ด"

"ฟ้องบ้าอะไร ฉันไปถามหมอมาแล้ว ในท้องแกมีแต่ยาถ่าย แกนี่มันไม่น่าชื่อกุลชาติเลยว่ะ เสียชาติเกิดจริงๆ ไปเสียท่าเทียนเขาตรงไหนเข้าล่ะ แล้วยานอนหลับที่ฉันให้ติดตัวไปทำไมไม่ชิงลงมือใช้ก่อนเขา นั่งรถไปตั้งกี่ชั่วโมงทำไมไม่ใส่น้ำใส่ขนมให้เขากิน" กมลทัตด่าลูก

พิศเพลินเพิ่งรู้เรื่องที่พ่อกับลูกจะไปทำกับเทียน เธอผุดลุกขึ้นบอกว่า "ฉันไม่ทนอยู่เห็นเรื่องชั่วช้าอย่างนี้อีกแล้ว" พูดจบก็เดินออกจากห้องไปเลย กมลทัตยักไหล่มองตามหลังร้องออกมาว่า

"ดี ไปซะได้ก็ดี แม่แกไม่อยู่ก็ดีแล้ว ฉันจะได้ติวให้แกฉลาดเพิ่มขึ้น เรื่องพวกนี้ฉันถนัด"

กุลชาติเห็นพ่อเข้าข้างรีบอ้อนทันที "ป๋า...แล้วผมจะได้ แต่งงานกับน้องเขาไหมครับ นอกจากแม่พิศเพลินแล้วน้องเทียนคือผู้หญิงคนเดียวในโลกที่ผมรักนะป๋า"

กมลทัตฟังลูกนอกไส้พูดแล้วชักเครียด

ooooooo

ที่บ้านของโรมที่ชุมพร พวกเจ้าหนี้เข้าๆออกๆไปทวงหนีี้แทบทุกวันจนโรมเครียด วันนี้เขาคุมสติไม่อยู่ทะเลาะกับเจ้าหนี้ผู้หญิงไปคนหนึ่งจนปารวดีกับหมอเผ่าต้องเข้ามาพูดขอร้องเจ้าหนี้คนนั้นด้วยท่าที ที่ดีๆ ทำให้เจ้าหนี้ค่อยอารมณ์เย็นลงไปบ้าง แต่โรมก็ยังต่อความยาวสาวความยืดอีก

"คุณทำแบบนี้มันไม่ให้เกียรติกันเลย มาทวงอยู่นั่น อย่างน้อยก็น่าจะเห็นแก่ความเป็นเพื่อนบ้าง"

"อ้าวแล้วกันคุณโรม นี่มันธุรกิจไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ฉันต้องเสียหายไปเท่าไหร่ ความผิดของคุณ คุณก็ต้องรับผิดชอบสิ"

"ผมเคยเสียคำพูดกับคุณไหม ผมถูกกลั่นแกล้ง ผมต้องการเวลากอบกู้สถานการณ์บ้าง ขอเวลาให้ผมหน่อยเท่านั้นเองไม่ได้เชียวหรือ" โรมยังมีท่าทีฮึดฮัด

"เวลา...เวลาอะไรอีก ป่านนี้คนทำผิดที่คุณอ้าง พยานหลักฐานอะไรคุณก็ยังหาไม่ได้เลย..." เจ้าหนี้ชักยัวะขึ้นมาอีก

"ปัดโธ่...ก็ไอ้คนที่รู้มันถูกฆ่าตายไปแล้ว อยู่นรกขุมไหนก็ไม่รู้ จะให้ผมไปตามมันมานั่งเล่าความจริงให้คุณฟังรึไง..." โรมตะคอก

หมอเผ่ารีบเข้ามาสะกิดโรมพลางพูดกับเจ้าหนี้ว่า "เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ค่อยมาคุยกันใหม่ดีมั้ยครับ พวกเราคนกันเองทั้งนั้น"

เจ้าหนี้หันไปทางหมอเผ่า "ก็เพราะคนกันเองนี่ไง ถึงได้ยอมทำธุรกิจด้วย ได้กำไรมาก่อร่างสร้างตัวก็เพราะฉัน แล้วมาทำกันอย่างนี้...งั้นเจอกันที่ศาลก็แล้วกัน" เจ้าหนี้หญิงคนนั้นตุปัดตุป่องออกไป โรมตะโกนตามหลัง

