หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

มนต์รักลูกทุ่ง ตอนที่ 3

ตอนที่ 3

เพราะมีนัดกับพี่คล้าวและพี่แว่นคนรักของตนเอง ทองกวาวกับบุปผาจึงวางแผนล่อหลอกหมึกที่ถูกก้อนกำชับให้จับตาดูสองสาวไม่ให้คลาดสายตา โดยสองสาวทำทีเป็นร้อนแต่เช้าอยากอาบน้ำให้ชื่นใจ แต่น้ำในตุ่มไม่มีจึงให้หมึกไปหาบมาใส่ หมึกพาซื่อรีบทำตามโดยไม่รู้ว่าข้างตุ่มมีรูรั่วเพราะฝีมือบุปผา ได้แต่สงสัยว่าทำไมน้ำถึงไม่เต็มตุ่มสักที ทั้งที่หาบมาหลายเที่ยวแล้ว

ทองกวาวกับบุปผาหลบขึ้นบ้านและรีบแต่งตัวเพื่อออกไปพบคนรักตามนัด โดยสองสาวไม่ลืมเอาปลอกหมอนที่ตัดเย็บด้วยตัวเองติดมือไปฝากคนรักด้วย   แต่พอไปถึงเพิงเฝ้านาซึ่งเป็นจุดนัดหมายระหว่างทองกวาวกับคล้าว ปรากฏว่าไม่มีแม้เงาของคล้าว มีแต่สายใจที่เข้ามาตำหนิและด่าว่าทองกวาวหน้าด้าน อยากเป็นเมียน้อยเขาหรือไงถึงได้นัดเจอแฟนคนอื่นแบบนี้ ทองกวาวตกใจและเสียใจตอบโต้ไปเล็กน้อยก่อนจะผลุนผลันไปหาบุปผาที่อยู่อีกด้านกับแว่น

บุปผากับแว่นกำลังคุยกะหนุงกะหนิงมีความสุข พอเห็นทองกวาวเดินหน้าซีดมาชวนบุปผากลับบ้าน ทั้งคู่พากันชะงักแปลกใจ บุปผาถามเหตุผลแต่ทองกวาวก็ไม่พูดอะไร เดินลิ่วนำไปก่อนเลย บุปผาจึงอยู่ต่อไม่ได้ ผละจากแว่นที่ยังไม่อยากให้กลับจ้ำตามทองกวาวไปทันที

เดินตามมาถึงบ้านและเห็นปลอกหมอนในมือทองกวาว บุปผาถามว่ายังไม่ได้ให้พี่คล้าวอีกเหรอ ทองกวาวบอกว่ายัง แล้วก็ไม่คิดจะให้แล้วด้วย บุปผาสงสัยหนักจะซักอีก แต่ทองกวาวหนีขึ้นเรือนไปเสียก่อน หมึกเดินโซเซหาบถังเปล่าเข้ามาหาบุปผา บ่นอุบว่าเติมน้ำเท่าไหร่ก็ไม่เต็มตุ่มซะที บุปผารออีกแป๊บนึง เดี๋ยวได้อาบแน่...ว่าแล้วหมึกก็เดินขาขวิดออกไป บุปผามองตามและพูดงึมงำแดกดันหมึกว่า เอ็งนี่มันฉลาดจริงๆเลย

สาเหตุที่คล้าวไม่มาตามนัดก็เพราะเขาต้องคอยดูแลแม่คอนที่ยังนอนรักษาตัวอยู่สุขศาลา เมื่อไข้ลดอาการค่อยยังชั่วแล้ว คอนจึงให้คล้าวกลับไปดูบ้านช่องและควายในคอก คล้าว ถือโอกาสนี้รีบไปที่เพิงเฝ้านา แล้วตะโกนเรียกทองกวาวอยู่ สักพักแต่ก็ไม่มีวี่แวว

แว่น ตี๋ ไข่ และน้อยกำลังตั้งวงเพื่อซ้อมดนตรี เห็นคล้าว เดินหน้าจ๋อยเข้ามา แว่นรีบควักปลอกหมอนที่ได้จากบุปผาออกมาอวด และว่าของคล้าวก็คงจะสวยใช่ย่อย แต่คงน้อยกว่าของตน คล้าวได้ยินอย่างนี้ก็ถามแว่นทันทีว่าบุปผามาเหรอ แล้วทองกวาวล่ะ?

