หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

มนต์รักลูกทุ่ง ตอนที่ 1 เนื้อเรื่องเต็ม

ตอนที่ 1

ทุ่งนาเขียวขจีกว้างไกลสุดสายตา ยอดข้าวเรียวบางพลิ้วเป็นคลื่นยามต้องลมอ่อนๆ

ธรรมชาติที่สวยงามเย็นตาคละเคล้าด้วยเสียงเพลงจากคล้าว หนุ่มลูกทุ่งเนื้อหอมที่ยืนครวญเพลงอยู่กลางทุ่ง ทำให้บรรยากาศยามนี้ ทั้งงามตา เย็นใจ และเสนาะหู ยิ่งนัก...

คล้าวยืนร้องเพลงกลางดงข้าวอย่างเพราะพริ้ง ข้างหลังคล้าวที่เป็นโคกนา มีแว่นคู่หูของคล้าวเป่าแตร มีตี๋และไข่ ช่วยกันบรรเลงมีแอ็กคอร์เดี้ยนและกลอง ทั้งคนเล่นดนตรีและ คนร้อง ต่างใส่อารมณ์สุดๆลงไปในบทเพลงนี้ ราวกับจะให้เป็นมนต์ขลังดุจพระสังข์เรียกปลาฉะนั้น...

"หอมเอย...หอมดอกกระถิน รวยระรินเคล้ากลิ่นกองฟาง เห็ดตับเต่าขึ้นอยู่ริมเถาย่านาง มองเห็นบัวสล้าง ลอยปริ่มริมบึง...อยากจะเด็ดมาดอม หอมหน่อย ลองเอื้อมมือค่อยๆก็เอื้อมไม่ถึง อยากจะแปลงร่างเป็นแมลงภู่ผึ้ง บินได้จะบินไปคลึง...เคล้าเจ้าบัวตูมบัวบาน..."

เสียงเพลงก้องกังวานไกลไปถึงอีกมุมหนึ่งของทุ่งนา ทองกวาวกับบุปผาลูกพี่วัยไล่เลี่ยกันเงี่ยหูฟัง มองหน้ากัน บุปผากวาดตามองหา พลางถามทองกวาว

"ไหนล่ะทองกวาว พี่แว่นของบุปผา กับพี่คล้าวของทองกวาวน่ะ"

"ต้องอยู่แถวนี้แหละ บุปผาไม่ได้ยินเสียงเพลงเหรอ ทองกวาวจำเสียงพี่คล้าวได้"

"บุปผาก็จำเสียงแตรของพี่แว่นได้เหมือนกัน"

สองสาวยิ้มให้กันอย่างดีใจแล้วรีบพากันไปตามเสียงเพลง...

ooooooo

คล้าวยังคงร้องเพลงอย่างได้อารมณ์ พลางเดินมาหาพวกแว่นที่โคกนา...

"หอมดินเคล้ากลิ่นไอฝน อวลระคนหอมแก้มนงคราญ ขลุ่ยเป่าแผ่วพลิ้วผ่านทิวแถวต้นตาลมนต์รักเพลงชาวบ้าน... ลูกทุ่งแผ่วมา..."

ทองกวาวกับบุปผาตามเสียงเพลงมาจนถึง ทั้งสองแอบฟังอย่างเคลิ้มไปกับเสียงเพลง...

พลันทุกอย่างก็ล่มสลาย เมื่อคล้าวกำลังจะร้องเพลงท่อนต่อไป แต่แว่นเห็นทองกวาวกับบุปผาเสียก่อน เสียงแตรที่เป่าก็แหกคีย์ ทุกอย่างหยุดกึก แว่นโผเข้าหาบุปผา และคล้าวโผเข้าหาทองกวาว

"อิจฉาคนมีแฟนว่ะ" ไข่บ่นกับตี๋ เห็นคล้าวกับแว่นโผเข้าหาคนรักแล้วอยากมีมั่ง

แว่นวิ่งฝ่าคล้าวที่กำลังไปหาทองกวาว กางแขนกะจะกอดบุปผาให้เต็มรัก เป็นจังหวะที่บุปผาก้มเก็บดอกไม้ทัดหูที่หล่นลงพื้นพอดี แว่นเลยถลาวืดตกน้ำโครม บุปผาเงยหน้าขึ้นอีกทีหาแว่นไม่เจอแล้ว ได้ยินเสียงต๋อมแต๋มหันไปมอง เห็นแว่นกำลังตะเกียกตะกายขึ้นจากน้ำ ท่ามกลางเสียงหัวเราะของทุกคน