"ไม่ต้องมาพูดลำเลิกบุญคุณ จะฟ้องก็เชิญ ฟ้องเลย"

หมอเผ่าจับตัวโรมกดให้นั่งลง ปลอบว่า "อย่าทำอย่างนี้โรม เรื่องนี้มันใช้อารมณ์แก้ปัญหาไม่ได้หรอก"

โรมสะบัดตัวออกจากหมอเผ่า  ตวาดว่า  "มันเรื่องของฉันไม่ใช่เรื่องของแก...เผ่า"

"เออใช่ นี่มันเรื่องของแก ขอโทษที่ฉันเข้ามายุ่ง" หมอเผ่าชักโมโหเพื่อนขึ้นมาบ้างแล้ว พูดแล้วก็เดินเข้าห้องไปทันที เทียนที่เลียบๆเคียงๆอยู่เดินเข้ามาหาโรมที่ตอนนี้ไปยืนเกาะระเบียงเหม่อมองไปข้างนอก

เทียนเข้ามายืนข้างๆแล้วถามว่า "นายหัวเป็นยังไงบ้างคะ?"

โรมชี้มือไปรอบๆกล่าวกับเทียนว่า "เทียนดูสิ ที่ดินผืนนี้ของพ่อฉันบุกเบิกมันขึ้นมากับมือจากที่ดินที่รกร้างว่างเปล่าจนกลายมาเป็นอย่างที่เห็นทุกวันนี้ ฉันจะไม่ยอมสูญเสียมันให้ใครง่ายๆหรอก"

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในบ้าน โรมเดินกลับเข้าไปรับสาย เข้าใจว่าคงเป็นเจ้าหนี้รายไหนรายหนึ่งโทร.มาทวงอีก แต่กลับกลายเป็นเสียงกมลทัตไป

"เป็นยังไงบ้างโรม เทียนคงบอกแกแล้วใช่มั้ย ว่าฉันเป็นห่วงแกแค่ไหน"

"อย่ามายุ่งกับฉันกับเทียนอีก กมลทัต" โรมแทบจะกระแทกหูโทรศัพท์ในมือลง

กมลทัตเริ่มโกรธ แต่พยายามระงับเอาไว้ "ทำไมพูดตัดเยื่อใยกันขนาดนั้นล่ะ ฉันก็แค่อยากรู้สารทุกข์สุกดิบของแก เผื่อว่าจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง อย่าลืมเพื่อนเก่าคนนี้นะ เดือดร้อนอะไรขึ้นมาแกติดต่อฉันได้เสมอแล้วอย่าไปโทษคนอื่นเลยโรม ยอมรับความอ่อนหัดของตัวเองซะบ้าง เอาเถอะ ฉันในฐานะรุ่นพี่จะช่วยแนะนำสั่งสอนให้"

"ไม่ต้องมาทำพูดดีกมลทัต แกคิดว่าฉันไม่รู้เหรอไอ้เรื่องลอบกัดแอบแทงคนข้างหลังนี้ก็แกนั่นแหละ" โรมพูดเสียงกร้าวใส่ เทียนทนไม่ได้คว้าโทรศัพท์จากมือโรมมากระแทกเสียงใส่กมลทัตว่า

"เวรกรรมจะตามสนองคุณสักวันกมลทัต จำเอาไว้"

หมอเผ่าหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าออกมาจากบ้าน เขาโกรธโรมจนไม่อยากเห็นหน้า และในขณะเดียวกันก็ทิ้งนภาเอาไว้ที่โรงพยาบาลหลายวันแล้วจึงคิดว่าน่าจะกลับไปดูสักหน่อย พอออกมาเจอโรมกำลังพาเทียนเข้าบ้านหมอเผ่าทำเป็นเมิน แต่ตอนนี้โรมอารมณ์ดีขึ้นแล้วเข้าไปขอโทษ หมอเผ่าเห็นเพื่อนยื่นมือมาให้จับก็งึกงักว่าจะจับดีหรือไม่ พอดีเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงดังขึ้นจึงล้วงมือลงไปในกระเป๋าแทน พอเสียงทางโน้นรายงานมาหมอเผ่าก็แสดงอาการดีใจ ลืมว่าเพิ่งโกรธเพื่อนเมื่อกี้ บอกเสียงแจ๋วเลยว่า