"ก็มาด้วยกัน เอ็งอย่ามาอำข้าหน่อยเลย บอกมาตามตรง เอ็งไปทำอะไรเกินงามทองกวาวมันถึงได้งอนตุ๊บป่องกลับไปยังงั้น"

คล้าวฟังแล้วนิ่งอึ้งไปอย่างไม่เข้าใจ

ooooooo

ก้อนกับทับทิมซื้อผลไม้และขนมหวานหลายอย่างไปขอโทษจอมกับเจิดถึงบ้านเรื่องที่เมื่อวานลูกสาวและหลานสาวเสียมารยาททำไม่ดีใส่ แต่จอมไม่ถือสา บอกเรื่องเล็กน้อย ซ้ำยังว่าลูกผู้หญิงต้องรู้จักมีเขี้ยวเล็บบ้างมันถึงจะมีเสน่ห์ สองผัวเมียได้ฟังค่อยสบายใจ มีความหวังที่จะได้เกี่ยวดองกัน ส่วนเพชรที่ติดสอยห้อยตามมาด้วยก็ได้ทีเข้าตีสนิทเจิดด้วยการขยับขึ้นไปนั่งตักอย่างชิดเชื้อ

ที่ร้านชำยายเมี้ยน มิ่งเข้ามาสั่งเหล้าหนึ่งขวด เมี้ยนจะขายให้แต่เคี่ยวเข็ญมิ่งต้องเอาเงินมาก่อน มิ่งทำเป็นล้วงกระเป๋าหาเงินแล้วบ่นว่าเงินหายไปไหน สงสัยจะลืมหยิบมาจากบ้าน เมี้ยนรู้แกวพวกจะกินของฟรีที่ชอบใช้มุกนี้ก็เลยถือขวดเหล้าจะเอาเข้าไปเก็บ แต่มิ่งยื้อดึงไว้อย่างไม่ยอมอ้างว่าเป็นขาประจำ เอ็งจะใจดำลงคอเชียวหรือ พรุ่งนี้ตนจะเอาเงินมาให้ถ้ากลัวลืมก็จดลงบัญชีไว้ก่อน เมี้ยนย้อนทันทีว่าของซื้อของขาย งดเชื่อ

เบื่อทวง มิ่งโมโหเลยขึ้นอีขึ้นมึง ทำให้เมี้ยนยัวะด่าเสียงดังลั่นร้าน

เท่านั้นเองมิ่งก็กลัวหงอ เปลี่ยนวาจาเป็นจ๊ะจ๋าขอความกรุณา แต่ถ้ายังไม่เชื่อใจกันก็ลงบัญชีลูกเขยตนไว้ก็ได้ เมี้ยนสงสัยว่าลูกเขยมิ่งคือใครกัน มิ่งตอบอย่างฉาดฉานว่า

"ก็หมู่น้อยไง เงินดาวเงินเดือนหมู่น้อยตั้งหลายร้อย ไม่หนีไปไหน สิ้นปีนี้ก็ได้ยินว่าจะได้เลื่อนยศเป็นผู้หมวดแล้วด้วย"

"ปีนี้เป็นหมู่ ปีหน้าได้เป็นหมวด มีที่ไหนวะ"


"งั้นเป็นจ่าก่อนก็ได้ นะจ๊ะแม่เมี้ยนจ๋า ลงบัญชีลูกเขยฉันไปก่อนแม่เมี้ยนคนสวย"

"นี่ถ้าไม่ใช่หมู่น้อยไม่มีทางได้แอ้มหรอกนะโว้ยจะบอกให้"

มิ่งยิ่มร่ารับขวดเหล้ามากอดด้วยความปลื้มปีติเป็นล้นพ้น...ส่วนที่ชายทุ่ง ดวงใจลูกสาวคนเล็กของมิ่งกำลังช้อนกุ้งฝอยด้วยสวิง เจิดกับสมุนสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมาเห็นขาขาวๆของดวงใจก็ตาลุกวาว ตีวงเข้ามาเทะโลมกันอย่างเฮฮา พอดีสายใจเดินมาได้ยินเลยเท้าสะเอวด่าเรียงหน้า ดวงใจช่วยถล่มอีกแรง แต่เจิดก็บ่ยั่น ซ้ำยังพูดตะแบงยกตนว่าร่ำรวยข่มคนจน