บุปผาพาแว่นไปล้างตัวที่โคกนา พอล้างโคลนออกหมดแว่นก็ขอกอดให้ชื่นใจ ถูกบุปผาเอ็ดว่าอย่ามาทำรุ่มร่าม แต่ไม่ทันระวังตัว ถูกแว่นจู่โจมขโมยหอมแก้มเสียฟอดใหญ่

"พี่แว่นบ้า คนฉวยโอกาส" บุปผาตกใจมือไวกว่าความคิด ตบฉาดเข้าเต็มหน้าจนแว่นตาค้างเห็นดาวกลางวันแสกๆ

พอหายตกใจ บุปผาถามแว่นว่าเจ็บมากไหม แว่นกัดฟันบอกว่าไม่เจ็บเท่าไหร่แค่เหมือนถูกช้างถีบเท่านั้น บุปผาถามว่าจะเอาอีกข้างไหมจะได้เท่าๆกัน

"พอแล้วบุปผา มือหนักขนาดนี้ เดี๋ยวพี่แว่นก็ฟันร่วงหมดปากหรอก" ทองกวาวพูดกลั้วหัวเราะแล้วหันไปถามคล้าว  "เพลงที่พี่คล้าวร้องเมื่อกี้นี้เพราะจังเลย เพลงอะไรจ๊ะ"

คล้าวบอกว่าเพลงใหม่แว่นเพิ่งแต่ง บุปผาทำหน้าทึ่งถามว่าหน้าเซ่อๆอย่างนี้หรือแต่งเพลงเพราะๆอย่างนี้ได้ด้วย ทองกวาวเลยขอให้คล้าวร้องต่อให้ฟัง ปรากฏว่าคล้าวร้องต่อไม่ได้เพราะแว่นเพิ่งแต่งได้แค่นี้เอง เลยถูกพรรคพวกแซวกันขรม แว่นทำหน้าจริงจังคุยฟุ้งว่า ถ้าเพลงนี้ได้อัดขายมีหวังตนรวยเละแน่

"งั้นร้องให้บุปผาฟังอีกรอบได้ไหมจ๊ะ"

แว่นกระตือรือร้นรีบขึ้นเพลงให้คล้าวร้อง คล้าวทำเสียงหล่อเต็มที่ร้องไปมองหน้าทองกวาวไป

"หอมเอย...หอมดอก..."

"ปัง!" เสียงปืนแผดขึ้น วงแตกทันที ทั้งนักร้องนักดนตรีแตกกันกระเจิง ไข่กับตี๋กระโดดน้ำหนี ส่วนคล้าว แว่น ทองกวาว และบุปผายืนตะลึงอึ้งราวกับถูกสาป
พริบตานั้น ก้อนพ่อของทองกวาวก้าวออกมาหน้าตึงขึงขัง มองคล้าวกับแว่นราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ พูดเหมือนคำราม

"ข้านึกแล้วไม่มีผิด ว่าพวกเอ็งต้องล่อลวงลูกสาวหลานสาวข้ามาที่นี่แหงๆ"

บุปผาชี้แจงว่าคล้าวกับแว่นไม่ได้หลอกแต่พวกตนมากันเอง ก้อนเอ็ดว่ายังจะมาเถียงแล้วสั่งสองสาวให้กลับบ้าน บอกหมึกให้ลากตัวไป หมึกเข้าไปบอกสองสาวว่ากลับกันเถอะอย่าให้ลุงแกโมโหเลย ทองกวาวกับบุปผาจึงเดินตามหมึกไปจ๋อยๆ ส่วนก้อนก็หันไปด่าคล้าวกับแว่นต่อ

"ไอ้พวกไม่รู้จักดูกะลาหัวตัวเอง จนไม่รู้จักเจียม วันๆดีแต่ทำเสียงดังหนวกหูชาวบ้าน ทำมาหากินไม่เป็นรึไงวะ" คล้าวชี้แจงว่าถึงตนจะจนแต่ก็รักทองกวาวด้วยความจริงใจ ถูกก้อนถ่มน้ำลาย "ถุย! รักเหรอวะ คนจนอย่างเอ็ง รักใครเป็นด้วยเหรอวะ เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะโว้ย ก่อนจะมาทำปากกล้ากะข้า"  แว่นโต้กลัวๆกล้าๆว่าถึงจนก็มีหัวใจ  อาก้อน นั่นแหละรวยเสียเปล่าแต่ไม่มีดนตรีในหัวใจ