"นภาฟื้นแล้ว" ทุกคนฟังแล้วดีใจกันไปหมด โรมเลยสั่งให้เทียนคอยอยู่ที่บ้าน ส่วนเขา ปารวดี และหมอเผ่ารีบไปที่โรงพยาบาลกัน เข้าไปในห้องผู้ป่วยที่นภานอนเจ็บอยู่ นภากำลังดิ้นรนจากการจับของหมอและพยาบาล พลางร้องกรี๊ดๆเสียงลั่นห้อง "ปล่อยฉัน ช่วยด้วยๆ มันจะฆ่าฉัน ฉันจะไปแจ้งตำรวจ...พวกแกเป็นใคร ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้"

โรมรีบเดินเข้าไปให้นภาเห็นหน้า "ใจเย็นๆนภา ผมนี่แหละเป็นคนช่วยคุณจากไอ้ภาสกร" นภาจำได้ว่าเป็นโรม ท่าทีจึงค่อยๆสงบลง นั่งพักครู่หนึ่งโรมจึงเริ่มสอบถามเรื่องทั้งหมด นภาเล่าอย่างไม่ปิดบังแม้กระทั่งความสัมพันธ์กับสองพ่อลูกนั่น ปารวดีฟังแล้วแทบไม่เชื่อหูตัวเอง อดปากไม่อยู่เลยถามว่า ระหว่างสองคนนั่นนภารักใครกันแน่ นภาส่ายหน้าตอบว่า

"นภาไม่ได้รักใครเลย อยู่บริษัทกมลทัตก็ข่มขืนข่มขู่นภาต่างๆนานา พอเขาสั่งให้มาดูแลกุลชาติที่บ้านก็โดนกุลชาติข่มขืนอีก กมลทัตกลัวนภาจะแฉเลยส่งนภาไปเมืองนอกกับกุลชาติ ไปอยู่ที่โน่นนภารู้ตัวว่าท้อง กุลชาติเขาไม่รับก็เลยพากันกลับเมืองไทย"

"แล้วทำไมต้องโกหกว่าลูกกมลทัตในท้องเป็นลูกของกุลชาติ" หมอเผ่าแกล้งถาม นภาเลยหลุดปาก

"คนอย่างกมลทัตน่ะเหรอคะจะยอมรับลูกในท้องลูกจ้างที่เป็นแค่เลขาอย่างนภา แต่ที่ไหนได้พอไปบอกว่าเด็กเป็นลูกของกุลชาตินึกว่าจะได้รับความกรุณาปรานีบ้าง กลับส่งไอ้ภาสกรมาฆ่านภาทิ้ง คงกลัวนภาจะแฉว่าพ่อก็ร้ายลูกก็เลว" นภาปล่อยโฮเมื่อพูดถึงตรงนี้ โรมปลอบว่า

"ไม่ต้องกลัวนะ คุณอยู่กับผม รับรองไอ้กมลทัตไม่มีวันทำร้ายคุณได้" สะกิดหมอเผ่าให้ออกไปคุยกันข้างนอก หมอเผ่าเสนอว่าให้เอานภาไปแจ้งความดีกว่า   แต่โรมไม่เห็นด้วยบอกว่า ถ้านภาแจ้งความ ตัวโรมเองก็ต้องไปเป็นพยาน ผู้เห็นเหตุการณ์ และศาลที่ไหนเขาจะฟังเพราะตัวเขาเองก็มีเรื่องโกรธแค้นเป็นส่วนตัวอยู่กับคนที่โดนแจ้งข้อหา และที่สำคัญ ...โรมหยุดพูดไปอึดใจหนึ่งก่อนเอ่ยต่อไปว่า "ฉันฟังเรื่องที่นภาเล่าก็ยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ คนอย่างนภาน่ะเหรอที่โดนทั้งพ่อทั้งลูกข่มขืนจะเอาตัวรอดมาไม่ได้...และที่สำคัญอีก อย่างหนึ่งก็คือ ฉันว่านภาต้องรู้ต้องเห็นอะไรเกี่ยวกับกมลทัตและกุลชาติที่อาจเป็นประโยชน์กับเราในอนาคต รอให้อาการดีขึ้นกว่านี้ก่อน ฉันจะเอานภาไปหลบที่บ้านสวนชุมพรก่อน"