"กูอุตส่าห์ลดตัวลงมาเสวนากะมึง มึงยังไม่สำนึกอีกเหรออีดวงใจว่าเป็นบุญวาสนาของมึง ความจริงน่ะกูอยากได้ใคร กูก็ ได้ทั้งนั้น พ่อกูน่ะยุให้กูจีบอีทองกวาวด้วยซ้ำ อีทองกวาวน่ะมันเหนือกว่ามึงทุกอย่าง รึมึงว่าไม่จริง วันไหนกูเลิกสนใจมึงขึ้นมา มึงจะน้ำตาตกในว่ารู้ยังงี้ยอมเป็นเมียกูซะตั้งนานแล้วก็ดี"

เจิดยิ้มยวนกวนโทสะแล้วขี่รถออกไปพร้อมสมุน ดวงใจโมโหด่าไล่หลังว่าไอ้บ้า แต่สายใจกลับนิ่งไปอย่างใช้ความคิดเรื่องที่เจิดบอกว่าพ่อกูยุให้จีบทองกวาว

ตกตอนบ่าย   คล้าวและแว่นพากันไปปรับทุกข์กับ

หลวงพ่อที่ลานวัด หลวงพ่อเพิ่งรู้ว่าคอนไม่สบายอยู่สุขศาลาตั้งแต่เมื่อคืนวาน และทำให้วันนี้คล้าวมาตามนัดกับทองกวาวไม่ทัน

"คล้าวมันกำลังร้อนใจครับหลวงพ่อ มันกลัวทองกวาวจะโกรธมัน มันก็เลยอยากจะไปหาทองกวาวที่บ้าน แต่ผมว่าไปน่ะไปได้ แต่มันคงไม่มีปัญญากลับออกมาหรอก เพราะตาก้อนถ้าไม่ยิงเอาไส้แตก ก็กระทืบเอาม้ามปลิ้นแน่ๆครับหลวงพ่อ ห้ามเท่าไหร่มันก็ไม่ฟัง" แว่นบ่นอย่างหนักใจ หลวงพ่อจึงเตือนสติคล้าวว่า

"ไอ้คล้าว...ความรักน่ะมันมีหลายระดับนะ ถ้าโยมทองกวาวรู้เหตุผลว่าทำไมเอ็งถึงมาตามนัดไม่ได้   เขาก็ไม่มีทางโกรธเอ็งลงหรอก พ่อแม่น่ะเป็นพระในบ้านของลูกทุกคน เอ็งคิดใคร่ครวญเอาเองก็แล้วกัน ว่าตอนนี้เอ็งจะเลือกทำหน้าที่อะไรก่อนกัน"

"ครับหลวงพ่อ"

"เรื่องทองกวาวน่ะเอ็งไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวข้าจะใช้สติปัญญาเท่าที่มีช่วยเอ็งเอง ยังไงทองกวาวมันก็ต้องเข้าใจว่าทำไมเอ็งถึงผิดนัด เรื่องแค่นี้ทองกวาวมันคงไม่ถึงกับทิ้งเอ็งไปหาแฟนใหม่หรอกวะ"

แว่นขันอาสาทั้งที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจ แต่ยังไงก็อยากจะช่วยเพื่อนรัก แต่แว่นหารู้ไม่ว่าหายนะกำลังจะมาเยือน เมื่อแว่นกลับไปที่ร้านตัดผม แล้วไม่รู้ว่าก้อนพ่อของทองกวาวแอบเข้ามาทำทีจะใช้บริการ หลังก้อนรู้จากหมึกที่โดนทองกวาวกับบุปผาหลอกให้หาบน้ำใส่ตุ่มอยู่เกือบทั้งวัน ทั้งที่ตุ่มรั่วใส่น้ำเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม

ก้อนโมโหที่ลูกและหลานไม่เชื่อฟัง หนีออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้านเวลาที่ตนไม่อยู่ แล้วต้นเหตุต้องมาจากแว่นกับคล้าวแน่ ก้อนเลยกะจะมาเล่นงานแว่นถึงร้านตัดผม แต่กลับมาได้ยินแว่นและเพื่อนฝูงนินทาเขาอย่างเมามัน ซ้ำแว่นยังบอกด้วยว่าคืนนี้สามทุ่มจะปีนเข้าบ้านเศรษฐีขี้เหนียวอย่างก้อน จะเผด็จศึกบุปผา แล้วให้ไข่กับตี๋เตรียมล้างท้องไปกินของดีๆที่บ้านนั้นด้วย