"ไอ้แว่น มึงด่ากูเรอะ!" ก้อนแผดเสียง เพชรยุว่าอย่างนี้ต้องสั่งสอนแล้วพ่อ ก้อนเลยยิงปืนขึ้นฟ้าอีกนัดหนึ่ง คราวนี้ทั้งคล้าวทั้งแว่นโกยแนบแบบตัวใครตัวมัน ก้อนตะโกนด่า "มันน่ายิงให้ไส้แตกนัก ไอ้ ไอ้...ไอ้พวกบ้า ไอ้พวกไม่มีหัวนอนปลายเท้า ไอ้พวก...กิ๊กก๊อก ไอ้...ไอ้...กูไม่รู้จะด่ายังไงแล้วว่ะ"

"ไอ้พวกคนจนไงพ่อ" เพชรช่วยคิด

"เออ...ไอ้พวกคนจน...ถุย!" ก้อนด่าส่งท้าย

บุปผากับทองกวาวได้แต่เกาะกุมกันดูเหตุการณ์ใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

ooooooo

คล้าวกับแว่นวิ่งไปเจอกันที่คอกควาย นั่งหอบแฮกกันแล้วต่างก็ถามว่าทำไมวิ่งหนีเสียฟอร์มหมด แว่นหาว่าคล้าววิ่งหนีก่อน คล้าวเลยท้าว่าถ้าไม่กลัวก็ลองกลับไปลองดูอีกที แว่นไม่เล่นด้วย ถามคล้าวว่าทำไมอาก้อนถึงไม่อยากได้เราสองคนเป็นเขยทั้งที่หน้าตาดี๊ดี

พอคล้าวบอกว่าก็น่าจะรู้เองนะว่าทำไม แว่นบ่นงึมงำว่าแค่ตนเป็นช่างตัดผม เป็นนักดนตรีนี่หรืออาก้อนถึงได้รังเกียจ บอกคล้าวว่า "ข้าจะทำให้อาก้อนเปลี่ยนใจให้ได้"

"ข้าก็ไม่มีวันถอดใจหรอก เพราะข้ารักทองกวาวคนเดียว วันนี้รักแค่ไหน พรุ่งนี้ก็รักมากขึ้นไปอีก อาก้อนต้องยอมใจอ่อนกับข้าซักวัน" คล้าวมุ่งมั่นมาก

ส่วนทองกวาวกับบุปผา พอกลับถึงบ้านก็ถูกก้อนสั่งห้ามออกไปไหนเด็ดขาด ถ้าขัดขืนคำสั่งโดนดีแน่ ทับทิมผู้เป็นแม่ก็บ่นว่าคล้าวกับแว่นมันมีดีตรงไหนถึงไปชอบมัน พอสองสาวบอกว่าเขาเป็นคนดี ทับทิมย้อนถามว่า แล้วความรักมันกินเข้าไปได้รึไง พอทองกวาวก้มหน้า ทับทิมอบรมต่ออีกว่า

"ที่แม่เตือนก็เพราะหวังดี บ้านเราก็มีหน้ามีตา ฐานะไม่ต้องอายใคร พ่อกับแม่เลี้ยงเราถึงวันนี้ ก็หวังว่าสักวันลูกจะได้คู่ครองที่สมน้ำสมเนื้อ ขืนได้คนอย่างไอ้คล้าว ไอ้แว่นมาเป็นเขย พ่อกับแม่ไม่มีวันตายตาหลับหรอก โตๆกันแล้ว ไปคิดดูกันเอาเอง" พูดแล้วทับทิมเดินออกไปเลย

"ทองกวาวไม่บอกป้าแกไปล่ะว่า ก่อนลุงจะได้แต่งงานกับป้า ลุงก็เคยจนมาก่อนเหมือนกัน แกไม่เห็นจะต้องรังเกียจคนจนเลย" บุปผากระซิบกับทองกวาว

"ใครจะกล้าพูดล่ะบุปผา" ทองกวาวตอบเบาๆ แล้วถอนใจเฮือกใหญ่

ooooooo

คอนแม่ของคล้าวกระเดียดกระจาดใส่ผักที่เก็บมาจากหลังบ้าน เดินมาเห็นคล้าวตั้งอกตั้งใจเอาดินเหนียวมาปั้นควายตัวเล็กๆ ก็บอกลูกว่าน้ำปลาในบ้านหมดแล้ว ถามว่าปั้นอะไรหรือ คล้าวบอกว่า