ooooooo

ที่บ้านโรมที่กรุงเทพฯ ป้าทิพย์กำลังนั่งอ่านข่าวหนังสือพิมพ์อยู่ ไปเจอข่าวเรื่องโรมเข้าป้าทิพย์ตาโตหยิบฉบับนั้นฉบับนี้ขึ้นดูมั่วไปหมดมือไม้สั่น พอดีมนทิราเพิ่งขับรถมาถึง เดินเข้ามา พอป้าทิพย์เห็นหน้าก็รีบหยิบหนังสือพิมพ์ให้ดู

"นี่ นี่หนูมน หนังสือพิมพ์เขาลงข่าวคุณโรมทุกฉบับเลยดูซิๆ เรื่องราวมันเป็นยังไงกันแน่?"

มนทิรารับมาอ่านข่าวเหล่านั้นออกเสียงให้ป้าทิพย์ฟังด้วย "บริษัทน้ำมันที่เมืองนอกจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากโรมที่ส่งน้ำมันไม่ได้มาตรฐานไปขายให้เขา ทำผิดสัญญา จะฟ้องทั้งแพ่งและอาญา ค่าเสียหายกว่าเจ็ดสิบล้านบาท"

มนทิราทำท่าตกใจ ส่วนป้าทิพย์ยกมือทาบอกทำท่าจะเป็นลม ลักษมนเดินเข้ามาเพราะได้ยินที่มนทิราอ่านข่าวนั้น เขายิ้มให้มนทิราแบบเยาะๆ

"พี่โรมเขาแมวเก้าชีวิต หนักกว่านี้ก็เคยเจอมาแล้วไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ คุณมนซะอีกโชคดีที่ไม่ได้เป็นแฟนพี่โรมไม่งั้นคงทนไม่ได้ต้องหนีไปแต่งงานที่เมืองนอกอีกเป็นหนที่สอง" พูดจบก็เดินออกไป มนทิราค้อนตามหลัง พอป้าทิพย์ บ่นว่าลักษมนปากร้ายขึ้นทุกวัน มนทิรารีบบอกว่าช่างเถอะเธอไม่ถือ ป้าทิพย์บอกกับมนทิราว่า

"ตอนนี้คุณโรมอาจจะต้องการกำลังใจจากหนูมนมากกว่า ใครๆ หนูมนต้องถือโอกาสนี้ทำคะแนนเหนือเด็กเทียนให้ได้ นะคะ...อ้อ  อย่าเพิ่งกลับล่ะ  ป้าเข้าไปทำกับข้าวเดี๋ยวจะได้ กินข้าวด้วยกัน" ป้าทิพย์รีบเดินไปครัว มนทิราอยู่ทางนี้กด โทรศัพท์ไปคุยกับกิ่งสอบถามเรื่องห้องชุดที่โรมซื้อเอาไว้ด้วยความเสียดาย

ที่หน้าบ้าน โรมกับเทียนกลับจากชุมพรมาด้วยกัน สองคนลงจากรถ มนทิราได้ยินเสียงพูดจึงออกไปรับด้วยความดีใจ ไปเกาะแขนโรมพลางกล่าวว่า "มาแล้วเหรอคะ มนมีข่าวดีจะบอกค่ะ มีคนอยากได้ห้องชุดที่โรมซื้อเอาไว้ ถ้าโรมขายให้เขาจะได้กำไรเยอะเลย สนใจมั้ยโรม?"