ก้อนโกรธแทบควันออกหู ผลุนผลันออกจากร้านไปโดยที่ไม่มีใครเห็นหน้า แล้วพอหลังอาหารค่ำ ก้อนก็บอกลูกหลานว่าคืนนี้เอ็งสองคนย้ายมานอนห้องพ่อ ทองกวาวกับบุปผาแปลกใจว่าพ่อจะไปนอนที่ไหน และห้องพวกตนก็แคบจะตาย


"คืนนี้ข้าอยากนอนห้องแคบๆโว้ย อยากจะเปลี่ยนบรรยากาศซะหน่อย นอนห้องเดิมมาหลายปีมันจำเจ เบื่อจนนอนไม่ค่อยหลับว่ะ"

สองสาวยังงงไม่หาย มองหน้าก้อนไม่เลิก แต่พอก้อนขึ้นเสียงดุ สองสาวก็ไม่กล้าตอแยอีก...ถึงเวลาดีของแว่นแล้ว แว่นมาพร้อมกับไข่และตี๋ โดยให้เพื่อนทั้งสองคอยดูต้นทางอยู่ข้างล่าง ส่วนตัวเองปีนบันไดขึ้นไปห้องบุปผา ตอนแรกทุกคนก็งงๆว่าทำไมบันไดถึงมาพาดรอที่หน้าต่าง แต่นึกไปนึกมาว่า

บุปผาคงจะเตรียมเอาไว้รับ แว่นก็เลยไม่รอช้า

พอขึ้นไปถึงในห้อง แว่นเคล้าคลึงร่างใต้ผ้าห่มที่ดัดเสียงขานรับว่าเป็นบุปผา แต่พอคืบคลานจะจูบหน้าตา ก็มีอันต้องผงะตกใจสุดขีด เพราะเจ้าของร่างไม่ใช่บุปผาแต่เป็นก้อนต่างหาก ก้อนรวบตัวแว่นไว้ได้แล้วสั่งทับทิมไปเอาปืนมาเร็ว แว่นตาเหลือกพยายามดิ้นรนจะหนีลงบันได แต่เจ้ากรรมบันไดหายไปไหนไม่รู้ แว่นก็เลยตัดสินใจกระโดดหนีลงมาขาแทบหัก แต่ก็ยังดีกว่าอยู่ให้ก้อนยิงไส้แตกตาย

เช้าขึ้นแว่นยังอุตส่าห์เดินกะเผลกมาเป็นลูกศิษย์วัดตามหลวงพ่อออกบิณฑบาต พอมาถึงบ้านก้อน แว่นดึงผ้าขาวม้าปิดหน้าตาที่เขียวช้ำเพราะหมัดก้อนเมื่อคืน แล้วก็เดินหลบๆหลังหลวงพ่อไป โดยที่ก้อนกับทับทิมไม่ทันสังเกต มีเพียงบุปผาที่ยืนมองอยู่มุมหนึ่ง เห็นคนรักเดินขาเป๋น่าอนาถก็ทั้งขำทั้งสงสาร

สายหน่อย คล้าวพาคอนกลับมาที่บ้าน สายใจรู้เข้าก็รีบมาปรนนิบัติคอนอย่างดีเยี่ยม พอเห็นคล้าวจะซักผ้าถูบ้าน สายใจก็แย่งทำหมดทั้งๆที่คล้าวไม่ได้เต็มใจ แต่ก็ไม่อยากขัดใจแม่ที่ท่าทางจะเอ็นดูสายใจไม่น้อยเลย

ขณะเดียวกันนั้น เจิดขับรถเก๋งคันโก้มาชวนทองกวาวไปนั่งรถเล่นกินลม ก้อนกับทับทิมดี๊ด๊าเห่อในความร่ำรวยของเจิด จึงคะยั้นคะยอแกมบังคับลูกสาวให้ขึ้นรถไปด้วยจนได้ ทองกวาวอึดอัดเป็นบ้า นั่งเงียบไปตลอดทาง กระทั่งเจิดขับรถไล่วัวควายของชาวบ้านลงข้างทางแล้วยังหัวเราะเยาะชาวบ้านอีก เธอทนไม่ไหวสั่งให้เขาพาเธอกลับไปส่งบ้านเดี๋ยวนี้