"ปั้นไอ้ฉ่ำจ้ะแม่ แม่ว่าเหมือนไหม หนูว่าจะเอาไปฝากทองกวาว เดี๋ยวหนูจะปั้นอีแฉะด้วย มันจะได้เป็นคู่กัน"

คอนมองลูกชายอย่างสงสารถามว่าเขาจะเอาหรือ เขามีของเล่นดีกว่านี้เป็นไหนๆ แล้วเตือนลูกชายว่าบ้านเรากับบ้านเขาผิดกันมาก แม่ไม่อยากให้ลูกผิดหวัง คล้าวเชื่อว่าทองกวาวไม่ใช่คนใจโลเล คอนก็เตือนว่าโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนเพราะยังมีพ่อแม่เขาอีก

"หนูรู้จ้ะแม่ แต่หนูแน่ใจว่าสักวันลุงก้อนกับอาทับทิมจะต้องยอมรับหนูได้" คล้าวมั่นใจมาก บอกแม่ว่าจะเอาน้ำปลาใช่ไหม เดี๋ยวจะถ่ายจากไหไปให้ คอนได้แต่มองลูกชายด้วยความสงสารกลัวลูกผิดหวัง

หลังจากนั้น คอนเอาบวบอ่อนๆ ลูกงามๆที่เก็บมาไป ฝากทับทิมที่บ้าน ถูกทับทิมถามอย่างดูแคลนว่าเอามาให้หรือเอามาขายเพราะเห็นได้ผักหญ้าอะไรก็เอาไปขายหมด แล้วบอกคอนว่ามาก็ดีแล้วมีเรื่องอยากคุยด้วยพอดี พอคอนถามว่าเรื่องอะไร ทับทิมมองหน้านิ่งๆบอกว่า "ก็เรื่องลูกชายของแกน่ะซิ"

แล้วทับทิมก็บอกคอนให้สอนลูกชายรู้จักตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองเสียบ้าง อย่าหมายเด็ดดอกฟ้า มันไม่มีวันเอื้อมถึงอยู่แล้ว

สุดท้ายทับทิมปรามอย่างเหยียดหยามว่า "พูดด้วยภาษาคนแค่นี้คงจะเข้าใจนะยะ" ทำให้คอนได้แต่ก้มหน้าเดินคอตกกลับไป ส่วนทับทิมหันไปหยิบบวบอ่อนๆงามๆจะเอาไปแกงเลียงกิน ทองกวาวเดินออกมาถามว่าได้ยินเสียงแม่คุยกับใครหรือ ทับทิมตอบอย่างขอไปทีว่าคนแถวนี้เอาบวบมาให้ แล้วรีบชวนทองกวาวเข้าบ้าน

ร้านตัดผม "ลมโชยเกศา" ของแว่น มีลูกค้าประจำที่มีความอดทนและรู้นิสัยกันดีกับแว่นเจ้าของร้านมาตัดประจำ วันนี้ขณะตัดผมให้ลูกค้าได้ครึ่งหัว แว่นนึกแต่งเพลงท่อนสามได้ ดีใจมากร้องบอกไข่ว่าแต่งได้แล้ว พลางท่องให้ฟัง "ได้คันเบ็ดสักคัน พร้อมเหยื่อ"

แว่นดีใจจนเนื้อเต้นร้องหากระดาษดินสอมาจดบอกลูกค้าที่เพิ่งตัดได้ครึ่งหัวให้กลับไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาตัดใหม่ แล้วหันไปฮัมเพลงท่อนใหม่ที่แต่งได้อย่างมีความสุข

บ่ายๆหมู่น้อยมือกลองของวงก็เดินถือถุงไข่หงส์มาอย่างระมัดระวังเพราะเตรียมซื้อไปฝากสายใจลูกตามิ่งขี้เมาที่ตัวเองหลงรักอยู่ แต่พอมาเจอไข่กับตี๋ที่นั่งไส้แห้งมาแต่เช้า สองหนุ่มก็รุมกันเข้าไปช่วยชิมจนหมดถุง แถมยังขอเงินไปซื้อข้าวกินอีก