"ขายทำไม ผมซื้อให้เทียนเขา วิวทิวทัศน์ดีออกจะตาย" โรมปลดมือมนทิราออกจากแขนเดินเข้าบ้าน เห็นเทียนยืนมองอยู่มนทิราเลยไปชวนคุยแทน ถามถึงเรื่องไปชุมพรคืนนั้นว่าไปยังไง และแก้ตัวว่าเธอกำลังไปซื้อตั๋วให้เทียนแต่โดนผู้ร้ายวิ่งราวกระเป๋าเงินไป เธอวิ่งตามแต่จับตัวไม่ได้ กลับมาอีกทีเทียนก็หายไปแล้ว "พี่ใจหายหมดเลย ขอโทษนะที่ทำให้เทียนลำบาก" ประโยคท้ายพูดเอาความดีใส่ตัวซะอีก

"ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ เทียนต่างหากที่สะเพร่าเองไม่ได้ขอเบอร์โทร.คุณมนเอาไว้ อุตส่าห์ไปส่งเทียนถึงสถานี ขนส่งโน่น ตอนนี้เทียนก็เป็นห่วงแต่เรื่องของคุณโรม แต่ไม่รู้จะช่วยได้ยังไง"

มนทิราเออๆคะๆไปด้วย โดยบอกว่าตัวเองก็เป็นห่วงเพราะรู้เรื่องหมดแล้ว

ooooooo

เนื่องจากความเป็นห่วงแต่ไม่รู้จะช่วยได้ยังไง วันรุ่งขึ้นเทียนจึงชวนลักษมนไปทำบุญปล่อยนกปล่อยปลาที่วัดแล้วอุทิศส่วนกุศลให้โรมเผื่อบางทีจะได้ช่วยผ่อนเรื่องจากหนักให้เป็นเบาได้บ้าง เสร็จแล้วสองคนกับลักษมนเดินคุยกันมาตามทางในวัด ไปเจอพิศเพลินกำลังนั่งกรวดน้ำอยู่ที่ต้นโพธิ์  พิศเพลินเห็นเทียนก็ดีใจรีบเดินเข้ามาหาคิดว่าจะมาขอโทษเรื่องที่ลูกกับผัวทำกับเทียนเอาไว้ แต่เทียนกลับพูดกระทบว่า

"คนในตระกูลทักษสุตทำบุญทำทานเป็นด้วยหรือ...อ้อ คงต้องขยันทำบุญสิเพราะกลัวที่ทำบาปเอาไว้มาก"

พิศเพลินกล้ำกลืนความเจ็บช้ำ ตอบว่า "หนูพูดถูกแล้วเทียน ครอบครัวของฉันทำบาปกันเอาไว้มากมายเหลือเกิน แต่ สำหรับฉัน ฉันปรารถนาดีกับหนูนะ ฉันถูกชะตากับหนูมาก ทั้งรักทั้งเอ็นดูเหมือนลูกสาวของฉันจริงๆไม่รู้เพราะอะไร"

เทียนเมินหน้าใส่ "ขอโทษ หนูไม่มีวันเกิดมาเป็นลูกกมลทัตกับพิศเพลินเด็ดขาด ลืมไปได้เลย" เทียนพูดจบก็มีลมพัดมากราวใหญ่ กิ่งไม้แห้งที่คาต้นอยู่หักลงมาใส่เทียน แต่พิศเพลินเห็นจึงเอาตัวเองบังไว้ กิ่งไม้เลยตกลงกระแทกใส่ไหล่พิศเพลินแทน พิศเพลินยกมือขึ้นกุมอย่างเจ็บปวดแต่ปากยังถามว่าเทียนเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า

"ไม่ ไม่ค่ะ แล้วคุณล่ะคะ"

พิศเพลินส่ายหน้าปกปิดความเจ็บ พอดีลักษมนกลับมาถึงตรงเข้าฉุดเทียนออกจากพิศเพลินทันที ถามเสียงเข้มว่าพิศเพลินทำอะไรเทียน แม้เทียนจะปฏิเสธว่าไม่มีอะไรเป็นอุบัติเหตุนิดหน่อยเท่านั้น ลักษมนก็ยังว่าพิศเพลินอีก "พวกคุณนี่อันตรายจริงๆ จะติดตามจองล้างจองผลาญกันไปถึงไหน" เทียนเลยดึงลักษมนไปจากที่นั่น