ขณะที่รถเจิดแล่นฝุ่นตลบผ่านทุ่งนา คล้าวกำลังเดินหนีสายใจที่ตามตื๊อไม่เลิก คล้าวไล่ให้กลับไปดูแลบ้านช่องตัวเอง สายใจก็ไม่ยอมบอกว่าอยากอยู่ใกล้ๆพี่คล้าว...พูดไม่ทันขาดคำ สายใจเหลือบไปเห็นคนในรถ จึงชี้ชวนคล้าวให้ดูด้วย คล้าวเห็นทองกวาวเต็มๆตาถึงกับครางชื่อเธอเสียงแผ่ว

"ทองกวาว..."

"เป็นไงล่ะ รักแท้ของพี่คล้าว สุดท้ายมันก็แพ้ความรวยอยู่ดี คนอย่างอีทองกวาวมันคงนึกว่ามันสวยเลิศเลอจนผู้ชายทั้งโลกต้องมาสยบแทบเท้ามันละมั้ง"

คล้าวจิตตกใจเสีย เจ็บจี๊ดที่ขั้วหัวใจ ทองกวาวเมินหน้าหนีจากเจิดด้วยความรำคาญ จึงเห็นคล้าวกับสายใจยืนเคียงคู่กัน สายใจรีบฉวยโอกาสทองเข้าเบียดกระแซะคล้าว พลางจับหน้าคล้าวบิดให้หันหนี อย่าไปมองให้เสียสายตา คล้าวมัวตะลึงเลยไม่ทันได้ขัดขืนสายใจ แต่ทองกวาวเข้าใจผิดไปแล้ว นั่งหน้าซีดหน้าเสีย ปล่อยให้เจิดซิ่งรถฝุ่นตลบผ่านไป

"กับพี่คล้าวมันก็คงแค่หมาหยอกไก่ อีทองกวาวมันคงเห็นว่าไอ้เจิดน่ะตัวจริง จะว่าไปมันก็สมกันดีนะจ๊ะพี่คล้าว" สายใจพูดเจื้อยแจ้วอย่างสะใจ แต่คล้าวไม่อยากได้ยินได้ฟังอะไรอีกแล้ว เดินหนีออกไปทันที

ooooooo

ทับทิมและก้อนแปลกใจที่เจิดพาทองกวาวกลับมาส่งเร็วนัก   แต่ก็ไม่ได้ซักอะไรมากเพราะเจิด บอกว่าจะรีบเอารถไปคืนพ่อ ทับทิมนึกได้รีบคว้าปลอกหมอนของทองกวาวให้เจิด บอกว่าน้องตั้งใจปักอยู่หลายวัน เจิดดีใจรับมันมาคลี่ดูแล้วยกขึ้นจูบอย่างชื่นใจ

"ขอบใจนะทองกวาว พี่เจิดจะนอนหนุน จะกอดปลอกหมอนใบนี้ทุกคืนเลย"

พ่อแม่ยิ้มชื่นมื่น แต่ลูกสาวก้มหน้านิ่ง พอเจิดจะเก็บปลอกหมอน บุปผารีบกระชากกลับคืนมา อ้างว่าทองกวาวยังปักไม่เสร็จ อย่าเพิ่งเอาไปเลย ทับทิมถามว่ารู้ได้ยังไงว่าไม่เสร็จ บุปผาตอบทันทีว่า ยังไม่ได้ปักชื่อพี่เจิดเลย ป้าไม่เห็นเหรอ

สองผัวเมียมองปลอกหมอนในมือบุปผาก็เห็นจริงดังว่า จึงให้เจิดรออีกวันสองวัน รอให้น้องปักชื่อให้สวยๆก่อน

"จ๊ะอา จะกี่วันฉันก็รอได้จ้ะ" เจิดยิ้มหวาน...ลากลับไปอย่างยิ้มย่อง แต่ทองกวาวซึมจัดขึ้นห้อง บุปผาตามมาซักถามด้วยความสงสัย แล้วก็ไม่เชื่อด้วยเมื่อทองกวาวปฏิเสธว่าไม่มีอะไร

"จะไม่มีอะไรได้ยังไง ก็ปลอกหมอนนั่นน่ะจะให้พี่คล้าว ไม่ใช่เหรอ"