สุดท้ายนอกจากไม่มีขนมไปฝากสายใจแล้วยังต้องควักเงินให้ตี๋กับไข่ไปกินข้าวอีก 20 บาท แต่ความรักเพื่อน หมู่น้อยไม่บ่นสักคำ

ooooooo

ส่วนสายใจวันนี้ตั้งอกตั้งใจแกงส้มดอกแค

กลิ่นหอมฉุย สายใจตักใส่ชามควานหาพุงปลาตั้งใจเอาไปให้คล้าวหนุ่มเนื้อหอมแห่งบ้านหนองทรายขาวที่ตัวเองแอบรัก พอดีมิ่งเมากลับมา ดวงใจผู้เป็นน้องสาวบ่นพ่อก็ถูกเอ็ดว่าอย่ามายุ่ง ตนเครียด แล้วสูดกลิ่นบอกว่าได้กลิ่นแกงส้มให้ตักมาให้สักชามเอาพุงปลาด้วย

พอดีสายใจถือชามแกงส้มออกมา มิ่งชะโงกดูเห็นพุงปลาก็โวยวายว่าแทนที่จะเอาพุงปลาไว้ให้พ่อกินกลับเอาไป

ถวายไอ้คล้าวเสียงั้น

"ขี้เมาอย่างพ่อก็แทะหัวปลาไปก่อนละกัน" สายใจพูดแล้วประคองชามแกงส้มเดินออกไป

"อีบ้า...เห็นผู้ชายดีกว่าพ่อตัวเอง เอาพุงปลากูคืนมา... อีสายใจ..." มิ่งโวยวายแต่ไม่ได้กินพุงปลาอยู่ดี

ถึงไม่มีอะไรมาฝากสายใจ หมู่น้อยก็ยังไปยืนดักขอคุยด้วย ถูกสายใจด่าว่างานการไม่ทำ ขโมยเต็มบ้านเต็มเมือง กินเงินเดือนหลวงทุกเดือนไม่ละอายใจบ้างรึไง

หมู่น้อยอ้างว่าตอนนี้ออกเวรแล้วและอีกอย่างไม่มี เจ้าทุกข์แจ้งความด้วยแล้วจะให้ไปจับใครได้ พอสายใจบอกว่าที่หลังวัดมีทั้งตีไก่ ทั้งบ่อนไฮโลให้ไปจับได้เลย หมู่ก็อ้างว่า ไว้วันหลังแล้วกัน วันนี้ออกเวรแล้ว พลางทำท่าสูดกลิ่นแกงส้มบอกว่าน่ากินจัง สายใจดันหน้าหมู่ออกไปบอกว่าจะเอาไปให้คล้าว

หมู่น้อยบ่นอย่างน้อยใจว่าอะไรๆก็ไอ้คล้าว เมื่อไหร่ หมู่น้อยคนนี้จะได้ชิมแกงส้มฝีมือสายใจบ้าง พอได้รับคำตอบว่าชาติหน้าตอนบ่ายแก่ๆ หมู่น้อยก็หัวใจแทบสลาย ยืนมองสายใจเดินผ่านไปหน้าละห้อย

ooooooo

สายใจประคองชามแกงส้มไปให้คล้าวบอกว่าเอามาฝาก มีพุงปลามาด้วย คล้าวขอบใจถามว่าทำไมไม่เอาไว้ให้มิ่งกิน สายใจบอกว่าพ่อไม่ชอบกินหรอกตนเลยตักมาให้พี่คล้าวดีกว่า

"งั้น...หนูยกให้แม่แล้วกันนะจ๊ะ" คล้าวบอกคอนที่นั่งยิ้มอยู่ สายใจชมว่าคล้าวน่ารักจัง มีอะไรก็ให้แม่ก่อน คล้าว มองแม่แล้วมองสายใจบอกเธอว่า "ก็เรามีแม่อยู่คนเดียวนี่จ๊ะสายใจ ตอนเด็กๆแม่ให้เราได้ทุกอย่าง ตอนนี้เราโตแล้วก็ต้องให้ ทุกอย่างแก่แม่ได้เหมือนกัน เดี๋ยวพี่เอาแกงไปเก็บใส่ตู้ก่อนนะ"

พอคล้าวยกชามแกงส้มไป สายใจบอกคอนว่าโชคดีมีลูกชายน่ารัก ถามเป็นนัยว่าไม่อยากได้ลูกสาวน่ารักสักคนบ้างหรือ คอนรู้ความหมายบอกสายใจว่า "เรื่องนี้ต้องแล้วแต่เขา"