คืนนั้นเทียนคิดถึงเรื่องที่พิศเพลินเอาตัวเองเข้าป้องกันเธอจากอุบัติเหตุกิ่งไม้หล่นทับแล้วก็ได้แต่แปลกใจ ส่วนโรมคืนนี้ก็ได้รับโทรศัพท์ที่กมลทัตโทร.มาแหย่อีก ทำให้โรมต้องตัดสินใจบางอย่าง

เช้าวันรุ่งขึ้น เทียนยกข้าวต้มไปให้โรมกินที่ห้องนอน แต่พอเปิดประตูเข้าไปก็เจอห้องที่ว่างเปล่า มองไปทางหน้าต่างเห็นรถของโรมวิ่งออกไปแต่ไม่รู้ไปไหน เทียนวิ่งออกมาข้างนอกห้องไปหาลักษมนเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ลักษมนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าโรมไปไหน

เช้าเดียวกันนี้ ภาสกรกำลังเปิดแฟ้มรายงานเรื่องของโรมให้กมลทัตฟังว่า ตอนนี้โรมถูกบีบอย่างหนักแล้วทั้งจากธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ สายของเขาตามติดโรมทุกที่เลย คงจะหลังชนฝาแล้วมั้ง!

กมลทัตนิ่วหน้าบอกว่า "ไอ้หลังชนฝาหมาจนตรอกนี่แหละมันน่ากลัว มันอาจจะมีทีเด็ดฮึดสู้เราก็ได้ เอ...หรือว่า มันจะมีทรัพย์สินมีหุ้นอะไรซ่อนเอาไว้อีกหรือเปล่าวะ"

"ไม่มีครับ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง นอมินีก็ไม่มีอันนี้ผมเช็กละเอียดเลย..." พูดถึงตรงนี้กุลชาติก็แถเข้ามาหากมลทัต บอกว่าเขาอดทนเป็นคนดี ไม่คบเพื่อนชั่ว ไม่มั่วอบายมุข ที่อโคจรก็ไม่ไป สุรายาเมาก็ไม่แตะ พิสูจน์ตัวเองถึงขนาดนี้แล้ว แล้วเรื่องน้องเทียนได้จัดการให้เขาไปถึงไหนแล้ว กมลทัตยังไม่ทันตอบ หนิง เลขาฯคนใหม่ที่มาแทนนภาก็เดินอย่างรีบร้อนเข้ามา บอกกับกมลทัตว่า

"ท่านคะ คุณโรม ภคนันทน์มาขอพบค่ะ"

กมลทัตหรี่ตาทำท่าขบคิด ไม่รู้ว่าโรมจะมาไม้ไหน แต่ก็เดินไปที่ห้องรับแขก ภาสกรตามไปด้วย

พอเห็นกมลทัตโรมก็พูดขึ้นก่อนอย่างไม่อ้อมค้อมว่า "ฉันหมดหนทางแล้วจริงๆกมลทัต ฉันคิดใคร่ครวญอย่างดีที่สุดแล้วว่านายคนเดียวคือคนที่จะช่วยฉันได้ แต่ถ้าแกไม่สะดวกฉันก็ไม่รบกวน"

กมลทัตยิ้มให้แบบผู้ใหญ่ที่มองดูเด็ก "ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆว่าจะมีวันนี้ วันที่แกมาขอร้องฉัน ฉันตื่นเต้นจริงว่ะ...เอาเถอะ เพื่อนรัก ไม่ช่วยเพื่อนแล้วฉันจะช่วยใคร นกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อน มันจะอยู่ได้ยังไงจริงมั้ย" โรมบอกว่าเขาไม่ยอมสูญเสียสวนปาล์มกับโรงงานไปเพราะเป็นสมบัติพ่อทำมากับมือ กมลทัตปลอบว่าจะไม่เสียอะไรทั้งนั้น แต่ว่าเงินทองมันไม่ใช่น้อยๆ "เอ้อ...คือว่าเราทำธุรกิจน่ะ แกเข้าใจไหม?" กมลทัตมองหน้าโรม

โรมบอกทันทีว่า "ว่ามาเลย เงื่อนไขของแกคืออะไรกมลทัต?" กมลทัตหันไปมองภาสกร

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น