"ใครอยากได้ก็เอาไปเถอะ มันไม่ได้มีค่ามีความหมายอะไรอีกแล้ว"

"บอกมาซะดีๆว่าไปเจออะไรมา"

ทองกวาวไม่ตอบแต่น้ำตาไหลด้วยความช้ำใจ ฝ่ายคล้าว ไปนั่งจิตตกอกตรมอยู่ที่เพิงเฝ้านา หลังเห็นภาพบาดตาบาดใจทองกวาวนั่งรถคันโก้ของเจิด จนเมื่อแว่นเดินกะเผลกหน้าตาเขียวช้ำเข้ามาหา  คล้าวจึงตื่นตัว  ถามแว่นว่าหน้าตาเอ็งไปโดนอะไรมา

"ถามได้ว่าโดนอะไรมา...ก็ธุระของเอ็งน่ะสิถึงทำให้ข้าเป็นยังงี้ จะว่าไปโทษเอ็งก็ไม่ได้ เพราะข้าสาระแนเป็นคนส่งข่าวเอง สงสัยจะช่วงดวงตก เดชะบุญยังเอาชีวิตรอดออกมาจากตาก้อนได้ แต่ข้ายังไม่ทันได้ส่งข่าวเรื่องเอ็งเลยนะโว้ยคล้าว"

"ไม่เป็นไรหรอก มันไม่มีประโยชน์อะไรแล้วแว่น ต่อให้เหตุผลของข้ามันเป็นเรื่องคอขาดบาดตายขนาดไหน มันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับทองกวาวเขาหรอก"

แว่นทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ถามคล้าวว่าพูดอะไร ช่วยแปลให้ฟังอีกที แต่คล้าวห่อเหี่ยวไม่มีกะจิตกะใจจะตอบ ได้แต่มองเหม่อออกไปยังท้องทุ่งกว้าง

ตกเย็น หมู่น้อยมาซื้อไม้ขีดที่ร้านยายเมี้ยนเลยถูกแกทวงเงินค่าเหล้าที่มิ่งให้ลงบัญชีลูกเขยเอาไว้ ชายหนุ่มไม่ว่าอะไรสักคำ รีบควักเงินให้ยายเมี้ยนอย่างเบิกบาน จากนั้นก็วิ่งโร่ไปที่บ้านมิ่ง แล้วไปเจอสายใจกำลังอาบน้ำ เผอิญสายใจทำสบู่หลุดมือและทำฟองเข้าตาด้วย เธอได้ยินเสียงฝีเท้าก็นึกว่าดวงใจเลยใช้ให้หยิบสบู่มาถูหลัง น้อยกลัวๆเกร็งๆแต่ก็หยิบสบู่ขึ้นมาจัดการตามที่เธอบอก พอสายใจตักน้ำล้างหน้าแล้วหันมาเห็นน้อยเข้าก็กรี๊ดกระจาย ตามด้วยกำหมัดชกเข้าเบ้าตาน้อยไปเต็มๆ

ส่วนที่ครัวบ้านก้อนยามนี้ ทองกวาวทำกับข้าวด้วยท่าทีซังกะตายเพราะยังเศร้าเรื่องที่เห็นคล้าวใกล้ชิดสายใจ บุปผาพอรู้สาเหตุก็อดรนทนไม่ไหวออกอุบายหลอกทั้งทับทิมและหมึกก่อนจะแอบไปพบคล้าวถึงท้องนา บุปผาต่อว่าคล้าวที่ไม่มาตามนัดทำให้ทองกวาวผิดหวังแล้วยังต้องเสียใจซ้ำอีกที่เห็นคล้าวอยู่กับสายใจ

คล้าวอธิบายเหตุผลว่าแม่ของตนไม่สบายนอนอยู่สุขศาลา จะให้ตนทิ้งแม่มาได้ยังไง แล้วแว่นก็พยายามจะไปส่งข่าวให้อยู่ เหมือนกัน แต่ดวงมันคงไม่ดี

"พี่ฝากบุปผาบอกทองกวาวด้วยแล้วกัน ว่าตัวพี่วาสนาก็มีแค่นี้ วันข้างหน้าจะเป็นยังไงก็อยู่ที่ทองกวาวจะเมตตาพี่"