แต่พอคืนนี้ขณะคล้าวไปดูไอ้ฉ่ำกับอีแฉะที่คอกเห็นท้องอีแฉะตึงๆบอกแม่ว่าสงสัยมันท้อง คงต้องขยายคอก คอนเลยได้จังหวะคุยกับคล้าวว่า เราอยู่กันสองคนเหงาๆเหมือนกันถ้ามีใครสักคนก็คงดี คล้าวถามขำๆว่าใครจะมาอยู่เพิ่มล่ะจ๊ะ

"อีกหน่อยเอ็งก็แต่งเมีย" คอนมองหน้าคล้าวอย่างหยั่งใจ คล้าวบอกแม่ว่าแต่งเมียจริงๆตนก็ต้องไปอยู่บ้านพ่อตา "ลูกสะใภ้เขาอาจจะอยากมาอยู่กับเราก็ได้นี่" คอนทักท้วงสะกิดให้คิด

"นาอาก้อนเขาตั้งหลายร้อยไร่ เขาคงอยากให้หนูไปช่วยทำน่ะจ้ะแม่" คล้าวยังไม่เฉลียวใจ จนคอนบอกว่าแม่หมายถึงสายใจ คล้าวบอกแม่จริงจังว่า "แต่หนูไม่เคยคิดอะไรกับสายใจ หนูเอ็นดูมันเห็นมันเป็นแค่น้องสาวคนนึงเท่านั้นเองจ้ะแม่"

"แม่รู้ว่าใจเอ็งฝักใฝ่อยู่แต่กับทองกวาว คล้าวเอ๊ย...เขานะเหมือนนางฟ้านางสวรรค์นะลูก มันต่างกับเรามาก จะรักใครชอบใครดูให้เหมาะให้สมให้ทัดเทียมกับฐานะของเรา มันจะดีกว่านะลูก" พูดแล้วเห็นคล้าวหน้าจ๋อยไป คอนลูบหัวลูกปลอบว่า "ที่แม่เตือนก็เพราะไม่อยากเห็นลูกต้องปวดหัวใจ"

คล้าวพูดไม่ออก จนคอนค่อยๆเดินออกไป คล้าวสลดหดหู่ หยิบขลุ่ยที่เหน็บอยู่ข้างเอวยกขึ้นเป่าเพลง "ลาวดวงเดือน" อย่างเศร้าสร้อย...

ooooooo

คืนนี้ เสียงขลุ่ยเพลงลาวดวงเดือนแว่วมาจากทางบ้านคล้าว ทองกวาวกับบุปผารู้สึกคืนนี้เพลงเศร้ายังไงไม่รู้ บุปผาชวนไปดูคล้าวกัน ทองกวาวบอกว่าค่ำมืดแล้ว อีกอย่างพ่อกับแม่เพิ่งห้าม แต่เชื่อว่าสักวันพ่อกับแม่ก็ต้องเห็นถึงความดีของคล้าวเลิกห้ามตนรักกับคล้าว

บุปผาถอนใจบอกทองกวาวว่าคล้าวนั้นดีเห็นๆกันอยู่ แต่แว่นของตนนี่สิดีตรงไหนตนก็ยังนึกไม่ออกเลย

ทองกวาวฟังบุปผาแล้วหัวเราะขำๆออกมา

ooooooo

จอมเป็นผู้มีอันจะกินกระทั่งมั่งคั่งในหมู่บ้านของทรายขาวปล่อยเงินกู้ให้ชาวบ้านจนกลายเป็นผู้มีอิทธิพลที่ชาวบ้านพากันทั้งกลัวทั้งเกลียด จอมมีลูกชายชื่อเจิด ที่พอโตเป็นหนุ่มก็กร่างไปทั่วแต่ที่แท้ขี้ขลาดตาขาว

วันนี้จอมยืนเท่อยู่บนรถอีแต๋นรุ่นล่าสุดเจิดขับตะลุยเข้าไปในตลาด มีลูกน้องประกบซ้ายขวา พอชาวบ้านร้านตลาดเห็นจอมมาก็พากันหลบหน้า บ้างหนีไปหลังร้าน บ้างหลบไปจากแผงขายของ บ้างไม่มีทางไปก็นั่งก้มหน้างุด ส่วนบางคนตกใจมากถึงกับตัวสั่นทำทีเป็นไข้