"พอแล้วพอ...เก็บเอาไว้คุยกันเองก็แล้วกัน เรื่องป้าคอนไม่สบายฉันจะบอกทองกวาวมันให้ ส่วนเรื่องนังสายใจพี่ก็ต้องไปแก้ตัวเอาเอง ฉันน่ะยังเอาใจช่วยพี่อยู่นะ อย่ามามัวทดท้อกับวาสนาว่าเกิดมาจน ไม่งั้นไอ้เจิดมันคาบไปรับประทาน ฉันไม่รู้ด้วย"

พูดจบบุปผาก็รีบวิ่งกลับไปทันที แล้วไปเจอทับทิม

ยืนเท้าสะเอวแยกเขี้ยวรออยู่บนบ้าน แต่บุปผาก็เก่งกาจสามารถเอาตัวรอดไปได้ ก่อนจะไปกระซิบบอกข่าวดีแก่ทองกวาว

ooooooo

บรรยากาศในบ่อนไก่ชน ชาวบ้านต่างเชียร์ไก่

ของตนอย่างเมามัน มิ่งนำไก่ตัวเก่งมาเล่นพนันด้วย แต่ไก่ของมิ่งแพ้ไก่ของจอม มิ่งไม่มีเงินจ่ายจึงขอติดหนี้จอมเอาไว้ก่อน พออุ้มไก่กลับถึงบ้าน มิ่งก็เลยจะแกงกินให้หายเจ็บใจ แต่ดวงใจไม่เล่นด้วย บอกพ่อว่าเป็นตาย

ยังไงตนก็ไม่ยอมให้พ่อเชือดมันหรอก

"หนูไม่อยากเห็นพ่อทำบาป แค่เอามันไปสู้ไปตีกับเขามันก็บาปพอแล้วนะพ่อ มันแพ้เขามาพ่อถึงกับจะฆ่ามันทิ้ง สัตว์ตัวไหนมันก็รู้จักรักชีวิตมันนะจ๊ะพ่อ ถ้าพ่อเป็นมัน พ่อจะรู้สึกยังไง พ่อคิดดูบ้างไหม"

"ถ้าเป็นกู กูก็จะตีไม่ให้แพ้ชาวบ้านเขาโว้ย...นี่ยังดี พ่อเจิดเขาเมตตาให้กูติดหนี้แปะโป้งเอาไว้ก่อน ไม่งั้นป่านนี้..."

"พ่อ...ทุกวันนี้เงินเข้าบ้านแทบจะไม่มียังอุตส่าห์ขยันไปสร้างหนี้เขาอีกเหรอ"

"มันเป็นทางทำมาหากินของกูโว้ย กูแค่ดวงไม่ดีเท่านั้นเอง"

"พ่อไม่มีทางโชคดีหรอก เพราะยังไงทำมาหากินทางนี้มันก็ผิดศีล"

"มึงนี่เหมือนพี่มึงไม่มีผิด ชอบสอนกูจริง"

"พ่ออยากได้อะไรหนูให้พ่อได้ทุกอย่าง แลกกับชีวิตไก่ตัวนั้น"

"แหม...อีแม่พระ อีคนใจบุญ มึงอยากขึ้นสวรรค์เพราะไอ้ไก่ตัวนี้ มึงก็เอาเหล้ากลมนึงมาแลกกะกูสิโว้ย"

ดวงใจละเหี่ยหัวใจ สุดท้ายท้ายสุดยังไงพ่อก็หลุดไม่พ้นอบายมุขอยู่ดี...ขณะเดียวกันนั้นที่ร้านชำของเมี้ยน เชน หนุ่มพเนจรเดินมาหยุดที่หน้าร้าน เชนไม่มีที่ไปจึงเอ่ยปากของานทำ ค่าจ้างค่าแรงก็สุดแล้วแต่ป้าจะให้ แต่เชนกลับถูกเมี้ยนไล่ตะเพิดไปไกลๆ เพราะลำพังตัวเองคนเดียวก็หากินฝืดจะแย่อยู่แล้ว ขืนจ้างลูกจ้างแล้วจะเอาอะไรกิน...เชนโดนด่าโดนไล่แต่ก็ยังยิ้มและยกมือไหว้เมี้ยนก่อนเดินออกมา แล้วที่สุดเชนก็ต้องไปอาศัยศาลาวัดนอนเพราะเย็นย่ำใกล้ค่ำเข้ามาทุกที

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น