ทั้งหมดนี้เพราะไม่มีเงินใช้หนี้หรือส่งดอกให้จอม เจ้าหนี้หน้าเลือดนั่นเอง

เมื่อเข้าในตลาดแล้ว สมุนลงจากรถทรุดลงยองๆให้จอมเหยียบไปบนหน้าขาเพื่อลงจากรถ จอมถือไม้เท้าลงมาอย่างเท่ กวาดตามองไปรอบๆอย่างผู้ยิ่งใหญ่ แล้วเดินอาดๆเข้าไปทักทายลูกหนี้ที่นั่งขายของอยู่เป็นการทวงหนี้โดยปริยาย

ส่วนเจิดไปเดินกร่างอยู่อีกมุมหนึ่งของตลาด เจอสายใจคนสวยก็เข้าไปกะลิ้มกะเหลี่ยทักว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ตนจะขอฟรีๆได้ไหม พูดเป็นนัยแล้วหัวเราะร่า ถูกสายใจด่าก็หัวเราะกับสมุนที่ไปด้วย คว้ามือสายใจถามว่าจะซื้อตัวเธอขายเท่าไหร่

สายใจฉุนขาดยกถังน้ำข้างตัวสาดใส่จนเจิดเปียก กางเกงใหม่ใส่มายังไม่เคยซักเปียกน้ำก็หดขากางเกงเต่อ เจิดขายหน้าแจ้นกลับไปฟ้องจอมให้พอช่วย

เป็นเวลาที่จอมกำลังไล่บี้คอนแม่ของคล้าวที่เอาผักปลาที่หาได้ไปขายในตลาด จอมจะเอาดอกกับต้นให้ได้ถ้าภายใน 3 วันไม่ได้จะยึดที่นา แว่นผ่านมาเห็นวิ่งอ้าวไปหาคล้าวที่เพิ่งแยกกัน

จอมแสดงความถ่อยสถุล เมื่อไม่พอใจก็เตะกะละมังใส่ปลาของคอนจนคว่ำแล้วเดินผ่านไป


ที่อีกมุมหนึ่งของตลาด ทองกวาวกับบุปผามาตลาดโดยมีหมึกคอยเดินคุมต้อยๆตามคำสั่งของก้อนผู้เป็นพ่อ แต่ ข้างหลังหมึกคล้าวเดินตามมาอย่างรอโอกาส

ทองกวาวออกอุบายให้เงินหมึกไปซื้อขนมครกแล้วจะพากันเดินหนีไปทางอื่น แต่ไม่ทันทำอะไรแว่นก็วิ่งมาบอกคล้าวให้รีบไปดูแม่ ทั้งคล้าว ทองกวาว บุปผา และแว่นพากันวิ่งไปดูคอน

ooooooo

คอนร้องไห้บอกคล้าวว่าถ้าเราหาเงินไปใช้หนี้จอมไม่ได้ภายใน 3 วัน จะถูกยึดนา คอนร้องไห้บอกว่าแม่ผิดเองที่ไปกู้เงินเขามา

คล้าวปลอบใจแม่ว่าไม่เป็นไรตนจะหาเงินมาให้ได้ ยังไงก็ยอมตายไม่ยอมให้มายึดที่นาเด็ดขาด บุปผาบอกคล้าว ว่ามีอะไรให้ช่วยก็บอก ตนยินดีช่วย พอดีหมึกซื้อขนมครกเสร็จตามมาเจอเห็นคล้าวก็ถามว่าทำไมมาอยู่ตรงนี้ล่ะ ทองกวาวกับบุปผามองหน้ากันอย่างเหนื่อยใจ บุปผาขู่หมึกว่า

"เอ็งอย่าพูดมากนะไอ้หมึก ไม่งั้นวันหลังข้าจะไม่ซื้อขนมครกให้เอ็งกินด้วย"

หมึกหุบปากเม้มสนิททันที

ooooooo

คล้าวพาแม่กลับไปนอนพักที่บ้าน หนักใจไม่รู้ว่าจะหาเงินที่ไหนมาให้จอม แว่นแสดงความเป็นมิตรแท้บอกว่าช่วยคล้าวเต็มที่ พอคล้าวมองหน้า แว่นยิ้มเฝื่อนๆบอกว่า "ช่วยให้กำลังใจไงล่ะ"

เมื่อมืดแปดด้าน คล้าวไปกราบหลวงพ่อที่วัดแต่ไม่ยอมปริปากเรื่องความทุกข์ใจ แต่หลวงพ่อดูออกถามจนคล้าวยอมบอก หลวงพ่อมองคล้าวอย่างพินิจ พูดว่า

"อืม...เอ็งกำลังจนหนทาง แต่เอ็งไม่จนปัญญาใช่ไหม"

คล้าวบอกว่างานอะไรก็ได้ตนทำได้ทั้งนั้น หลวงพ่อบอกว่าพรุ่งนี้จะมีงานวัด คล้าวพอมีทางหาเงินได้ อยู่ที่จะทำหรือไม่เท่านั้น

งานที่หลวงพ่อพูดถึงคือชกมวย คล้าวตัดสินใจจะขึ้นชกเพื่อหาเงิน ทั้งๆที่ไม่เคยชกมวยเลยสักครั้ง แว่น ไข่กับตี๋แย่งกันเป็นพี่เลี้ยง สุดท้ายคล้าวเอาทั้งสามคน แว่นถามว่าแล้วทองกวาวรู้เรื่องนี้รึยัง พอคล้าวบอกว่ายัง แว่นอาสาทันที

"งั้นข้าอาสาไปส่งข้าวให้เอง ข้ารู้...ถ้าทองกวาวมันไปดูเอ็ง เอ็งต้องมีกำลังใจขึ้นอีกโขเลยใช่ไหมวะ"

คล้าวไม่ตอบแต่ยิ้มอย่างดีใจ

ooooooo

คืนนี้แว่น ตี๋ และไข่ไปทำเสียงนกกะปูดร้องส่งสัญญาณเรียกบุปผากับทองกวาวที่ข้างหน้าต่าง สองสาวโผล่หน้าต่างมาดู เพราะหน้าห้องหมึกมากางมุ้งนอนขวางประตูอยู่ตามคำสั่งของก้อน

แว่นเหยียบไหล่ไข่กับตี๋ขึ้นไปในขณะที่ตี๋ยังทำเสียงนกกะปูดร้องอยู่ ทีแรกก้อนได้ยินก็ไม่สนใจ แต่พอเพชรบอกว่านกกะปูดมันร้องกลางคืน เพราะมันเหงาเลยมาหาคู่ เท่านั้นเอง ก้อนก็ลุกพรวดขึ้นทันที

แว่นเหยียบบ่าไข่กับตี๋โผล่หน้าขึ้นไปคุยกับบุปผาและทองกวาว บอกทองกวาวที่ถามถึงคล้าวว่า

"ไอ้คล้าวมันต้องเก็บตัว มันฝากพี่มาส่งข่าวทองกวาว มันอยากได้เงินรางวัล มันจะขึ้นชกมวยคืนพรุ่งนี้" ทองกวาวรำพึงว่าสงสารคล้าว แว่นยุว่า "ถ้าสงสาร ทองกวาวก็ต้องไปเชียร์มันให้ได้นะ ไอ้คล้าวมันรอกำลังใจจากทองกวาวคนเดียว"

ไข่กับตี๋บ่นว่าเมื่อไหร่จะคุยเสร็จ พวกตนแบกรับน้ำหนักไม่ไหวแล้ว ขณะนั้นเองมีมือมาสะกิดไหล่ตี๋ ถูกตี๋เอ็ดว่ารู้แล้วมาสะกิดทำไม ไข่ถามว่าใครสะกิดมือตนอยู่นี่ ตี๋ถามว่า... "มือใครวะ"

"มือกูเอง...นี่มือกู แล้วนี่ก็ปืนกู!" เสียงก้อนคำรามใส่

เท่านั้นเอง ถึงสามเกลอจะรักกันแค่ไหน แต่เมื่อถึงเวลานี้ต่างก็หนีกันกระเจิงแบบตัวใครตัวมัน ถูกก้อนไล่ยิงตามหลังไปหลายนัด

ทองกวาวกับบุปผาลุ้นกันใจหายใจคว่ำขอให้ทุกคนปลอดภัย

ooooooo

1 ความคิดเห็น:

  1. น่าจะเพิ่มมนต์รักลูกทุ่งให้ครบทุกตอนตั้งแต่เริ่มจนจบนะคะ หนูอยากอ่านมากๆเลยด้วย ช่วยหาเพิ่มเติมด้วยได้ไหมคะ

    ตอบลบ